ทันใดนั้นเขาก็ทำท่ามือด้วยมือข้างหนึ่งแล้วชี้ไปยังมุกสีดำ
“ตู๊ม!”
เงาค่ายกลอักขระพุ่งออกมายี่สิบห้าชั้น
“เป็นแค่อาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำ!”
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็มีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
แต่ครู่ต่อมาค่ายกลอักขระก็สั่นสะท้าน และส่งเสียงดังออกมา จากนั้นก็กลายเป็นกลุ่มหมอกสีดำอันหนาแน่น เงาร่างยอดเขาสีเหลืองลูกเล็กๆ ปรากฏอยู่ในนั้นลางๆ
“นี่คือ……”
สีหน้าหลิ่วหมิงเคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง
มันดูต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก เวลากระตุ้นมุกพลังวารีแบบเดิม เวลากระตุ้นจะไม่มีเหตุการณ์พิเศษเช่นนี้
หลิ่วหมิงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เขารีบส่งพลังจิตเข้าไปดูภายในมุกกลมๆ ผ่านไปไม่นาน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป
เขาสะบัดแขนเสื้อในฉับพลัน แสงสีฟ้ากระพริบผ่านไป จากนั้นหอยสังข์ย่อส่วนก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง
หลิ่วหมิงจับหอยสังข์ย่อส่วนไว้ และส่งพลังจิตเข้าไปตรวจสอบด้านใน จากนั้นเขาก็ต้องหลุดปากออกมา
“ดินปราณทองคำบริสุทธิ์หายไปแล้ว! คิดไม่ถึงว่าเขาจะละลายวัสดุระดับนี้เข้าไปในมุกพลังวารี แต่กลับยกระดับไปถึงแค่อาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำเท่านั้น!”
ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก!
อย่างที่รู้ว่า เดิมทีเขากะจะใช้ดินปราณทองคำบริสุทธิ์มาหลอมเป็นเตาหลอมโอสถจิตวิญญาณ แต่ตอนนี้กลับถูกคนที่ยึดร่างใช้ไปหมดแล้ว เขาจึงรู้สึกทั้งตกใจทั้งโมโห
หากดินปราณทองคำบริสุทธิ์สามารถยกระดับมุกพลังวารีไปถึงระดับสุดยอดได้ก็แล้วไป แต่ตอนนี้กลับอยู่แค่ระดับต่ำเท่านั้น มันได้ไม่คุ้มกับเสียเลย
หลิ่วหมิงรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่เพียงชั่วครู่ หลังจากขบคิดไปมาก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง
ด้วยระดับฝีมือการหลอมอาวุธของผู้ที่ยึดร่างเขา สามารถทำให้กระบี่จันทราหยกไปถึงระดับสุดยอดได้อย่างง่ายดาย แล้วทำไมจะไม่รู้ว่าดินปราณทองคำบริสุทธิ์นี้ล้ำค่าแค่ไหน
หลิ่วหมิงมองดูมุกกลมๆ ในมือด้วยตาที่เป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บหอยสังข์ย่อส่วนกับสิ่งของอื่นๆ เข้าไป พอมั่นใจว่าไม่มีอะไรตกค้างแล้ว เขาก็ปล่อยไอดำออกมาจากตัว
“ฟู่!”
ร่างหลิ่วหมิงถูกไอดำห่อหุ้มไว้ และพุ่งออกจากยอดเขา
ไอดำพวยพุ่งรวมตัวกัน จากนั้นเขาก็มาปรากฏตัวกลางอากาศ
เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้า และปล่อยพลังจิตสำรวจดูรอบด้าน พอมั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีคนอื่นๆ แล้ว ถึงพลิกมือข้างหนึ่งขึ้นมา มุกกลมๆ สีดำปรากฏขึ้นบนมือ
หลิ่วหมิงร่ายคาถา และเริ่มส่งพลังเวทย์เข้าไปในมุกกลมๆ
พริบตาเดียวมุกพลังวารีก็หนักขึ้นกว่าเดิมหมื่นจิน!
หากไม่ใช่ว่าเขาทำการป้องกันไว้แต่แรก และมีพลังที่มากขึ้นล่ะก็ มุกพลังวารีนี้อาจจะหลุดมือตกลงไปแล้วก็ได้
ครู่ต่อมา เขาหยุดร่ายคาถา และโยนมุกพลังวารีไปยังเขาลูกเล็กๆ ที่สูงหลายร้อยจั้งในบริเวณนั้น
พอมุกพลังวารีหลุดจากมือ หมอกสีดำจำนวนมากก็ทะลักออกมา และเคลื่อนไหวไปอยู่เหนือยอดเขาลูกนั้น
“ตู๊ม!”
เงาร่างยอดเขายักษ์สีเหลืองลอยออกจากหมอกดำ หมอกดำทั้งหมดม้วนตัวเป็นแม่น้ำยาวสีดำลอยวนรอบยอดเขายักษ์สองสามรอบ จากนั้นทั้งสองก็ร่อนลงมาด้วยเสียงอันดัง
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
ยอดเขาด้านล่างถูกเงาร่างยอดเขายักษ์กดดันจนระเบิดตัวออกมา ขณะเดียวกันหมอกดำก็พวยพุ่งในรัศมีลี้กว่าๆ ทำให้อากาศบริเวณนั้นมีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกเย็นสะท้านขึ้นมา
เกรงว่าการโจมตีระดับนี้ คงไม่ใช่เรื่องที่อาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำชิ้นหนึ่งจะสามารถทำได้ อีกอย่าง เมื่อครู่เขาไม่ได้ใช้พลังเวทย์ทั้งหมด ชั้นจำกัดที่เพิ่มขึ้นมาในมุกพลังวารีก็ยังไม่ได้นับการปรับแต่งที่แท้จริง
เขาแสดงสีหน้าราวกับคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็โบกไปยังอากาศที่อยู่ไกลๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา