ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 287

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 287 แผนการสามแก่นหกศิษย์
ตอนที่ 287 แผนการสามแก่นหกศิษย์
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอได้ยินหลิ่วหมิงถามเช่นนี้ อาจารย์อาเยี่ยนกับประมุขนิกายปีศาจก็มองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ ในที่สุดประมุขนิกายปีศาจก็กระแอมไอแล้วกล่าวออกมา

“ในเมื่อศิษย์น้องหลิ่วเข้าสู่ระดับของเหลวแล้ว ก็สามารถอ่านข้อมูลที่ถูกปิดผนึกไว้สำหรับศิษย์ทั่วไปได้ ข้อมูลเกี่ยวกับราชวงศ์เจ้าสมุทรก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าศิษย์น้องอยากรู้ในตอนนี้ล่ะก็ ข้าสามารถเล่าให้ฟังก่อนเล็กน้อยได้”

“หวังว่าศิษย์พี่ท่านประมุขจะชี้แนะ!” พอได้ยินเช่นนี้ หลิ่วหมิงก็โค้งตัวเล็กน้อย

“ไม่ทราบว่าศิษย์น้องรู้เรื่องเกี่ยวกับแผ่นดินอวิ๋นชวนมากน้อยแค่ไหน รู้หรือไม่ว่าโลกภายนอกอวิ๋นชวนนั้นมีขนาดใหญ่เท่าใด” ประมุขนิกายปีศาจถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ข้าเหมือนกับเคยได้ยินคนพูดว่าแผ่นดินอวิ๋นชวนเราไม่นับว่าใหญ่มาก และนอกจากอวิ๋นชวนแล้ว ยังมีแผ่นดินจงเทียน ซึ่งปรมาจารย์ลิ่วยินของนิกายเราก็ระเหเร่ร่อนมาจากแผ่นดินนี้” หลิ่วหมิงเงียบไปสักครู่แล้วกล่าวออกมา

“ศิษย์น้องรู้จักแผ่นดินจงเทียนด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง แต่แผ่นดินอวิ๋นชวนเป็นแค่ชื่อเรียกที่แต่ละนิกายเรียกขึ้นมาเองเท่านั้น ชื่อที่แท้จริงควรจะเรียกว่าเกาะอวิ๋นชวน ซึ่งไม่อาจเทียบกับแผ่นดินที่แท้จริงอย่างแผ่นดินจงเทียนได้เลย และผู้คนในแผ่นดินจงเทียนมีเป็นร้อยๆ ล้าน นิกายน้อยใหญ่ก็สุดคณานับ เป็นจุดกำเนิดที่แท้จริงของเผ่ามนุษย์เรา และยังมีแผ่นดินหมานฮวงที่เผ่าภูตปกครองอยู่ แผ่นดินวั่นหมัวที่เผ่าที่ปีศาจปกครองอยู่ นอกจากนี้ ได้ยินมาว่ายังมีแผ่นดินที่เล็กลงมาอีกหน่อย ซึ่งมีขนาดแค่หนึ่งในพันหรือหนึ่งในหมื่นของแผ่นดินใหญ่ที่แท้จริงเท่านั้น ทั้งหมดล้วนถูกต่างเผ่าครอบครองอยู่ แต่พื้นที่มีขนาดใหญ่กว่าเกาะอวิ๋นชวนของเราหลายเท่า” ประมุขนิกายปีศาจค่อยๆ กล่าวออกมา

“คิดไม่ถึงว่าโลกภายนอกจะกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้!” พอหลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

ประมุขนิกายปีศาจค่อยๆ ยิ้มออกมา จากนั้นก็กล่าวต่ออย่างไม่รีบร้อน

“แต่พื้นที่อื่นๆ นอกจากแผ่นดินเหล่านี้ ล้วนเป็นทะเลไร้ขอบเขต ชังไห่เป็นชื่อเรียกเขตพื้นที่ทะเลที่มีเกาะอวิ๋นชวนของเรารวมอยู่ในนั้น เทียบกับอีกสองแผ่นดินใหญ่ที่แท้จริงแล้ว มันใกล้กับแผ่นดินอวิ๋นชวนของเรามากที่สุด เขตพื้นที่ทะเลแห่งนี้มีเกาะอยู่นับพัน เกาะที่มีขนาดใหญ่กว่าอวิ๋นชวน คงมีมากถึงเจ็ดแปดเกาะ และเกาะที่มีขนาดพอๆ กับอวิ๋นชวนก็มีมากกว่าสิบเกาะ ซึ่งส่วนมากถูกเผ่าเจ้าสมุทรกับปีศาจอสูรที่แข็งแกร่งครอบครองไว้หมดแล้ว เกาะขนาดใหญ่ที่มนุษย์เราครอบครองอยู่ก็มีไม่ค่อยมาก และกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเขตทะเลชังไห่ คือเผ่าเกล็ดทองที่ขนานนามตนเองว่าราชวงศ์ชังไห่ เผ่านี้ไม่เพียงแต่จะครอบครองเกาะขนาดใหญ่หลายเกาะ แต่ยังมีผู้แข็งแกร่งอยู่นับไม่ถ้วน ลำเพียงแค่ระดับแก่นเสมือนก็คงมีเกือบสิบกว่าคน แต่ดีที่เผ่าเจ้าสมุทรนี้หยิ่งยโสมาโดยตลอด จึงไม่คบค้าสมาคมกับต่างเผ่า บวกกับอวิ๋นชวนเราอยู่ห่างไกลจากทะเลชังไห่ จึงติดต่อกับเผ่านี้น้อยมาก แน่นอนถ้าตามดูที่มาของแต่ละนิกายบนเกาะอวิ๋นชวนล่ะก็ จะพบว่าส่วนมากมีความสัมพันธ์อันล้ำลึกกับนิกายในแผ่นดินจงเทียน สิ่งนี้ทำให้ราชวงศ์ชังไห่รู้สึกหวาดกลัวมาโดยตลอด ที่ครั้งนี้เผ่าเจ้าสมุทรส่งผู้แข็งแกร่งระดับแก่นเสมือนมาช่วยสามเผ่าเจ้าสมุทรในอวิ๋นชวน เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเรามาก”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! ข้าว่าแล้ว ทำไมราชวงศ์ชังไห่มีผู้แข็งแกร่งระดับนี้ แต่กลับได้ยินชื่อเสียงมาน้อยมาก” หลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ก็เริ่มเข้าใจเล็กน้อยแล้ว

“หากศิษย์น้องสนใจข่าวลับนี้ล่ะก็ กลับไปนิกายสามารถใช้แต้มคุณูปการจำนวนหนึ่ง เพื่ออ่านเนื้อหาอย่างละเอียดเองได้” ประมุขนิกายปีศาจฟั่นหนวดกล่าว

หลิ่วหมิงพยักหน้า

“แม้จะพักศึกกับเผ่าเจ้าสมุทร และกองทัพก็ถอยกลับไปแคว้นไห่เยวี่ยแล้ว ซึ่งมีโอกาสต่ำมากที่ฝ่ายตรงข้ามจะกลับมา แต่สถานที่แห่งนี้ยังต้องมีกองกำลังตั้งมั่นอยู่เป็นจำนวนมาก หลายวันมานี้พวกเราแต่ละนิกายได้หารือกันในเรื่องนี้ พอถึงเวลาจะส่งคนที่มีความสามารถตั้งมั่นอยู่ที่นี่ ศิษย์น้องหลิ่วเป็นผู้ฝึกฝนระดับของเหลว ไม่แน่อาจจะต้องอยู่ที่นี่สักระยะเวลาหนึ่ง” ประมุขนิกายปีศาจคิดไปคิดมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมา

“ถ้าแต่ละนิกายต้องการให้หลิ่วหมิงรับใช้ หลิ่วหมิงย่อมไม่สามารถเลี่ยงได้” หลิ่วหมิงตอบอย่างไม่ลังเล

“ดีมาก! แต่ศิษย์หลานหลิ่วเพิ่งเข้าสู่ระดับของเหลวได้ไม่นาน ศิษย์หลานประมุขจะต้องจัดคนอื่นๆ ให้อยู่ดูแลที่นี่เป็นกลุ่มแรกใช่ไหม!” อาจารย์อาเยี่ยนพลันกล่าวออกมา

“ทราบ! ศิษย์คิดไม่รอบคอบเอง ควรจะให้ศิษย์น้องหลิ่วกลับไปฝึกฝนให้มั่นคงชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อน” ประมุขนิกายปีศาจได้ยินเช่นนี้ ก็หันมากล่าวอย่างนอบน้อม

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็กล่าวขอบคุณออกมา

เวลาที่เหลือ หลิ่วหมิงได้ฟังรายละเอียดการต่อสู้ของทั้งสองเผ่าในวันนั้นจากปากประมุขนิกายปีศาจ และรู้ว่าผู้แข็งแกร่งระดับผลึกของแต่ละนิกายโชคดีรอดมาได้ และไม่มีใครเสียชีวิตเลย แต่ผู้ฝึกฝนระดับของเหลวกับศิษย์ทั่วไปกลับล้มตายเป็นจำนวนมาก

ลำพังแค่นิกายปีศาจก็มีอาจารย์จิตวิญญาณเสียชีวิตไปหกเจ็ดคน ในนั้นมีจูชื่อที่เป็นอาจารย์จิตวิญญาณสาขาเก้าทารก แม้กระทั่งหัวหน้าสาขาหยินทนทรมาณที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกุยหรูฉวนมาโดยตลอด ก็เสียชีวิตในศึกนี้ด้วย

ส่วนศิษย์จิตวิญญาณก็ล้มตายไปเกือบครึ่งหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา