ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 29

เสียงดัง “เพล้ง” ประกายไฟสาดกระเด็นไปทั่ว

หลิ่วหมิงรู้สึกร้อนที่มือทั้งสอง แรงดีดกลับอย่างรุนแรงทำให้เขาเกือบจะสะบัดจอบเงินทิ้ง

ดินนี้แข็งราวกับเหล็กบริสุทธิ์ จอบเงินไม่สามารถทะลุดินได้เลยแม้แต่น้อย

หลิ่วหมิงตกตะลึง เขารีบก้มลงไปสำรวจพื้นดินทันที เขาถึงค้นพบว่าดินนี้ต่างกับที่ดินทั่วไป ดินเหนียวข้างในมีสีม่วงแก่

และรากหญ้าวัชพืชเหล่านี้ซอนลึกลงไปใต้ดินมาก เกาะติดอยู่กับดินราวกับจะเป็นเนื้อเดียวกัน

เขาขมวดคิ้วเอานิ้วแหย่ลงไปในดินสีม่วงแก่ รู้สึกถึงความเย็นและแข็งผิดปกติ

“เจ้าเด็กน้อย ไม่ต้องสำรวจแล้ว นี่ไม่ใช่ดินธรรมดา แต่เป็น ‘ดินปราณ’ วิธีการธรรมดาไม่อาจพรวนดินนี้ได้” ชายแถวนั้นเปลือยกายท่อนบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่น เห็นการกระทำของหลิ่วหมิงแล้ว ก็หัวเราะออกมาทันที

“ดินปราณ”

แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่หลิ่วหมิงได้ยินชื่อนี้ เขาลุกขึ้นมองไปยังศิษย์สายในที่เร่งมือทำงานอยู่ทันที

ศิษย์แต่ละคนในแปลงนาที่อยู่ใกล้ๆ ถึงแม้จะสะบัดจอบเงินลงพื้นอย่างบ้าระห่ำ โดยไร้สุ้มเสียง แต่พลิกได้แค่หน้าดินบางๆ ลึกชุ่น[1]กว่าๆ เท่านั้น

และจอบเงินในมือของพวกเขา แต่ละด้ามส่องประกายแสงสีขาว เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่การพรวนดินที่ง่ายเลย

“ของสิ่งนี้ที่แท้ก็เป็นอาวุธอาญาสิทธิ์ชิ้นหนึ่ง”

หลิ่วหมิงละสายตากลับมา แล้วมองลงไปยังสิ่งของที่อยู่ในมือตนเอง ถึงค้นพบว่าบนจอบนั้นมีอักขระจิตวิญญาณสลักอยู่ เขาแสดงสีหน้าแปลกใจอย่างอดไม่ได้

“ในเมื่อเป็นอาวุธอาญาสิทธิ์ ก็ต้องลองใช้พลังภายในแล้ว” พอหลิ่วหมิงคิดได้ ก็กระตุ้นพลังภายในแล้วส่งผ่านมือทั้งสองเข้าไปยังจอบเงินนั้น

แต่ผ่านไปครู่เดียวหน้าเขาก็เปลี่ยนสี

ไม่ว่าเขาจะส่งพลังภายในไปเท่าไหร่ก็ตาม ก็เหมือนกับว่ามันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วเข้าหาทัน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเปลี่ยนพลังภายในให้เป็นพลังเวทย์ค่อยๆ ส่งเข้าไปยังสิ่งของที่อยู่ในมือ

ผ่านไปชั่วครู่ อักขระจิตวิญญาณที่อยู่บนจอบเงินก็เปล่งแสงสีขาวนวลออกมา

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

มิน่าล่ะสถานที่แห่งนี้ถึงมีแต่ศิษย์สายใน ไม่เห็นมีศิษย์สายนอกอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ถ้าอยากจะพรวนดินปราณ ต้องใช้พลังเวทถึงจะทำได้

พอหลิ่วหมิงเข้าใจแล้ว ก็ไม่คิดอะไรอีก สองมือเริ่มขยับ จอบสีเงินพุ่งลงไปบนพื้นอีกครั้ง

เสียงดัง “สวบ”

จอบเงินที่ลงไปบนพื้น ยังคงส่งเสียงดัง แต่ในที่สุดก็สามารถพรวนดินสีม่วงแก่ชั้นบางๆ และถากต้นหญ้าบางส่วนขึ้นมาได้

หลิ่วหมิงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ หนึ่งครั้ง แล้วก็เริ่มทำงานอย่างบ้าระห่ำ

หลังผ่านไปครึ่งค่อนวัน หลิ่วหมิงนั่งขัดสมาธิกำหนดลมปราณอยู่ในแปลงดิน พอรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว ถึงค่อยเปิดเปลือกตาออกมา แต่เมื่อกวาดตามองดินที่พรวนไปรอบหนึ่ง ก็มียิ้มขมขื่นออกมา

ดินปราณนี้ช่างยากต่อการพรวนจริงๆ การพรวนดินรอบก่อนหน้านั้นไม่เพียงแต่ทำให้หมดพลังเวทย์ไปหลายครั้ง แม้แต่ร่างกายและแขนก็รู้สึกเจ็บปวดเมื่อยล้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ที่ทำให้ยิ่งพูดไม่ออกก็คือ ดินสีม่วงแก่ที่เพิ่งพรวนไปหนึ่งชั้นนั้น กลับมีวัชพืชงอกขึ้นมาใหม่ ถึงแม้จะยังเล็กอยู่ แต่ตอนที่พรวนครั้งที่สองคงจะต้องลงแรงไม่ใช่น้อย

สำหรับนาแปลงอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้าง ศิษย์สายในอายุยี่สิบกว่าหลายคนมีพลังเวทย์หนาแน่น พวกเขาพรวนดินเสร็จอย่างสบายๆ แล้วเดินเข้าไปในป่าดงดิบเพื่อรายงานภารกิจกับชาวนาอาวุโสก่อนขี่เมฆลอยจากไป

ส่วนศิษย์บางส่วนที่อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีก็พรวนดินของตัวเองได้ลึกหลายนิ้ว ดูเหมือนอย่างมากก็ใช้เวลาอีกครึ่งวันก็ทำภารกิจได้สำเร็จ

ตอนนี้หลิ่วหมิงมองดูทั้งหมดนี้แล้วได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

เขาไม่อาจเทียบได้กับศิษย์เหล่านี้ พลังเวทย์ที่เบาบางของเขา ภายในสามวันต้องพรวนดินให้ได้ลึกครึ่งฟุต พลังเวทของเขาก็มีแค่พอใช้ถูไถเท่านั้น ไหนเลยจะมีเวลาพักผ่อน

แต่ที่ทำให้เขากลัดกลุ้มยิ่งกว่าคือ ในนี้มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นศิษย์ใหม่เท่านั้น

แต่ว่าคิดถึงจุดนี้ก็เป็นเรื่องปกติ

พิธีเปิดจิตวิญญาณในครั้งนี้ ผู้ที่กลายเป็นศิษย์จิตวิญญาณมีไม่กี่สิบคนเท่านั้น เวลาในการรับภารกิจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เนื้องานภารกิจแต่ละอย่างก็อาจจะแตกต่างกัน

คิดที่จะรวมกลุ่มกันนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

หลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองดูแล้ว ก็กัดฟันลุกขึ้นยืน เดินไปยังแปลงของตัวเอง หลังแสงสีขาวเปล่งออกมาจากจอบเงินในมือ เขาก็สับมันลงไปที่พื้นอีกครั้ง

……

เช้าวันที่สอง ที่ดินแปลงอื่นๆ ต่างก็ถูกศิษย์เก่าเหล่านั้นไถจนเสร็จเรียบร้อย ส่วนศิษย์ที่ยังเหลืออยู่ก็มีแค่หลิ่วหมิงเท่านั้น

แต่ว่าพอตอนเที่ยง หลิ่วหมิงยืนอยู่กลางแปลงนา มองดูแขนที่บวมแดงราวกับแครอท แต่ก็ทำได้แค่ขมวดคิ้ว

ตอนนี้เป็นเพราะว่าเขาใช้แขนสองข้างมากเกินไป ตอนนี้ทั้งร่างของเขาเจ็บปวดราวกับมีเข็มมาทิ่มแทงจนไม่สามารถพรวนดินต่อไปได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา