ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 290

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 290 พบหยวนหมัวครั้งแรก
ตอนที่ 290 พบหยวนหมัวครั้งแรก
โดย
Ink Stone_Fantasy
แต่ด้วยนิสัยของหลิ่วหมิง ย่อมตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

ในเมื่ออาวุธเวทย์พิเศษระดับอาวุธจิตวิญญาณหาได้ยาก ก็รอกลับไปหาซื้อยันต์ที่เกี่ยวข้องสองสามผืน เพื่อใช้แก้สถานการณ์ฉุกเฉินไปก่อน จากนั้นค่อยไปหาอาวุธเวทย์ที่เกี่ยวข้อง

ถ้าแคว้นต้าเสวียนไม่มี ก็ไปหาตามแคว้นอื่นๆ ในอวิ๋นชวน ถ้าทั่วทั้งอวิ๋นชวนยังหาไม่เจอ ก็ไปหาตามพื้นที่อื่นๆ ของทะเลชังไช่

แม้ว่าอาวุธจิตวิญญาณที่ควบคุมการยึดร่างจะมีอยู่น้อยมาก แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีในเขตพื้นที่ทะเลชังไห่

แต่พื้นที่นอกอวิ๋นชวน ล้วนเป็นพื้นที่ของเผ่าเจ้าสมุทรกับอสูรสมุทร เพื่อความปลอดภัยของเขาเอง อย่างน้อยต้องเข้าสู่ระดับของเหลวขั้นกลาง และเพิ่มวิธีการป้องกันตัวอีกเล็กน้อยก่อน ถึงจะกล้าออกทะเลคนเดียวได้

หลิ่วหมิงวางแผนในใจเสร็จแล้ว ก็เก็บเรื่องนี้ไว้ทีหลัง จากนั้นก็สังเกตดูกระบี่จันทราทองคำในมือ และนำจิตจมดิ่งลงไปในร่างของตนเอง

จิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่สีทองจางๆ เล่มนั้น ยังคงอยู่บริเวณทะเลจิตวิญญาณอย่างเงียบๆ

พอหลิ่วหมิงใช้จิตสัมผัสมันเล็กน้อย แสงแวววาวก็หมุนวนออกจากพื้นผิวกระบี่เล็กสีทอง ไอเย็นสะท้านน่าตกใจไหลพรั่งพรูออกมา ทำให้จิตของหลิ่วหมิงสะดุ้งโหยงจนต้องถอนตัวออกจากภายในร่าง หลังจากมองดูกระบี่จันทราทองคำในมือแล้ว ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ตามหลักการแล้ว อานุภาพของตัวอ่อนกระบี่เพิ่มขึ้นโดยฉับพลัน และมีกระบี่จิตวิญญาณระดับสุดยอดอยู่ในมือ ย่อมสามารถหลอมเป็นกระบี่บินพลังจิตวิญญาณที่แท้จริงได้แล้ว

แต่ระหว่างทางที่กลับมา เขากลับรู้สึกกลัดกลุ้ม แม้ว่าจิตวิญญาณกระบี่ตัวอ่อนที่มีอานุภาพเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า จะถูกเก็บเข้าไปในร่างอย่างง่ายดายแล้ว แต่เวลาที่กระตุ้นมันตามเคล็ดกระบี่ปราณแกร่ง กลับค้นพบว่าตัวอ่อนกระบี่นี้ยังคงอยู่นิ่งๆ บริเวณทะเลจิตวิญญาณ ซึ่งไม่อาจควบคุมได้เลยแม้แต่น้อย

แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า จิตของเขาสามารถเชื่อมโยงกับตัวอ่อนกระบี่อย่างราบรื่น

สิ่งนี้ทำให้หลิ่วหมิงครุ่นคิดเป็นเวลานาน ในที่สุดก็หาสาเหตุได้

เห็นได้ชัดว่าตัวอ่อนกระบี่ปราณแกร่ง เกิดจากการประกอบตัวกันของกระบี่ตัวอ่อนทั้งสองที่หายไป

ดังนั้นแม้ว่าจะมีจิตรับรู้ของเขาประทับอยู่ แต่พลังจากภายนอกที่ใส่ลงไปมากเกิน ทำให้จิตวิญญาณกระบี่ตัวอ่อนเล่มใหม่ มีอานุภาพเกินกว่าที่ระดับการฝึกฝนของเขาจะสามารถควบคุมได้

และก่อนหน้าที่ตัวอ่อนกระบี่เข้าไปในร่างได้อย่างราบรื่น คงเกี่ยวข้องกับตัวอ่อนกระบี่สองเล่มที่บ่มเพาะไว้บริเวณทะเลจิตวิญญาณในก่อนหน้านั้น

ผลลัพธ์คือตัวอ่อนกระบี่เล่มใหม่ถูกพลังทะเลจิตวิญญาณดึงดูดไว้ เพียงแค่ใช้เคล็ดกระบี่ดึงดูดเล็กน้อย ก็สามารถดูดมันเข้ามาในร่างได้อย่างง่ายดาย

แต่หากเขาคิดจะปล่อยตัวอ่อนกระบี่ออกมาล่ะก็ กลับเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง

พอหลิ่วหมิงหาข้อสรุปได้เช่นนี้ ก็รู้สึกอึ้งไปทันที

ถ้าเขาอยากจะกระตุ้นจิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่อย่างราบรื่น เกรงว่าคงรอให้พลังเวทย์เพิ่มมากขึ้น และฝึกฝนจนถึงระดับหนึ่งถึงจะทำได้

เหตุที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น สาเหตุหลักมาจากระดับฝึกฝนของเขาอยู่ห่างจากอานุภาพของตัวอ่อนกระบี่เล่มนี้มากเกินไป

ส่วนเรื่องที่ว่าต้องฝึกฝนถึงระดับใด ถึงจะกระตุ้นตัวอ่อนกระบี่นี้ได้นั้น มันเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก

บางทีแค่ระดับของเหลวขั้นกลาง ก็สามารถกระตุ้นได้อย่างราบรื่น บางทีฝึกฝนจนระดับผลึกแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นก็เป็นได้

แม้หลิ่วหมิงจะไม่มีทางเลี่ยง แต่เรื่องที่มีอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชิ้น และอานุภาพของตัวอ่อนกระบี่ปราณแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา

เขาระงับความกลัดกลุ้มไว้ จากนั้นก็โยนกระบี่สั้นสีทองออกไปด้านหน้า มือทั้งสองทำท่ามือเพื่อทำการปรับแต่งกระบี่จิตวิญญาณ

กระบี่จันทราทองคำเล่มนี้ ถูกยกระดับจนถึงระดับสุดยอดไปหนึ่งครั้ง ชั้นจำกัดเดิมที่มีอยู่ล้วนถูกปรับแต่งไปแล้วรอบหนึ่ง หากเขาอยากกระตุ้นมันให้ได้ดังใจ ย่อมต้องเพิ่มการปรับแต่งอีกรอบ

ส่วนชั้นจำกัดที่เพิ่มขึ้นมาในนั้น กลับไม่ใช่สิ่งที่ระดับการฝึกฝนของเขาในตอนนี้ สามารถปรับแต่งได้ เกรงว่าจำเป็นต้องเข้าสู่ระดับของเหลวขั้นปลายก่อน ถึงจะปลดปล่อยอานุภาพทั้งหมดของอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดชิ้นนี้ได้

และพอเขาเข้าสู่ระดับของเหลวขั้นกลาง ก็สามารถปรับแต่งได้มากสุดยี่สิบเจ็ดชั้นจำกัดเท่านั้น

แต่ก็ด้วยเหตุนี้ อานุภาพของกระบี่เล่มนี้ จึงไม่ใช่สิ่งที่อาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำสามารถเทียบได้

หลิ่วหมิงใช้เวลาในหลายวันต่อมา ทำการปรับแต่งชั้นจำกัดของกระบี่จันทราทองคำกับมุกพลังวารีเม็ดนั้น

ในระหว่างเวลานี้ คนอื่นๆ ที่ได้ข่าวว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัย ก็ตั้งใจมาเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะ

ในนั้นรวมถึงหยางเฉียน ชายหนุ่มแซ่อวิ๋นจากหุบเขาเก้าช่อง และคนอื่นๆ

หลิ่วหมิงได้ยินจากปากพวกเขาว่า จางซิ่วเหนียงถูกผู้แข็งแกร่งระดับแก่นเสมือนของเผ่าเจ้าสมุทรผู้นั้นจับตัวไป และถูกหยวนหมัวช่วยกลับมาได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด หลังจากกลับมาแล้วนางถึงยังคงสลบไสลไม่ได้สติ

ตอนนี้นิกายจันทราสวรรค์ดูแลนางอย่างเข้มงวด คนจำนวนมากต่างก็อยากจะไปเยี่ยมเยียนนาง แต่กลับไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป

หลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกให้ความสนใจหญิงสาวที่มีบุคลิกห้าวหาญคนนี้เล็กน้อยแล้ว

วันนี้ ขณะที่เขากำลังทำการปรับแต่งอาวุธอยู่ในห้องพักนั้น พลันมีเสียงดังหวึ่งๆ ออกมาบริเวณเอว

ภายใต้ความตกตะลึง หลิ่วหมิงสะบัดแขนเสื้อเก็บมุกสีดำที่ปรับแต่งไปแล้วครึ่งหนึ่ง และหยิบแผ่นสีขาวกลมๆ ออกมา

แสงสีขาวเปล่งประกายบนแผ่นกลมๆ อักขระสีเงินจางๆ ปรากฏออกมาหนึ่งแถว

หลิ่วหมิงกวาดสายตามองดูทีหนึ่ง จากนั้นก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

“คิดไม่ถึงว่าจะให้ข้าไปนิกายจันทราสวรรค์ในตอนนี้ เกิดอะไรขึ้น?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา