ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 322

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 322 ศิลาหุนเทียน
ตอนที่ 322 ศิลาหุนเทียน
โดย
Ink Stone_Fantasy
แต่ก่อนที่เขาถูกดูดกลืนพลังเวทย์ ห้องว่างเปล่าก็ขยายใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่มือยักษ์ค้ำฟ้าหายไป ก็มี ‘หลิ่วหมิง’ คนที่สองปรากฏในห้องว่างเปล่า

หากคำนวณตามนี้ล่ะก็ บาทายักษ์กับมือยักษ์ค้ำฟ้าต่างก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของปีศาจยักษ์

พลังที่ถูกดูดกลืนคงเป็นพลังประเภทไอปีศาจ ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่า ‘หลิ่วหมิง’ คนที่สองจะปรากฏในห้องว่างเปล่าอีกครั้ง

แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแค่การคาดเดา มันจะเป็นจริงหรือไม่นั้น คงต้องตัดสินด้วยสายตาของเขาเองแล้ว

ที่ยังไม่อาจยืนยันได้จริงๆ ก็คือ เขามีเวลาอยู่ในห้องว่างเปล่านานเท่าไหร่

ครั้งก่อนที่มือยักษ์ค้ำฟ้าปรากฏออกมา เขากลับสลบไป และฝันแปลกๆ

หลิ่วหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องว่างเปล่าลึกลับ ขณะที่กำลังคิดใคร่ครวญอย่างเงียบๆ นั้น ห้องว่างเปล่าก็สั่นสะเทือนขึ้นมา มีเสียงดังโครมครามแปลกประหลาดมาจากด้านบน

หลิ่วหมิงแหงนหน้ามองด้วยความตกใจ!

ไม่รู้ว่าไอหมอกสีเทาด้านบนพุ่งออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเสียง “ตู๊ม!” ดังออกมา ไอหมอกหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งห้องว่างเปล่ากลายเป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่

หลิ่วหมิงถอยออกไปสองสามก้าว สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

เขาฟันกระบี่สั้นสีทองออกไป ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้าศัตรูตัวฉกาจ

ขณะนั้นเอง มีเสียงแหลมแสบแก้วหูดังมาจากระลอกคลื่น ดูเหมือนว่ากลุ่มไอดำจะพุ่งออกจากในนั้น

“ตู๊ม!”

ม่านแสงสีขาวปรากฏขึ้นใจกลางระลอกคลื่น และปิดมันไว้อย่างแน่นหนา

พอไอดำปะทะใส่ม่านแสง ลำแสงสีขาวก็เปล่งประกายออกมา จากนั้นไอดำก็กระเด็นกลับไป

ม่านแสงแค่สั่นไหวไม่กี่ที ก็กลับมามั่นคงดังเดิม

มีเสียงแหลมดังมาจากไอดำ พอมันหมุนติ้วๆ รวมกันแล้ว ก็ปรากฏเป็นใบหน้าขนาดยักษ์ ลักษณะของมันเหมือนกับหลิ่วหมิงไม่มีผิด เพียงแต่มีเปลวเพลิงสีเงินเปล่งประกายอยู่ในดวงตาทั้งคู่ สีหน้าดูบ้าคลั่งเป็นอย่างยิ่ง

มันอ้าปากพ่นลูกเปลวไฟสีดำโจมตีม่านแสงสีขาวเป็นจำนวนมาก

พริบตาเดียว เปลวเพลิงสีดำก็ผสานเข้ากับลำแสงสีขาว และระเบิดออกมา

บังเกิดเสียงดังก้องไปทั่วห้องว่างเปล่าลึกลับ

หลิ่วหมิงเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ ก็รู้สึกหวาดผวามาก มือของเขาจับกระบี่สั้นสีทองไว้แน่น เหงื่อไหลทะลักออกมาอย่างช่วยไม่ได้

แต่เห็นได้ชัดว่า ลำแสงสีขาวที่ม่านแสงปล่อยออกมาจะเหนือชั้นกว่า พอใบหน้าขนาดยักษ์หยุดพ่นเปลวเพลิงสีดำ ม่านแสงก็ยังคงมีสภาพเช่นเดิม ไม่มีรอยแตกร้าวแม้แต่น้อย

ในขณะนั้นเอง ม่านแสงก็บิดเบี้ยวขึ้นมา ลำแสงสีขาวจำนวนมากพุ่งยิงออกจากบนนั้น มันเปล่งประกายไม่กี่ที ก็เจาะใบหน้าขนาดยักษ์จนพรุน

ใบหน้าขนาดยักษ์สีดำส่งเสียงร้องแปลกประหลาดออกมา จากนั้นก็พร่ามัวกลับมาเป็นปกติ แต่ขนาดของมันเล็กลงกว่าก่อนหน้านั้นเท่าตัว สายตามองไปยังม่านแสงด้วยความไม่พอใจ

แต่ขณะนั้นเอง มีเสียงฟ้าร้องดังมาจากระลอกคลื่น สายฟ้าสีเขียวจำนวนมากพุ่งออกไปรอบด้าน พอมันผสานเข้าด้วยกันแล้ว ก็พุ่งใส่ใบหน้าขนาดยักษ์ที่อยู่ตรงกลางพร้อมกัน

ใบหน้าขนาดยักษ์เห็นเช่นนี้ ก็คำรามออกมา และหันหน้าพุ่งยิงไปด้านหลัง ราวกับว่าคิดจะหลบหนี

ขณะนั้นเอง ไหมสีขาวกลุ่มหนึ่งถูกพ่นออกจากม่านแสงสีขาว เพียงแค่เคลื่อนไหวไม่กี่ที ก็รัดพันใบหน้าขนาดยักษ์ไว้อย่างแน่นหนา

ใบหน้าขนาดยักษ์พ่นเปลวเพลิงสีดำออกมาต่อสู้อีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถสลัดตัวให้หลุดพ้นได้ พอแสงสายฟ้ารอบด้านเปล่งประกายอย่างบ้าคลั่ง มันก็จมเข้าไปในสายฟ้าสีเขียว

ใบหน้าขนาดยักษ์ร้องอย่างเวทนา ทุกการโจมตีของสายฟ้าสีเขียว ทำให้มีควันสีขาวออกจากร่างของมัน และหดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว

แม้ใบหน้าขนาดยักษ์จะพ่นเปลวเพลิงสีดำอันพวยพุ่งมารับมือไว้ได้ แต่ไม่นานก็ถูกฟันเป็นชิ้นๆ มันแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาเป็นครั้งแรก

ขณะนี้ สายฟ้าสีเขียวพุ่งออกจากระลอกคลื่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบกลายเป็นทะเลสายฟ้า

พอใบหน้าสีดำเห็นว่าตนเองไม่อาจหลบหนีไปได้ ก็จ้องมองมาทางหลิ่วหมิงทันที ใบหน้าของมันดูดุร้ายเป็นอย่างมาก

ใบหน้าขนาดยักษ์เริ่มร่ายคาถาแปลกประหลาดออกมา คาถาที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอป่าเถื่อนดังออกมาจากปากของมัน

พอหลิ่วหมิงได้ยินคาถานี้ กลับรู้สึกตกตะลึงขึ้นมา

แม้เขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ภาษาที่มันใช้ ออกเสียงเหมือนกับอักขระสีม่วงโบราณที่ปรากฏบนบาทายักษ์

ขณะที่เขากำลังคิดหาสาเหตุด้วยความสงสัยนั้น ใบหน้าขนาดยักษ์สีดำในระลอกคลื่นก็ระเบิดตัวเองออกมา คลื่นสั่นสะเทือนสีดำม้วนตัวออกมาอย่างบ้าระห่ำ ทำให้สายฟ้าสีเขียวรอบด้านสลายไปบางส่วน

“ฟิ้ว!” ผลึกหินสีเงินก้อนหนึ่งพุ่งออกจากในนั้น มันเคลื่อนไหวไม่กี่ที ก็ปะทะลงบนม่านแสงที่ผนึกอยู่กลางระลอกคลื่น

“เพล้ง!”

ผลึกหินสีเงินระเบิดออกมากลายเป็นกลุ่มแสงสีเงิน พอมีเสียง “เปรี๊ยะๆ!” ก็เกิดรอยร้าวเล็กๆ บนม่านแสงสีขาว

“ซิ้วๆ!” ไหมสีดำวาวพุ่งออกจากรอยร้าว และพุ่งไปทางหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา พอเห็นเช่นนี้ ก็สะบัดกระบี่สั้นสีทองโดยไม่ต้องคิด จากนั้นเงากระบี่จำนวนมากก็ฟาดฟันออกไป ขณะเดียวกันก็มีแสงสีแดงเปล่งประกายบนมืออีกข้าง กำปั้นที่ถูกเกล็ดสีแดงห่อหุ้มก็ทุบออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา