ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 362

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 362 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ
ตอนที่ 362 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เย่เทียนเหมยรู้สึกตะลึง แต่ก็ไหวตัวทันจึงกระโดดติดต่อกันออกไปไกลสิบกว่าจั้ง นางหลบเงากระบี่ได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นมา

เหยี่ยวที่กลายร่างมาจากผลึกหินรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนนี้ ดูแปลกประหลาดและคาดเดาได้ยาก เหมือนจะมีพลังไม่ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งระดับผลึกขั้นต้น

“ฮึ! ได้ตายในเงื้อมมือของ ‘ผลึกโลหิตอสูร’ นับว่าตายอย่างไม่เสียชาติเกิดแล้ว” หมาซู่จ้องมองเย่เทียนเหมยที่อยู่ไกลๆ และกล่าวด้วยสีหน้าอึมครึม

พอได้ยินคำว่า ‘ผลึกโลหิตอสูร’ แม้แต่คนอย่างเย่เทียนเหมย ก็ต้องรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ผลึกโลหิตอสูรที่กล่าวถึง สร้างมาจากโลหิตบริสุทธิ์ของปีศาจอสูรระดับผลึกที่เสียชีวิต และวัสดุพิเศษที่เรียกว่า ‘ผลึกอสูร’ เงาร่างอสูรดุร้ายที่มันกลายร่างออกมา มีพลังต่ำกว่าก่อนตายเล็กน้อย แต่ยังสามารถรักษาพลังไว้ได้ ช่างเป็นสมบัติที่พบเจอได้น้อยมาก

แต่ดีที่ผลึกโลหิตอสูรนี้ เป็นของที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว และปีศาจอสูรที่กลายร่างออกมา ก็อยู่ได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ประกอบกับที่มันล้ำค่าเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงใช้ในเวลาสำคัญที่เผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งเท่านั้น

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต่อให้เย่เทียนเหมยจะมีพลังเต็มพิกัด ก็รู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับผลึกสองคน

เย่เทียนเหมยไม่พูดจาไร้สาระอีก นางกัดฟันหยิบยันต์สีขาวเงินออกมา และขยี้จนแตกละเอียด จากนั้นนิ้วทั้งสิบก็เคลื่อนไหวอยู่ไม่หยุด

แถบลวดลายสีเงินพุ่งเข้าไปในกระบี่เงินกลางอากาศ ราวกับสายนทีร้อยสายไหลมาบรรจบกันที่มหาสมุทร ภาพกระบี่ยักษ์ยาวสิบกว่าจั้ง ก่อตัวเหนือศีรษะของหมาซู่ มันเชื่อมต่อกับเงากระบี่จำนวนมาก จนเกิดเป็นไอกระบี่จางๆ ซึ่งดูเหมือนจะก่อตัวเป็นค่ายกลกระบี่หลังหนึ่ง

พอเย่เทียนเหมยเปลี่ยนท่ามือ กระบี่บินยักษ์ก็พุ่งลงไปหาหมาซู่อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน เงากระบี่บริเวณรอบๆ เปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง และพุ่งออกไปหาหมาซู่!

หมาซู่เห็นเช่นนี้ ก็เผยสีหน้าดุร้ายออกมา เขาทำท่ามือด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็ชี้ไปทางเหยี่ยว และร่ายคาถาออกมา

เหยี่ยวกระพือปีกในทันที ขนสีแดงจำนวนมากกลายเป็นลำแสงสีแดงพุ่งใส่เงากระบี่ที่อยู่รอบด้าน จากนั้น มันอ้าปากพ่นพายุบ้าระห่ำสีแดงที่สูงสิบกว่าจั้งออกมา เพื่อตั้งรับกระบี่ยักษ์ที่ตกลงมา

ทันทีที่ลำแสงสีแดงจำนวนมากสัมผัสกับเงากระบี่ มันส่งเสียงดังราวกับโลหะกระทบกัน และสุดท้ายก็ค่อยๆ กลายเป็นจุดแสงที่เย็นสะท้านก่อนหายไปในอากาศ

จากนั้นมีเสียงระเบิดดังออกมา!

กระบี่ยักษ์สีเงินปะทะใส่พายุบ้าระห่ำสีแดง

แสงกระบี่สีเงินแทงเข้าไปในพายุบ้าระห่ำ พริบตาเดียว แสงสีเงินก็ระเบิดออกมาเป็นแสงกระบี่จำนวนมาก แต่ก็ถูกพายุบ้าระห่ำกลืนเข้าไป มันสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังหวึ่งๆ กลางอากาศ

แม้ทั้งสองจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่หากมองดูอย่างละเอียด จะค้นพบว่าเย่เทียนเหมยมีสีหน้าซีดขาวผิดปกติ คงจะยืนหยัดได้ไม่นานนัก

หมาซู่เป็นคนฉลาดเฉียบแหลม พอเห็นเช่นนี้ก็ดีใจจนไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นไปชั่วขณะหนึ่ง คิดแต่จะสังหารนางผู้นี้โดยเร็ว

หมาซู่รีบควักยันต์ออกมาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง จากนั้นก็ควบคุมเหยี่ยวดุร้ายให้พุ่งออกจากค่ายกลกระบี่ และกระโจนใส่เย่เทียนเหมยอย่างโหดเหี้ยม!

มันพุ่งมาถึงด้านหน้าเย่เทียนเหมยอย่างรวดเร็ว และอ้าปากจิกลงมาอย่างโหดเหี้ยม

นางไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา

หมาซู่เห็นเช่นนี้ก็ใจหล่นตุ๊บ ขณะที่คิดจะตอบสนองออกไปนั้น พลันได้ยินเสียงดัง “ฟิ้ว!” แม้เสียงจะไม่ดังมากนัก แต่พอดังเข้าไปในหูของหมาซู่ กลับชัดเจนราวกับเสียงฟ้าผ่า

ลำแสงสีฟ้าพุ่งเข้ามาด้านหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และพุ่งใส่ร่างของหมาซู่โดยไม่สนใจเงาแผ่นค่ายกลสีทองที่อยู่ด้านข้างกับปราณแกร่งที่ปกป้องร่างของเขา จากนั้นก็ทะลุออกมาบริเวณหน้าอก

ร่างของเขาสั่นสะเทือนจนร่นถอยไปหลายก้าว โลหิตพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ มือเท้าทั้งสี่อ่อนตัวลง ความรู้สึกวิงเวียนศีรษะเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ พลังทั่วร่างพุ่งออกมาในพริบตา

“มีพิษ?”

หมาซู่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก เขารีบเอามือคลำบริเวณบาดแผลสองสามที จากนั้นก็หยิบขวดโอสถสีม่วงออกจากยันต์เก็บของ และเทโอสถสีเขียวมรกตออกมาจำนวนหนึ่งแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน เหยี่ยวตัวนั้นก็ขาดการเชื่อมต่อทางจิตกับเขา มันจึงกลายร่างเป็นผลึกหินรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเช่นเดิม

สายลมพัดผ่านเบาๆ เงาร่างสีเทาปรากฏตัวบริเวณผลึกหิน และคว้าเอาผลึกโลหิตอสูรไว้ในมือ

พอคนผู้นี้หัวเราะออกมา นิ้วมือทั้งห้าก็สั่นไหว ผลึกหินในมือกลายเป็นผุยผง และสลายไปในอากาศ

ผลึกโลหิตอสูรเป็นสิ่งที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ต่อให้พลังของมันจะยังไม่หมด ก็ไม่สามารถสร้างเงาร่างอสูรดุร้ายออกมาได้อีก ตอนนี้มันจึงไม่มีมูลค่าใดๆ แล้ว

ผู้ที่ปรากฏตัวออกมาราวกับปีศาจผู้นี้ เป็นผู้อาวุโสเช่นกัน ใบหน้าธรรมดา แต่คิ้วสีดำบนดวงตาเล็กๆ ทั้งคู่ กลับทำให้ผู้คนจดจำเขาได้ดียิ่งนัก

พอหมาซู่รับรู้ได้ว่าความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตนเลย จิตใจของเขาก็ร่วงหล่นลงไป

เขาพยายามกระตุ้นพลังเวทย์ที่เหลือโดยไม่สนใจบาดแผลกับพิษในร่างอีก พอคว้ามือข้างหนึ่งออกไป ยันต์สีเขียวจางๆ ก็ปรากฏออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา