ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 388

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 388 ระหว่างทาง
ตอนที่ 388 ระหว่างทาง
โดย
Ink Stone_Fantasy
แน่นอนว่าพอแมงป่องกระดูกแสดงวิชาที่นี่ ก็ยากที่จะใช้ปราณพลังฟ้าดินฟื้นฟูพลังเวทย์เช่นกัน

โชคดีที่มันเป็นปีศาจ หากดูดซับปราณหยินมาจำนวนหนึ่ง ก็ค่อยๆ กลายเป็นพลังเวทย์บริสุทธิ์ได้ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเขาในสถานการณ์เช่นนี้มาก

มีแมงป่องกระดูกคอยคุ้มกันแล้ว เขาก็ไม่ต้องพะวงอะไรอีก

ส่วนหัวบินที่อยู่ระดับของเหลวขั้นกลาง เขาจะเก็บมันไว้เป็นท่าไม้ตาย ย่อมไม่ปล่อยมันออกมาโดยง่าย

ที่ทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกเสียดายก็คือ หุ่นอสูรวานรเหล็กสองตัวก็อยู่ในยันต์เก็บของ และถูกผู้พิทักษ์ในก่อนหน้านั้นเอาไปแล้ว มิเช่นนั้นล่ะก็ ด้วยด้วยพลังการโบกสะบัดกระบองเหล็กอันแข็งแกร่งของมัน จะต้องเป็นตัวช่วยที่ดีในการขุดหินแร่

แน่นอนว่าเขาก็ต้องสิ้นเปลืองหินจิตวิญญาณอย่างน่าตกใจ เมื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่ด้วยกายเนื้ออันแข็งแกร่งที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกฝนระดับผลึก หากเขาใช้พลังทั้งหมดในการขุดหาหินแร่ ความเร็วก็ยังน่าตกใจเป็นอย่างมาก เพียงแต่พลังก็จะหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

แต่ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่อาจกระตุ้นพลังเวทย์ได้ เสียมกระดูกที่ทำมาจากกระดูกของอสูรโฉด จะใช้ได้ดีกว่ากระบี่เหล็กที่เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำมาก การโจมตีผนังหินในแต่ละครั้ง ก็ทำให้แผ่นหินขนาดใหญ่หลุดออกมา

ด้วยเหตุที่สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากสายแร่หลัก เลยมีหินแร่ค่อนข้างน้อย แต่ด้วยความเร็วอันน่าตกใจของหลิ่วหมิง ยังพบหินแร่หายากสีฟ้าได้หนึ่งถึงสองก้อนอยู่บ่อยครั้ง

สิ่งนี้เป็นหินแร่ล้ำค่าที่เรียกว่า ‘หินไม้ดำ’ ไม่เพียงแต่เป็นวัสดุชั้นยอดในการหลอมอาวุธธาตุน้ำ หากนำมาหลอมเป็นเตาหลอม ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ให้กับโอสถธาตุน้ำได้ไม่น้อย หากอยู่ในโลกภายนอก เกรงว่าเพียงแค่ก้อนเล็กๆ ก็สามารถขายได้มูลค่าหลายร้อยหินจิตวิญญาณ แต่หากอยู่ในนี้ล่ะก็ กลับไม่นับว่าเป็นหินแร่ล้ำค่ามากนัก แต่ก็พอที่จะนำไปแลกสิ่งของได้

แน่นอน หากนำหินแร่ไปที่เขตแลกเปลี่ยน คาดว่าคงแลกเนื้ออสูรโฉดได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น

พอหินแร่สีฟ้าแต่ละก้อนถูกขุดออกมา หลิ่วหมิงก็จะโยนไปไว้บนพื้นด้านหลัง โดยไม่หันกลับไปดูเลย

เวลาในแต่ละวันค่อยๆ ผ่านไป

ชั่วเวลาครึ่งเดือนกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ช่วงระหว่างเวลานี้ นอกจากหลิ่วหมิงจะปล่อยแมงป่องกระดูกออกมา และขุดหาหินแร่ในเวลาที่กำหนดไว้แล้ว ก็จะนั่งขัดสมาธิรักษาอาการบาดเจ็บ ฟื้นฟูพลังเวทย์ นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีเวลาว่างไปทำเรื่องอื่นอีกเลย

ส่งผลให้สิบกว่าวันมานี้ เขามีหินแร่อยู่ในมือร้อยกว่าก้อน แน่นอนว่าส่วนมากในนั้นเป็นหินไม้ดำ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากทาสเหมืองแร่คนอื่นรู้เข้า ก็ต้องรู้สึกตกตะลึงเช่นกัน

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกฝนระดับของเหลวคนอื่นๆ ภายในเหมืองแร่ที่มีทรัพยากรน้อยเช่นนี้ ต่อให้ทุ่มเทขุดหาทั้งวันทั้งคืน และได้มาแค่หนึ่งในห้าของเขา ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว

ตามกฎของสถานที่แห่งนี้ มีเงื่อนไขให้ทาสเหมืองแร่ทุกคนชำระหินแร่ล้ำค่าเดือนละสามสิบก้อน ถึงจะแลกโอสถถอนพิษในเดือนนั้นมาได้ ส่วนหินแร่ก้อนอื่นๆ ที่เกินมา สามารถแลกโอสถ ยันต์ แม้กระทั่งอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำจากผู้พิทักษ์เหล่านั้นได้โดยตรง

แต่ว่ามูลค่าของหินแร่เหล่านี้ ย่อมน้อยกว่าโลกภายนอกร้อยกว่าเท่า

ส่วนการนำไปแลกเปลี่ยนกับทาสเหมืองแร่คนอื่นๆ ที่เขตแลกเปลี่ยน ก็สามารถแลกหินแร่ประเภทที่ตนเองต้องการกับเนื้อและกระดูกของอสูรโฉดได้

วันนี้ ตั้งแต่หลิ่วหมิงออกจากสมาธิ ก็เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเขาดีกว่าก่อนหน้านั้นมาก อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการกระตุ้นตัวอ่อนกระบี่ปราณแกร่งก็ดีขึ้นมาไม่น้อย

เขามองดูสถานการณ์ภายในร่างอย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับค้นพบว่าไอหมอกดำบนอวัยวะภายในหนาแน่นมากกว่าเดิม และกลุ่มแสงโลหิตบริเวณทะเลจิตวิญญาณก็ยังคงค่อยๆ หมุนวนอยู่

สีหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป จากนั้นก็ค้นพบว่าขณะนี้อยู่ห่างจากวันสิ้นเดือนไม่กี่วันแล้ว

ตามข้อมูลที่เขารู้มาในก่อนหน้า หากไม่ผิดล่ะก็ อีกสองสามวันก็จะเป็นวันที่ผู้พิทักษ์มาเก็บหินแร่จากทาสเหมืองแร่แล้ว

ในเมื่อเขาไม่สามารถขับไล่ชั้นจำกัดภายในร่างได้ ย่อมต้องไปแลกโอสถถอนพิษมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เขายังหวังว่าหากได้รับโอสถถอนพิษมาแล้ว ก็จะถือโอกาสศึกษาดูเล็กน้อย

ดังนั้นเขาจึงแบ่งประเภทของหินแร่ที่วางเรี่ยราดอยู่บนพื้น หลังจากเลือกหินแร่ที่มีคุณภาพค่อนข้างดีจำนวนหนึ่งใส่ลงไปในถุงหนังแล้ว ก็เอาไปซ่อนไว้ตามหินผาที่ถูกทิ้งร้าง

จากนั้นก็กลับเข้ามาภายในถ้ำอีกครั้ง และหยิบถุงหนังค่อนข้างเก่าออกมาใบหนึ่ง หลังจากนำหินไม้ดำจำนวนสามสิบกว่าก้อนใส่ลงไป ก็โบกมือไปยังแมงป่องกระดูกที่อยู่ตรงปากถ้ำ

ทันนั้นใดนั้น มันก็กลายเป็นกลุ่มไอสีดำแล้วมุดหายไปในแขนเสื้อของเขา

ขณะนี้ หลิ่วหมิงถึงแบกถุงหนังขึ้นมา และเดินออกไปจากถ้ำ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางบางแห่ง

อาจเป็นเพราะว่าใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว หลังจากหลิ่วหมิงออกไปไม่นาน ก็พบเจอกับทาสเหมืองแร่ที่เดินคนเดียวเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างก็เดินแบกถุงหนังอย่างรีบร้อน

ภายใต้สถานการณ์ที่มีปราณพลังฟ้าดินน้อยมาก ต่อให้จะมียันต์เก็บของ แต่ประสิทธิภาพของมันก็จะค่อยๆ หมดไป จนไม่อาจเก็บสิ่งของได้นาน ด้วยเหตุนี้ ทาสเหมืองแร่คนอื่นๆ ต่างก็ใช้ถุงหนังใส่หินแร่เหมือนกับหลิ่วหมิง

ขณะที่คนเหล่านี้เห็นหลิ่วหมิง สีหน้าที่ดูซีดขาวก็มีท่าทีระมัดระวังขึ้นมาก จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินไปด้านหน้า หรือไม่ก็หลบเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา