ขณะนั้นเอง สีหน้าของชายเผ่าปีศาจผมสีฟ้าที่ยืนอยู่ด้านหน้า ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ไม่สามารถรับแรงกดดันมหาศาลที่มาจากอสูรยักษ์ตรงหน้าได้ ทันใดนั้น ยันต์ผืนหนึ่งที่อยู่ในมือก็ถูกขยี้จนแตกกระจาย ภายใต้การห่อหุ้มของแสงสีฟ้า เขาก็กลายเป็นลูกแสงกลมๆ ทะยานขึ้นฟ้าไป
“ฮึ่ม!”
หนึ่งในหกหัวของอสูรโฉดตัวนั้น อ้าปากปล่อยพลังดึงดูดไปยังทิศทางที่ชายผมสีฟ้าผู้นั้นหนีไป
“ฟู่!”
แสงสีเหลืองม้วนตัวออกมาจากปาก ครู่เดียวก็ปกคลุมชายเผ่าปีศาจผู้นี้ไว้
“ผู้อาวุโสหลาน ช่วยข้าด้วย!” ชายผมสีฟ้าตะโกนขอความช่วยเหลือ จากนั้นร่างของก็สั่นสะท้านก่อนตกลงไปในปากของอสรพิษ และถูกมันเคี้ยวจนละเอียดก่อนกลืนลงไปในท้อง
พอเห็นฉากเช่นนี้ ใบหน้าของหลานสี่ก็ดูไร้ซึ่งความรู้สึก เขาไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเลยแม้แต่น้อย คนที่ด้านหลังก็สูดหายใจด้วยความรู้สึกเย็นสะท้าน
แต่ก็เป็นเพราะชายผู้นี้ อสูรตัวนี้ถึงเปลี่ยนทิศทาง พริบตาเดียวก็วิ่งผ่านด้านข้างของฝูงชนไป โดยไม่คิดจะหยุดเลยแม้แต่น้อย
ฉากเช่นนี้ ย่อมทำให้ทาสเหมืองแร่คนอื่นๆ ที่เกือบจะหลบหนีไปในก่อนหน้านั้น รู้สึกโชคดีเป็นอย่างมาก เหงื่อเย็นไหลออกมากลางหลังของพวกเขา
ดังนั้นผู้คนทั้งหมดจึงยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับก้อนหินที่อยู่ใต้สายน้ำไหล
จนเมื่อเวลาครึ่งถ้วยชาผ่านไป อสูรโฉดแถวสุดท้ายก็พุ่งผ่านข้างตัวพวกเขาไป
ขณะนี้ พวกเขาถึงรู้สึกผ่อนคลายราวกับยกภูเขาออกจากอก เสื้อผ้าของคนจำนวนมากเปียกโชคไปด้วยเหงื่อ
หลังจากอสูรโฉดออกไปไกลแล้ว หลานสี่ก็เหาะขึ้นด้านบนอีกครั้งโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาเหาะไปตามทิศทางที่แผ่นหยกในมือชี้นำ
ฝูงชนมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้แต่เหาะตามหลานสี่ไป
ขณะนี้ หลิ่วหมิงถึงถอนหายใจออกมาเบาๆ แท่งกระดูกในแขนเสื้อกระพริบหายไปอย่างไร้ร่องรอย
……
ในโลกใต้สมุทร
มีเสียงดังโครมคราม
พออสูรกิเลนยักษ์ที่ถูกขังอยู่ในค่ายกล ถูกผู้แข็งแกร่งระดับผลึกของเผ่าเจ้าสมุทรกับทหารเผ่าเจ้าสมุทรจำนวนมากล้อมโจมตี ในที่สุดร่างที่โปร่งแสงก็ระเบิดออกมาราวกับกระจก
เวลานี้ไม่มีอสูรกิเลนยักษ์อยู่ในสนามรบอีกเลย
หลังผ่านสงครามตะลุมบอนไปหนึ่งชั่วยาม กองกำลังทหารของเผ่าเจ้าสมุทรก็สูญเสียผู้แข็งแกร่งระดับผลึกไปหลายคน และสังหารเผ่าปีศาจที่ต้านทานอยู่ในโลกใต้สมุทรจนหมดเกลี้ยง
เหลือเพียงแค่ชิงฉินและผู้แข็งแกร่งระดับผลึกไม่กี่คนเท่านั้น พวกเขากำลังรวมตัวอยู่บนพื้นที่แห่งหนึ่งหน้าวังใต้สมุทร และก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดเล็ก พวกเขาพยายามอาศัยชั้นจำกัดของวังใต้สมุทร และหุ่นค้ำฟ้าทั้งสี่ ต้านทานการโจมตีของเผ่าเจ้าสมุทรอย่างยากลำบาก
แต่ดีที่แม้ว่าการโจมตีของเผ่าเจ้าสมุทรจะรวดเร็วและรุนแรงเป็นพิเศษ แต่การสู้รบในก่อนหน้านั้น ก็มีผู้แข็งแกร่งระดับผลึกเสียชีวิตไปจำนวนหนึ่ง คนอื่นๆ ก็สูญเสียพลังเวทย์ไปกว่าครึ่งหนึ่ง จนไม่สามารถไม่สามารถทำลายการร่วมมือของชิงฉินและคนอื่นๆ ได้
“เจินเถียน เมิ่งคั่ว พวกเจ้ารีบไปจัดการวังใต้สมุทรเถอะ!” บนเรือยักษ์ที่อยู่ด้านหลังกองกำลังเผ่าเจ้าสมุทร ในที่สุดผู้อาวุโสที่สวมมงกุฎทองคำของราชวงค์ชังไห่ผู้นั้น ก็ดูเหมือนจะอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงสั่งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ทราบ ฝ่าบาท!”
มีเงาร่างเคลื่อนไหวด้านหลังผู้อาวุโส จากนั้นหญิงชุดหลากสีกับชายฉกรรจ์เผ่าเจ้าสมุทร ก็มาปรากฏตัวด้านหลังผู้อาวุโส และคุมมือคารวะก่อนกล่าวออกมา
พวกเขาก็คือสองเจ้าวิหารระดับแก่นเสมือนที่มีชื่อเสียงของราชวงค์ชังไห่
ที่ผู้อาวุโสสวมมงกุฎทองคำไม่ได้ให้พวกเขาลงมือในก่อนหน้านั้น เป็นเพราะต้องการให้เจ้าวิหารทั้งหกสะสมกำลังไว้ เพื่อรับมือกับราชาปีศาจสมุทรในตอนท้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา