ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 419

สรุปบท ตอนที่ 419: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 419 – ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

บท ตอนที่ 419 ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 419 ศึกเผ่าเจ้าสมุทร (10)
ตอนที่ 419 ศึกเผ่าเจ้าสมุทร (10)
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวตะคอกเสียงออกมา ก็มีเสียงดังโครมครามกลางระลอกคลื่น คลื่นอากาศสีฟ้าหมุนวนไปรอบ ๆ ในลักษณะที่ดูคล้ายพายุบ้าระห่ำ ทำให้ผมสีดำของเขาโบกสะบัดไปตามแรงลม

ในขณะเดียวกัน มีน้ำทะเลถูกประคองอยู่นอกม่านแสงสีฟ้า และพวยพุ่งขึ้นมาก่อนที่จะก่อตัวเป็นระลอกคลื่น

ไหมแสงสีฟ้าจำนวนมากพุ่งออกจากระลอกคลื่น และจมลงไปในม่านแสงสีฟ้า จากนั้นค่อยๆ จมหายเข้าไปในระลอกคลื่นบนฝ่ามือของราชาปีศาจสมุทร มันค่อยๆ ก่อตัวเป็นของเหลวสีฟ้าที่มีขนาดเท่าลูกกำปั้น แลดูแวววาวราวกับผลึกใส

ขณะนั้นเอง ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวยกแขนขึ้นและวางลงทันที พอโบกสะบัดแขนเสื้อไปด้านหน้า ระลอกคลื่นขนาดใหญ่บนมือก็สลายไปทันที เหลือไว้เพียงของเหลวสีฟ้าสิบกว่าหยดที่ลอยนิ่งๆ อยู่กลางอากาศ

“ฟู่!”

ไหมโลหิตพุ่งออกจากข้อมือของชายหนุ่ม จากนั้นค่อยๆ จมเข้าไปในของเหลวสีฟ้า จนทำให้มันกลายเป็นสีแดงในพริบตา

ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวทำท่ามือแล้วชี้ไปกลางอากาศอีกครั้ง

ของเหลวสีแดงหมุนตัวติ้วๆ แค่อึดใจเดียว ก็กลายเป็นมังกรโลหิตสิบกว่าตัว ตอนแรกมันมีขนาดไม่เกินชุ่นกว่าๆ แต่พริบตาเดียวก็ขยายใหญ่ตามแรงลมจนมีขนาดสี่สิบถึงห้าสิบจั้ง

มังกรโลหิตเหล่านี้แยกเขี้ยวยิงฟันหมุนวนรอบตัวราชาปีศาจสมุทร ดูจากกลิ่นไอที่มันแผ่ออกมาแล้ว แต่ละตัวต่างก็มีพลังไม่ต่ำไปกว่าระดับผลึกขั้นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ หลังจากราชาปีศาจสมุทรสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง ก็มีแสงสว่างไสวบนมือ ธงขนาดยาวชุ่นกว่าๆ ที่มีอักขระสีเงินจางๆ ปกคลุมอยู่ปรากฏออกมา และพอชี้ไปทางอากาศ มันก็ขยายตัวตามแรงลมจนมีขนาดสูงใหญ่ราวกับหอ

ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวร่ายคาถาออกมาอย่างคลุมเครือ ธงยักษ์สีเงินเปล่งประกาย ขณะเดียวกัน ก็มีอักขระลึกลับหมุนวนอยู่บนธง จุดแสงสีเงินจำนวนมากพุ่งออกมาจากในนั้น ต่อมามันก็กลายเป็นหุ่นสูงใหญ่ที่สวมเกราะสีเงิน ตัวมันสูงสองจั้ง ใบหน้าไร้ความรู้สึก มือทั้งสองถือดาบคู่อยู่ และมีทั้งหมดราวๆ ร้อยตัว

ชั่วเวลานั้น มังกรโลหิตรอบตัวชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็หมุนวนอยู่ไม่หยุด หุ่นสีเงินยืนตั้งเรียงรายปกคลุมพื้นที่ด้านบนของวังใต้สมุทรไว้

หลังจากที่ราชาปีศาจสมุทรเรียกหุ่นสีเงินจำนวนมากออกมาแล้ว เขาก็โยนธงสีเงินขึ้นเหนือศีรษะ และชักดาบสั้นแวววาวออกมา เพียงแค่แกว่งมันเบาๆ จุดแสงสีฟ้าก็ปรากฏออกมาบริเวณนั้น และกลายเป็นคลื่นยักษ์ห่อหุ้มร่างของเขาไว้ภายในพริบตา

ขณะเดียวกัน ก็ดีดนิ้วข้างหนึ่งลงบนดาบสั้นเบาๆ หลังจากมีเสียงดังกังวานดังขึ้น แสงสีฟ้าแน่นขนัดก็พุ่งออกมาจากคลื่นยักษ์ พอหมุนติ้วๆ รวมตัวกันแล้ว ก็กลายเป็นหอกยาวสีฟ้าจำนวนมาก

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแค่ชั่วเวลาที่แสงกระพริบเท่านั้น ทำให้เผ่าเจ้าสมุทรี่อยู่บริเวณรอบๆ รู้สึกตะลึงงันเป็นอย่างมาก

“ไป!”

ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวตะคอกเสียงต่ำออกมา มังกรโลหิตสิบกว่าตัวหยุดการเคลื่อนไหวในฉับพลัน จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่เทพอสูรพร้อมกับหุ่นเกราะเงินร้อยกว่าตัว

และหลังจากเขาสะบัดแขนเสื้อ หอกยาวจำนวนมากที่หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ก็กลายเป็นสายรุ้งสีฟ้าแวววาวพุ่งไปยังเจ้าวิหารทั้งหกด้วยเสียงที่ดังสะเทือนเลือนลั่น และระหว่างทางมันก็พร่ามัวหายไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย

ครู่ต่อมา มีคลื่นสั่นสะเทือนตรงอากาศบริเวณด้านหน้าของเจ้าวิหารระดับแก่นเสมือนทั้งหก จากนั้นพายุเย็นสะท้านก็ม้วนตัวขึ้นมา

พริบตาเดียว หอกแวววาวแต่ละด้ามก็เปล่งแสงเจิดจ้าในขณะที่พายุก่อตัวขึ้น และพุ่งไปทางผู้แข็งแกร่งระดับแก่นเสมือนทั้งหกอย่างรุนแรง

ขณะที่หอกยาวอยู่ห่างในระยะหลายจั้งนั้น ผู้แข็งแกร่งของเผ่าเจ้าสมุทรเหล่านี้ ก็สัมผัสได้ถึงพลังเย็นสะท้านที่พุ่งเข้ามา

เจินเถียนที่สวมชุดหลากสีเห็นเช่นนี้ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาอยู่หลายรอบ พอคว้ามือข้างหนึ่งไปทางอากาศ สายฟ้าสีเงินจำนวนมากก็พุ่งออกมาเป็นหลาวสายฟ้าที่ยาวจั้งกว่าๆ

พอนางสะบัดข้อมือ หลาวสายฟ้าก็พุ่งยิงออกไปรับมือกับหอกยาวสีฟ้าที่พุ่งเข้ามา

แต่ทว่าฉากต่อมา สีหน้าของนางก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อหลาวสายฟ้าสัมผัสกับหอกยาวสีฟ้า มันก็ระเบิดตัวพังพินาศไปอย่างง่ายดาย ดูเหมือนจะไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย

พอนางสะบัดแขนเสื้ออย่างรีบร้อน กระจกสีเขียวอ่อนก็ปรากฏขึ้นมาอีกบาน จากนั้นนางก็โยนไว้ด้านหน้า และดีดนิ้วทั้งสิบไปมาจนดูพร่ามัว

กระจกหมุนตัวติ้วๆ กลางอากาศจนก่อตัวเป็นพายุบ้าระห่ำสีเขียว ขณะเดียวกันร่างของนางก็ถอยออกไปทันที นางหยิบยันต์ออกมาเป็นจำนวนนมาก จากนั้นก็ทำให้มันกลายเป็นม่านแสงห่อหุ้มร่างของตนเองไว้

“เพล้ง!”

ภายใต้การก่อกวนของพายุบ้าระห่ำสีเขียวที่หญิงผู้นี้ปล่อยออกไป แม้ว่าหอกยาวสีฟ้าหลายอันจะถูกเบี่ยงเบนทิศทางจนแฉลบผ่านด้านข้างไป แต่ก็ยังมีหลายอันที่โจมตีลงบนม่านแสงป้องกันตัว จนมันระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ

แสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นมาทันที หมอกน้ำแข็งสีฟ้าปรากฏออกมาเป็นกลุ่มๆ อย่างรวดเร็ว และม้วนตัวหญิงสาวไว้ในนั้น จากนั้นก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งแวววาวสีฟ้า

แต่ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ก็มีเสียงแตกหักดังออกมาอย่างชัดเจน!

ก้อนน้ำแข็งสีฟ้าแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวชุดหลากสีที่มีสายฟ้าสีเงินอยู่รายรอบ

ทันใดนั้นมีเสียง “โพล๊ะๆ!” ดังออกมาติดต่อกัน แต่พอหุ่นเกราะเงินถูกหนวดสะบัดใส่ แม้ว่าร่างจะกระเด็นออกไปราวกับกระสอบทราย และกระแทกลงบนพื้นหินที่ไกลออกไปหลายสิบจั้ง จนทำให้พื้นบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมขนาดต่างๆ แต่หุ่นเหล่านี้ ก็วิ่งขึ้นมาจากหลุมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็พุ่งไปทางเทพอสูรอีกครั้ง

เทพอสูรเห็นฉากเช่นนี้ ใบหน้างดงามก็ดูเหมือนจะแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็โบกสะบัดหนวดอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าการโจมตีของนางจะทำให้หุ่นเกราะเงินจำนวนมากกระเด็นออกไป แต่ก็ยังคงมีเล็ดลอดเข้ามาอยู่ตลอดเวลา

แม้จะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งราวกับเหล็ก แต่พอเผชิญหน้ากับดาบคู่ของหุ่นเกราะเงิน นางก็ไม่มีพลังต่อต้านใดๆ อีก!

แม้จะบอกว่าสำหรับรูปร่างขนาดมหึมาแล้ว บาดแผลแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในระหว่างที่หุ่นเกราะเงินเหล่านี้โจมตีอยู่ไม่หยุด ร่างของนางก็เริ่มกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ การเคลื่อนไหวก็เชื่องช้าลง

ขณะนั้นเอง มังกรโลหิตสองตัวนั้นก็กลืนกินหมอกควันสีม่วงจนหมดสิ้น และส่ายหางเข้าไปร่วมโจมตีด้วย

ภายใต้การร่วมมือของมังกรโลหิตสองตัวกับหุ่นเกราะเงินสิบกว่าตัว เห็นได้ชัดว่ามันยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพอสูรยักษ์ตัวนี้ แต่กลับสามารถก่อกวนเทพอสูรได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทำให้มันไม่อาจเข้าใกล้ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวได้เลยแม้แต่น้อย

และสถานการณ์แบบเดียวกัน ก็เกิดขึ้นซ้ำในกลุ่มการต่อสู้อื่นๆ

ราชาปีศาจสมุทรผู้นี้ อาศัยพลังระดับแก่นแท้กับหุ่นจำนวนมาก กดดันผู้แข็งแกร่งระดับแก่นเสมือนทั้งหกกับเทพอสูรทั้งสิบสองไว้ได้ และยังดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก

ผลลัพธ์เหนือความคาดหมายนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เผ่าปีศาจระดับผลึกเหล่านั้นรู้สึกตกระคนดีใจ ผู้อาวุโสสวมมงกุฎสีทองที่อยู่บนเรือยักษ์ ก็มีสีหน้าที่ดูไม่ได้ขึ้นมา

เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“คิดไม่ถึงว่าระดับแก่นแท้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นี่เป็นแค่แก่นขั้นต้นที่อาศัยพลังจากสิ่งของภายนอกในการเกาะตัวขึ้นมาเท่านั้น หากที่เกาะตัวมาเป็นแก่นแท้ขั้นสุดยอดล่ะก็ พลังของเขาคงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้! ไม่รู้ว่าทางหนีทีไล่ที่พวกเราเตรียมไว้นั้น จะสามารถรับกับมือเขาได้หรือไม่”

“ฝ่าบาทวางพระทัยเถิด เจ้าสารเลวนี่ได้ติดกับดักของพวกเราแล้ว วิธีการเหี้ยมโหดที่พวกข้าตระเตรียมมา ในสมัยบรรพกาลเคยสร้างความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง มันเคยสังหารระดับดาราพยากรณ์ในตำนานมาแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะชำรุดไปมาก แต่สำหรับระดับแก่นแท้ขั้นต้นคนหนึ่ง คงไม่มีปัญหาอะไร” ผู้อาวุโสรูปร่างค่อนข้างผอมที่อยู่ด้านหลังของผู้อาวุโสสวมมงกุฏทองคำกล่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเขาก็คือลี่คุนนั่นเอง!

“ดีมาก! ยุทธการการสู้รบในครั้งนี้ ข้าใช้เวลาเตรียมมาหลายสิบปี จะสำเร็จหรือล้มเหลวคงต้องขึ้นอยู่กับวิธีการนี้แล้ว หากสำเร็จถือว่าเจ้ามีความดีความชอบมาก ไม่เพียงแต่จะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นขุนนางอาวุโส ทั้งยังมีสิ่งตอบแทนให้ด้วย ตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะปล่อยมนุษย์พิษเหล่านั้นออกมาได้แล้ว” ผู้อาวุโสสวมมงกุฎทองคำค่อยๆ กล่าวออกมา

“ขอบพระทัยฝ่าบาท! ลี่คุนจงรักภักดีต่อราชวงศ์ชังไห่อย่างหาที่สุดไม่ได้ จะต้องไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังอย่างแน่นอน” พอลี่คุนได้ยินก็รีบคุมมือคารวะด้วยความดีใจ

…………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา