แหวนหมุนติ้วๆ อยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง “ฟู่!” จากนั้นก็กลายเป็นไอหมอกสีฟ้าห่อหุ้มร่างของนางไว้ และผิวของนางก็แพรวพราวไปด้วยแสงสีฟ้า
นิ้วทั้งสิบของนางดีดออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแสงสว่างก็กลายเป็นอสรพิษวารีหลายตัว และกระโจนใส่ฝ่ายตรงข้าม
ทาสเหมืองแร่ที่เหลือไม่กี่คนเห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกใจกล้าขึ้นมา และพากันแสดงท่าไม้ตายของตนเอง
ทาสเหมืองแร่เผ่าเจ้าสมุทรผู้หนึ่งกำมือด้วยตาที่เป็นประกาย จากนั้นธนูยักษ์ก็ปรากฏขึ้นในมือ หลังจากมืออีกข้างเคลื่อนไหว ลูกธนูสีม่วงก็ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้ว เขายิงมันออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นลูกธนูก็พุ่งยิงออกไปเป็นแสงสีม่วงที่ยาวจั้งกว่าๆ
ทาสเหมือแร่ต่างเผ่าคนหนึ่ง ตบถุงหนังบนเอวด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม เขาปล่อยโครงกระดูกอสูรออกมาหลายตัว พอตกถึงพื้นมันก็กระโจนออกไปท่ามกลางไอดำที่หมุนวนเป็นเกลียว
อีกคนก็ควักยันต์ขาดๆ ออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด หลังจากทำท่ามือและโยนออกไป มันก็กลายเป็นคมดาบยักษ์สีเขียวลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อมีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังขึ้น มันก็ฟันออกไปด้านหน้า
และหลังจากที่ทาสเหมืองแร่อีกคนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น เขาก็คืนร่างเป็นสิงโตเพลิงที่มีขนสีแดงกระเซอะกระเซิง พอส่งเสียงคำรามออกมา ลูกเปลวไฟก็พุ่งออกจากปากอย่างต่อเนื่อง
คนสุดท้ายกลับควักถุงผ้าที่มีลวดลายสีดำออกมา และโยนมันไปด้านหน้า จากนั้นแมลงปีศาจที่มีปีกสีดำอยู่บนหลังฝูงหนึ่ง ก็บินออกมาจากในนั้น หลังจากหมุนวนกลางอากาศหนึ่งรอบ มันก็กลายเป็นเมฆดำม้วนตัวออกไปท่ามกลางเสียงดังหวึ่งๆ
ผู้ที่ตามหลานสี่เข้ามาถึงที่นี่ และยังสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ย่อมไม่ใช่ผู้ที่มีฝีมือธรรมดา
พอพวกเขาเห็นการลงมืออย่างโหดเหี้ยมของตัวประหลาดที่ชื่อกุ่ยหลี บวกกับการคุกคามของราชาปีศาจสมุทร พวกเขาย่อมลงมืออย่างสุดชีวิตโดยไม่เก็บท่าไม้ตายใดๆ ไว้อีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากถอนตัวก็มีแต่ต้องตายลูกเดียวเท่านั้น แต่หากทุ่มพลังโจมตี ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสรอด เพราะราชาปีศาจสมุทรมีชื่อเสียงในทะเลชังไห่มานานหลายปี ย่อมน่าหวาดกลัวกว่าตัวประหลาดตรงหน้ามาก
ศีรษะยักษ์เห็นเช่นนี้กลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มันอ้าปากขนาดใหญ่พ่นแสงสีม่วงเข้มออกมา และโบกสะบัดอยู่ไม่หยุด
บริเวณที่แสงสีม่วงเข้มเคลื่อนตัวผ่าน มีแสงสีฟ้าแวววาวปรากฏออกมา ทันใดนั้นแสงสีฟ้าแวววาวก็ดับลงและหล่นลงไป หอกน้ำแข็งจำนวนมากระเบิดตัวออกมา แสงสีทองที่ซินหยวนปล่อยออกมาก็สลายไปอย่างไร้สุ้มเสียง
ส่วนหุ่นอสูร ลูกธนูแสง เคล็ดวิชา และฝูงแมลงที่คนอื่นๆ ปล่อยออกมา ก็ถูกแสงสีม่วงเข้มม้วนตัวไปในปากโดยที่ไม่สามารถดิ้นรนได้เลย
เปลวไฟในเบ้าตาทั้งสองของศีรษะยักษ์คุโชนขึ้นมา พอมันอ้าปาก ไหมดำจำนวนมากก็พุ่งออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แลดูคล้ายกับกระแสน้ำสีดำที่ไหลทะลัก
พอราชาปีศาจสมุทรเห็นสถานการณ์เช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาโบกสะบัดดาบสั้นแวววาวในมือ จากนั้นแสงเย็นสะท้านสีฟ้าก็ม้วนตัวออกไปเป็นชั้นๆ ทำให้ไหมดำที่เข้าใกล้กลายเป็นน้ำแข็งยักษ์
แต่ครู่ต่อมา ไหมดำเหล่านี้ก็ค่อยๆ ทะลายน้ำแข็งออกมา
แต่ขณะนั้นเอง ร่างของชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็พร่ามัว และพุ่งถอยออกไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่รู้ว่าเจียหลานที่ห่อหุ้มอยู่ในม่านแสงสีฟ้าถูกเพิ่มเคล็ดวิชาใดไว้ ถึงได้พุ่งออกไปตามเขา
พริบตาที่สูญเสียการติดต่อกับกระบี่บิน ร่างของหลิ่วหมิงก็ถอยออกไปหลายสิบจั้ง ในที่สุดเขาก็หลบการโจมตีของไหมดำไปได้ ขณะเดียวกัน ไม่รู้ว่าเขากุมแท่งวายุกระดูกไว้ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ และกำลังจ้องมองด้านหน้าด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ซินหยวนตะโกนเสียงดังออกมา หอกเหล็กในมือโบกสะบัดจนแม้แต่ลมก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ จากนั้นมันก็กลายเป็นแสงสีทองจำนวนมาก และกดดันจนไหมดำสั่นไหวเล็กน้อย ขณะนี้เขาถึงได้ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว และหนีมาอยู่ไม่ไกลจากหลิ่วหมิง แผ่นหลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ภายใต้ความรีบร้อนของหญิงสาวเผ่าเกล็ดทองผู้นั้น แม้ว่าจะอาศัยกำแพงวารีที่กลายร่างจากแหวนต้านทานไว้ได้ แต่ครู่ต่อมาก็ถูกไหมดำเจาะทะลุ และรัดพันร่างของนางไว้อย่างแน่นหนา
ทาสเหมืองแร่คนอื่นๆ ก็พากันนำอาวุธจิตวิญญาณออกมาต้านทานด้วยความหวาดกลัว พออาวุธจิตวิญญาณต่างๆ เผชิญหน้ากับไหมดำ มันก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
พริบตาที่ทาสเหมืองแร่เหล่านี้สัมผัสกับไหมดำ พวกเขาก็พากันสลบไปอย่างน่าประหลาดใจ
จากนั้นศีรษะยักษ์ ก็ลากหญิงสาวเผ่าเกล็ดทองและคนที่อยู่ในนั้นเข้ามา มันค่อยๆ เคี้ยวทาสเหมืองแร่เหล่านั้น ราวกับว่ากำลังลิ้มรสชาติชั้นเลิศอยู่
ขณะนี้ หลิ่วหมิงรู้สึกตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดจะปล่อยหัวบินกับแมงป่องกระดูกออกมา แต่ก็ต้องละความคิดนี้ไป ทันใดนั้น เขาก็มีความคิดที่จะหลบหนีไปให้ไปไกลๆ
ในเมื่อตัวประหลาดที่ชื่อกุ่ยหลี มีพลังเหนือกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก แม้แต่ระดับแก่นแท้อย่างราชาปีศาจสมุทรลงมือ ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้ ดังนั้นเขาย่อมไม่รอความตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
เพียงแค่เขามีชีวิตอยู่ แม้จะมีความหวังเพียงเลือนลาง แต่ก็ใช่ว่าจะหาจุดตัดอื่นในดินแดนเหวลึกไม่ได้
สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปมาอยู่หลายครั้ง ขณะที่เขากำลังคิดจะเริ่มดำเนินการนั้น พลันมีเสียงราชาปีศาจสมุทรดังอยู่ข้างหูของเขากับซินหยวน
“ข้ามีของสิ่งหนึ่ง มันสามารถทำให้เจ้าตัวนี้บาดเจ็บสาหัสได้ พวกเจ้าต้องช่วยข้าเบี่ยงเบนความสนใจของหลานสี่ถึงจะได้ มิเช่นนั้น หากมีเขาคอยเตือนเจ้าตัวนี้อยู่ล่ะก็ คงต้องยุ่งยากมากกว่าเดิม”
พอหลิ่วหมิงและซินหยวนได้ยินเช่นนี้ ย่อมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
หลิ่วหมิงรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา