หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาพยายามหลบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็หยิบยันต์จิตวิญญาณออกมาคุ้มกันตัวไว้
แสงโลหิตจำนวนมากกระพริบผ่านไป ขณะที่เผยให้เห็นสามคนที่อยู่ข้างในนั้น ร่างของพวกเขาต่างก็เปียกโชกไปด้วยโลหิต นอกจากผู้อาวุโสชุดดำที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแล้ว ร่างของฟางเหยากับหญิงหยาดเยิ้มก็โงนเงนจะล้มมิล้มแหล่ กลิ่นไอดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก
ราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตแผดเสียงร้องแหลมออกมา หมอกโลหิตบริเวณใกล้ๆ พวยพุ่งรวมตัวขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งไปยังคนทั้งสาม
สีหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปทันที พอสะบัดแขนเสื้อ ยันต์สีทองอร่ามก็พุ่งออกมา พริบตาเดียวก็กลายเป็นแสงสีทองห่อหุ้มคนทั้งสามไว้ในนั้น และกลายเป็นกลุ่มแสงสีทองพุ่งหนีไป มันเคลื่อนไหวแค่ไม่กี่ที ก็ทะลุไอหมอกโลหิตมาทางหลิ่วหมิงทั้งสอง
“สหายทั้งสอง รีบไป! ตอนนี้ไม่สามารถต่อสู้กับอสูรตนนี้ได้”
กลุ่มแสงสีทองกระพริบผ่านศีรษะของหลิ่วหมิงไปในพริบตา น้ำเสียงของฟางเหยาที่ดูโมโหเพราะความพ่ายแพ้ดังออกมาจากในนั้น
และขณะนี้ ราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตระดับของเหลวขั้นปลาย ก็กระโจนตามมาพร้อมกับไอหมอกที่พวยพุ่ง
หลิ่วหมิงทำเสียงฮึดฮัด และถือโอกาสเปลี่ยนกระบี่ให้กลายเป็นสายฟ้าสีเงิน และฟันอสูรตั๊กแตนโลหิตสองตัวที่อยู่ด้านหลังจนกลายเป็นสองส่วน จากนั้นก็สะบัดข้อมือในทันที เงากระบี่จำนวนมากพุ่งออกมา หลังจากรวมตัวกันแล้ว มันก็กลายเป็นเงากระบี่ยักษ์ที่ยาวห้าถึงหกจั้ง และกระพริบออกไปรับมือกับหมอกโลหิต
“ฟิ้ว!”
พอราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตที่ดูดุดันเป็นอย่างมาก ถูกกระบี่ยักษ์สีเงินฟันเข้าใส่ ไอหมอกหนาๆ ที่ต้านทานอยู่ตรงหน้าของมันก็สลายไปหมดสิ้น เกิดบาดแผลลึกบริเวณไหล่ของมัน จนเห็นกระดูกสีขาวอยู่รำไร
แต่พอราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตคำรามด้วยความโมโห ไอหมอกที่สลายไปก็พวยพุ่งไปยังไหล่ของมัน มันสร้างโลหิตและเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว ทำให้บาดแผลของมันสมานเข้าหากัน
แต่ขณะนั้นเอง พลันมีเงากระบองสีดำหวดเข้ามาจากด้านข้างอย่างไร้สุ้มเสียง
ราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตถูกพลังมหาศาลโจมตีจนกระเด็นออกไปด้านข้าง และส่งเสียงร้องออกมาอย่างแปลกประหลาด ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ซินหยวนหวดกระบองเข้ามาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ในขณะเดียวกัน หลิ่วหมิงใช้มือข้างหนึ่งคีบกระบี่ไว้ และชี้นิ้วไปยังเงากระบี่ยักษ์กลางอากาศ
เกิดเสียงดังกังวาน!
เงากระบี่สลายไปทันที กระบี่เล็กสีเงินกลายเป็นสายรุ้งแวววาวม้วนตัวเข้าหาราชาอสูรตั๊กแตนโลหิต พริบตาเดียว ร่างของมันก็มีรูเลือดขนาดใหญ่หนึ่งรู โลหิตจำนวนมากไหลทะลักออกมา
ราชาอสูรที่เดิมทีจะล้มมิล้มแหล่ ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงอีก ทันใดนั้นมันก็ล้มลงไปพร้อมกับเสียงร้องอย่างน่าเวทนา
พอฟางเหยาและคนอื่นๆ ที่เดิมทีคิดจะหนีลอยนวลไปได้เห็นถึงฉากเช่นนี้ ก็รู้สึกตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง
ขณะนั้นเอง ซินหยวนได้สะบัดกระบองเหล็กในมือทุบตีอสูรตั๊กแตนโลหิตที่นอนอยู่บนพื้นอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะทุบมันให้เละเป็นโจ๊ก
แต่ขณะนั้นเอง ราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตก็สะบัดหัวไปมา และอ้าปากพ่นหมอกดำเข้มข้นที่ดูคล้ายของเหลวออกมาอย่างบ้าคลั่ง หมอกดำขยายใหญ่หนึ่งหมู่กว่าๆ และคุ้มกันร่างของมันไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกัน เกล็ดบนตัวก็ลุกชันขึ้นมา ไหมโลหิตจำนวนมากพุ่งออกมาจากในนั้น พริบตาเดียวก็รวมตัวเข้ากับหมอกดำ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นมาเป็นอย่างมาก ราวกับว่าสิ่งนี้เป็นเปลือกแข็งๆ ของมัน
พอเงากระบองสีดำจำนวนมากโจมตีลงบนตัวราชาอสูร มันก็ส่งดัง “เต๊งๆ!” และดีดตัวกลับมา
ภายใต้แรงสะท้อนกลับ ทำให้ซินหยวนต้องร่นถอยออกไปไปสองก้าวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และอุทานออกมาเบา “เอ๊ะ!”
หลิ่วหมิงกระตุ้นพลังเวทด้วยแววตาเยือกเย็น กระบี่เล็กสีเงินที่เพิ่งเจาะทะลุไป ได้หมุนตัวกลับมา จากนั้นก็กลายเป็นสายรุ้งสีเงินฟันลงไปอีกครั้ง
“ฟิ้ว!”
วิชาขี่กระบี่ร้ายกาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
พอแสงสีเงินกระพริบผ่านไป เปลือกแข็งๆ ก็ถูกสายรุ้งสีเงินฟันจนกลายเป็นรู แต่ครู่ต่อมา กลับมีของเหลวสีดำราวดับหมึกพุ่งออกจากด้านใน
พอสายรุ้งสีเงินสัมผัสกับมัน ก็มีเสียงดังหวึ่งและดับแสงลง จากนั้นก็กลายเป็นกระบี่เล็กสีเงินก่อนที่จะร่วงลงไป
ขณะนี้ กระบี่บินเล่มนั้นไร้ซึ่งแสงใดๆ แล้ว ราวกับว่าได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ถึงได้รู้สึกตกใจขึ้นมาจริงๆ เขาคว้ามือข้างหนึ่งออกไปโดยไม่ต้องคิด ส่วนอีกข้างก็สะบัดแขนเสื้อออกไป
“ฟิ้ว!” กระบี่เล็กสีเงินถูกพลังไร้รูปบางอย่างดูดกลับมาในพริบตา นอกจากนี้ยังมีแสงสีขาวพุ่งยิงออกไป จากนั้นก็ไปปรากฏตัวบริเวณรูบนเปลือกแข็งที่ถูกเปิดออกในก่อนหน้านั้น และแทงลงไปอย่างโหดเหี้ยม
สิ่งนี้ก็คือแท่งวายุกระดูกที่หลิ่วหมิงสร้างขึ้นภายในถ้ำเหมืองแร่ในตอนนั้น
จากอานุภาพที่แท่งวายุกระดูกเคยสำแดงออกมา หากมันแทงลงบนตัวราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตที่อยู่ด้านใน มันก็มีโอกาสเสียชีวิตเจ็ดถึงแปดในสิบส่วน
แต่ขณะนั้นเอง พลันมีของเหลวสีดำพุ่งออกจากรูบนเปลือกแข็งอีกครั้ง
พอแท่งวายุกระดูกสัมผัสกับมัน ก็สลายกลายเป็นควันสีเทาในทันที
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
ซินหยวนกลับสูดหายใจด้วยความสามารถรู้สึกเย็นสะท้าน
และในขณะนั้นเอง มีเสียงแตกหักดังมาจากเปลือกแข็งที่อยู่ไกลๆ จากนั้นมันก็แตกกระจายในทันที ของเหลวสีดำทะลักออกมาพอมันแยกตัวออก ราชาอสูรตั๊กแตนโลหิตก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา