สรุปตอน ตอนที่ 458 – จากเรื่อง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet
ตอน ตอนที่ 458 ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
พอเสียงของนางสิ้นสุดลง เจียหลานก็ทำท่ามือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง นิ้วทั้งสิบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับล้อรถ อักขระแปลกประหลาดปรากฏขาดๆ หายๆ อยู่บนตัว อากาศตรงหน้าก่อตัวเป็นระลอกเคลื่อน และแผ่กระจายออกไป แสงสีม่วงเปล่งประกายอยู่ในแววตาทั้งสอง
การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้น นางผู้นี้ก็เริ่มแสดงวิชาละเมอฝันแล้ว
ขณะที่ซินหยวนเข้าไปในลานและยังไม่ทันได้สบตากับนาง ก็รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง จากนั้นเงาร่างจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาตรงหน้า ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาถูกครอบงำไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้
ซินหยวนตัดสินใจพลิกฝ่ามือหยิบยันต์สีเหลืองออกมาผืนหนึ่ง หลังจากแปะมันไว้บนหน้าผากแล้ว แสงสีทองก็ทะลุเข้าไปในทะเลจิตรับรู้ ทันใดนั้นเงาร่างตรงหน้าก็ถูกขับไล่ไปชั่วคราว
ยันต์ระดับนี้เฟิงจ้านแอบมอบให้ซินหยวนก่อนที่จะเข้ามาในลานต่อสู้ เขาบอกว่าค่อนข้างมีผลต่อการสงบจิตมาก
“ในเมื่อเจียหลานฝึกฝนจนเข้าสู่ระดับของเหลวขั้นกลางแล้ว ความน่าหวาดกลัวของร่างละเมอฝันก็ค่อยๆ แสดงอานุภาพออกมา คู่ต่อสู้ระดับเดียวกันลงไปไม่อาจทำการป้องกันได้!” พอหลิ่วหมิงเห็นซินหยวนใช้ยันต์ทันทีที่เข้าไปในลาน เขาก็รู้ว่าซินหยวนคงถูกวิชาร่างละเมอฝันดึงดูดโดยไม่รู้ตัว จนเขาต้องแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
แม้ซินหยวนจะใช้ยันต์ทำจิตให้สงบได้ชั่วคราว แต่ยังคงต้องกระตุ้นพลังเวทป้องกันอย่างต่อเนื่อง จากการต่อสู้ของเจียหลานกับเว่ยจ้งในก่อนหน้านั้น เขาก็เข้าใจว่าเวลาเผชิญหน้ากับวิชาละเมอฝันของฝ่ายตรงข้าม จะต้องรีบเผด็จศึกให้ไวที่สุด
ทันใดนั้น เขาก็ตะคอกเสียงต่ำออกมา กระบองเหล็กถูกหมุนควงอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าหาเจียหลาน
เจียหลานเห็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้มีสีหน้าลนลานเลยแม้แต่น้อย ลูกประคำสีทองในมือถูกนำออกมา และลอยอยู่เหนือศีรษะของนาง ขณะเดียวกันก็เริ่มร่ายคาถา จุดแสงห้าสีค่อยๆ ปรากฏออกมาด้านข้าง
ซินหยวนขมวดคิ้ว เขารู้ลึกๆ ในใจว่าพอเกราะป้องกันนี้ก่อตัวสำเร็จ แม้แต่อาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดก็ไม่อาจโจมตีได้ เขาจึงรีบเคลื่อนตัวมาอยู่ห่างจากเจียหลานจั้งกว่าๆ จากนั้นก็มีลวดลายสีดำปรากฏขึ้นบนกระบองเหล็ก แสงสีทองเปล่งประกายอยู่ครู่หนึ่ง ปลายส่วนหน้าของกระบองเหล็กก่อตัวเป็นหัวหอกสีทอง พริบตาเดียว แขนของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นมา หอกยาวในมือถูกเหวี่ยงออกไปด้วยพลังมหาศาล
บริเวณที่หอกยาวเคลื่อนตัวผ่าน จะทิ้งร่องรอยสีทองเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีเสียงอากาศระเบิดดังขึ้นมา
“เปรี๊ยะๆ!” ม่านแสงห้าสีตรงหน้าเจียหลานเพิ่งจะสร้างต้นแบบขึ้นมาได้ แต่กลับถูกฉีกขาดจนเป็นรูขนาดใหญ่ จากนั้นหอกยาวก็พุ่งทะลุหน้าอกเจียหลานไปอย่างรวดเร็ว
ซินหยวนเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกดีใจมาก แต่ทว่าครู่ต่อมา ฉากอันน่าประหลาดใจก็ได้บังเกิดขึ้น!
ร่างของเจียหลานที่ถูกหอกสีทองเจาะทะลุ พร่ามัวขึ้นมาทันที จากนั้นก็แตกกระจายหายไปราวกับฟองน้ำในระลอกคลื่น
เงาร่างที่ถูกแทงทะลุนั้น เป็นเพียงภาพมายาของเจียหลาน!
ซินหยวนที่อยู่กลางอากาศมีสีหน้าอึมครึมขึ้นมา พอเขากวักมือ หอกสีทองก็พุ่งกลับมาอยู่ในมือ ขณะเดียวกัน พลังจิตอันแข็งแกร่งก็ถูกปล่อยออกไป
ขณะนั้นเอง มีคลื่นสั่นสะเทือนอยู่ห่างออกไปหลายจั้ง จากนั้นร่างของเจียหลานก็ปรากฏออกมาด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
หลังจากถอนใจเบาๆ แล้ว นางก็พลิกฝ่ามือข้างหนึ่งขึ้นมา และลูกประคำเส้นนั้นก็ปรากฏอยู่บนมือ พอโยนออกไป มันก็กลายเป็นกลุ่มแสงสีทองพุ่งเข้าหาซินหยวน
ซินหยวนเคยเห็นความร้ายกาจของอาวุธจิตวิญญาณอย่างลูกประคำมาแล้ว จึงไม่อาจดูเบามันได้ พอเขาทำท่ามือแล้วชี้ออกไป หอกยาวก็พุ่งออกไปรับอย่างรวดเร็ว
“ตู๊ม!”
พอหอกยาวสีทองสัมผัสโดนลูกประคำ มันก็ถูกแสงสีทองดีดออกมา และลูกประคำก็ยังพุ่งเข้าใส่ซินหยวนไม่หยุด
ซินหยวนขมวดคิ้ว และจับหอกยาวที่ดีดตัวกลับมาไว้แน่น พอโบกมันไปในอากาศ มันก็กลายเป็นกระบี่ยักษ์สีดำที่มีขนาดใหญ่หลายจั้ง ไอกระบี่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวกระบี่ อากาศบริเวณรอบๆ เกิดคลื่นสั่นสะเทือนอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
“ฟัน!”
ซินหยวนตะโกนออกมาทันที กระบี่ยักษ์สีดำส่งเสียงดังกึกก้อง จากนั้นก็ฟันใส่ลูกประคำสีทองราวกับสายรุ้งอันทรงอานุภาพ
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ภายใต้การปะทะกันระหว่างลูกประคำกับกระบี่ยักษ์ ทำให้ทั้งสองกลายเป็นสายรุ้งอันน่าตกใจก่อนที่จะพุ่งกลับไปคนละทาง
ดวงตาซินหยวนเป็นประกาย พอกวักมือเรียกกระบี่ยักษ์กลับมาแล้ว มันก็กลายเป็นธนูยักษ์สีดำราวกับหมึก
เมื่อดึงสายธนู กล้ามเนื้อบนแขนทั้งสองก็นูนขึ้นมา จากนั้นลูกธนูสีทองเจิดจ้าก็ปรากฏอยู่บนธนู
ขณะที่ลูกธนูสีทองปรากฏออกมานั้น สีหน้าของเจียหลานก็เปลี่ยนไปทันที นิ้วขาวผ่องทั้งสิบปล่อยพลังออกไปติดต่อกัน ลูกประคำที่พุ่งกลับมาก็ลอยวนอยู่เหนือศีรษะ เกราะป้องกันรูปวงแหวนห้าสีปรากฏออกมา และปกคลุมร่างของนางไว้อย่างแน่นหนา เสียงภาษาสันสกฤตดังขึ้นมาหวึ่งๆ
และในขณะเดียวกัน ซินหยวนก็เผยแววตาดุร้ายออกมา พอปล่อยลูกธนู แสงสีทองก็พุ่งยิงใส่เจียหลาน
“เปรี๊ยะ!”
พอแสงสีทองปะทะลงบนม่านแสง มันก็แตกร้าวออกมา และเกือบจะทะลุเข้าไปด้านในได้
ในที่สุดใบหน้าอันงดงามของเจียหลาน ก็เผยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจออกมา มือทั้งสองค้ำยันม่านแสงไว้ พลังเวททะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงภาษาสันสกฤตดังออกมาจากปาก
ลูกธนูสีทองกับม่านแสงห้าสีคุมเชิงกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นแสงสีทองก็ค่อยๆ ดับลง และแตกกระจายเป็นจุดแสงสีทองก่อนที่จะสลายไปในอากาศ
ขณะนี้ซินหยวนที่อยู่ไกลๆ กำลังอ้าปากหายใจหอบอยู่
การโจมตีติดต่อกันนี้ ทำให้เขาสูญเสียพลังเวทไปมากกว่าครึ่ง เงาร่างละเมอฝันในทะเลจิตรับรู้ที่ถูกยันต์แสงสีทองระงับไว้ ก็เริ่มหวนกลับมาโจมตีอยู่ลางๆ
“วิชาขี่กระบี่!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนหลุดปากออกมา ทันใดนั้นฝูงชนที่รับชมอยู่ก็พากันฮือฮาขึ้นมา
ผู้คนที่อยู่ที่นั่น นอกจากคนของพรรคฉางเฟิงที่เคยเห็นหลิ่วหมิงในตอนประลองคัดเลือกแล้ว คนอื่นๆ ต่างก็คิดว่าหลิ่วหมิงเป็นแค่ผู้ฝึกร่างคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นผู้ฝึกกระบี่ด้วย แม้ว่าการฝึกร่างและกระบี่ควบคู่กันไป ใช่ว่าจะไม่มีในแผ่นดินจงเทียน แต่ก็มีแค่ในนิกายใหญ่ที่หาได้ยากยิ่งเท่านั้น
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกตกตะลึงขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา ครู่เดียวก็สงบสติอารมณ์ได้
พอแผดเสียงร้องออกมา แขนทั้งคู่ก็สั่นสะท้าน เกิดเสียงดัง “เปรี๊ยะๆ!” ภายในร่าง ลวดลายสีเขียวปรากฏขึ้นบนผิว และเลื้อยไปตามตัวอย่างรวดเร็ว
เดิมทีชายหนุ่มมีสีหน้าสงบ แต่หลังจากเงาร่างอสรพิษยักษ์ปรากฏออกมา เส้นเอ็นตามตัวก็นูนขึ้นมาด้วย ทำให้ยิ่งดูอัปลักษณ์มากว่าเดิม
“ไป!”
พอชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้าชี้ไปกลางอากาศ อสรพิษสีเขียวก็หลุดออกจากตัว และพุ่งไปรับมือกับเงากระบี่ท่ามกลางเสียงที่ดังกึกก้อง
ห่างจากเงากระบี่ไปไม่กี่จั้ง อสรพิษยักษ์สะบัดหางใส่เงากระบี่ที่พุ่งเข้ามาเต็มฟ้า พอทั้งสองปะทะกัน ก็ระเบิดแสงออกมาอย่างบ้าคลั่ง กระบี่ที่ปกคลุมเต็มฟ้าสลายไปทันที ดวงตาสีเลือดทั้งคู่ของมันเปล่งประกาย จากนั้นก็หมุนตัวพุ่งใส่หลิ่วหมิง
สายตาหลิ่วหมิงดูเยือกเย็นขึ้นมา พอกระตุ้นท่ามือ พลังไอกระบี่มหาศาลก็พุ่งขึ้นฟ้า
กระบี่เงินเปล่งประกาย พอมันหลุดออกจากมือ ก็กลายเป็นสายรุ้งสีเงินขนาดใหญ่ และพุ่งเข้าหาอสรพิษยักษ์ที่อยู่กลางอากาศ
ชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเห็นเช่นนี้ ก็เปลี่ยนท่ามือทันที อสรพิษยักษ์กลางอากาศอ้าปากในฉับพลัน คมเขี้ยวอันแหลมคมโผล่ออกมา ลำแสงสีเขียวที่มีกลิ่นไอการกัดกร่อนอย่างรุนแรงพุ่งออกไปรับสายรุ้งสีเงินที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หลังจากแสงสีเงินเปล่งประกายออกมา ลำแสงสีเขียวก็ถูกสายรุ้งสีเงินฟันใส่จนสลายไป จากนั้นก็กระพริบผ่านร่างของอสรพิษยักษ์ และทิ้งรอยแผลลึกที่ยาวหนึ่งฉื่อๆ กว่าไว้
ไอสีเขียวพุ่งออกจากร่างของอสรพิษยักษ์!
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้าก็ขมวดคิ้วขึ้นมา บริเวณหัวไหล่ก็มีบาดแผลปรากฏขึ้นมาหนึ่งแห่ง และมีโลหิตซึมออกมา
ขณะที่สายรุ้งสีเงินฟันใส่ลำแสงสีเขียวนั้น แสงสีเงินบนตัวของมันก็ดับลงเช่นกัน
…………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา