ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 459

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 459 วิชาเก้าอสรพิษหยก
ตอนที่ 459 วิชาเก้าอสรพิษหยก
โดย
Ink Stone_Fantasy
ภายใต้การเชื่อมจิตกับกระบิน หลิ่วหมิงค้นพบว่ามันไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ว่าพลังเวทที่แฝงอยู่ในกระบี่ถูกกัดกร่อนไปกว่าครึ่งหนึ่ง พอเขากวักมือเรียกกระบี่กลับมาแล้ว ก็กระตุ้นพลังเวทให้แสงบนตัวมันเปล่งประกายอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าก็เปลี่ยนท่ามือทันที และอสรพิษยักษ์ก็หมุนวนอยู่บนตัวเขาอีกครั้ง ลวดลายสีเขียวบนตัวเปล่งประกาย ไหมสีเขียวเล็กๆ โผล่ออกมาจากในนั้น ครู่เดียวก็พันปากแผลไว้อย่างหนาแน่น และบาดแผลบนตัวอสรพิษยักษ์ก็สมานกันอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเขาเปล่งประกายเยือกเย็น หลังจากส่งเสียงคำรามออกมา อสรพิษยักษ์สีเขียวก็แยกออกเป็นสองตัว และพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงอีกครั้ง

หลิ่วหมิงกระตุ้นเคล็ดกระบี่ด้วยสีหน้าสงบ กระบี่บินสีเงินกลายเป็นสายรุ้งสีเงินพุ่งออกไปปะทะ

ลำแสงสีเงินกับไอสีเขียวระเบิดตัวพวยพุ่งออกมากลางอากาศ

หลังจากอสรพิษยักษ์รุกออกไปอีกรอบ ก็มีบาดแผลขนาดต่างๆ ปรากฏบนตัวชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้า

ภายใต้การควบคุมกระบี่บินของหลิ่วหมิง แม้จะเหนือว่าอสรพิษยักษ์ทั้งสองมาก แต่ชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้ากลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า มันจะมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย

พอเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันเบาๆ

ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ารู้สึกรับมือไม่หวาดไม่ไหว ขณะที่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เขาก็รู้สึกโมโหอย่างถึงขีดสุด ทันใดนั้น ก็หยิบโอสถออกมาทานหนึ่งเม็ด และหยิบยันต์สีเลือดออกมาสองสามผืน จากนั้นก็ฉีกจนขาดกระจุย

ครู่เดียว เอ็นสีเขียวบนตัวชายหนุ่มก็ปูดโปนขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำ ลวดลายสีเลือดปรากฏขึ้นบนตัว

อสรพิษยักษ์สองตัวที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านหน้า ก็ส่งเสียงดังออกมาอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และจมหายไปในร่างของชายหนุ่ม

พอชายหนุ่มตะโกนออกมา แสงสีเขียวก็เปล่งประกายบนตัว คิดไม่ถึงว่ามันจะห่อหุ้มร่างของเขาไว้ทั้งหมด

จากนั้น มีเสียงคำรามดังออกมาจากแสงสีเขียว เมื่อแสงสีเขียวดับไป ก็เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้าอีกครั้ง แต่ด้านหลังของเขามีเงาหัวอสรพิษหยกเกาะตัวขึ้นมาเก้าหัว แต่ละหัวต่างก็มีขนาดจั้งกว่าๆ คมเขี้ยวของมันแหลมคมมาก ลำแสงสีเขียว ฟ้า แดง และสีอื่นๆ ทั้งหมดเก้าสี กำลังเปล่งประกายอยู่ในดวงตาของมัน

“ศิษย์ของท่านฝึกฝนวิชาเก้าอสรพิษหยกจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!” หญิงแซ่เซียวเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา จากนั้นก็หันไปกล่าวกับตู๋กูอวี้เบาๆ

“ท่านเซียนกล่าวได้ถูกต้อง ต้องขอบคุณโอสถเกาะตัวไอปีศาจที่หอท่านมอบให้ ศิษย์ข้าถึงได้โชคดีเช่นนี้” ตู๋กูอวี้กล่าวอย่างนอบน้อม ดวงตาของเขาฉายแววปีติเล็กน้อย

หลังจากกระบี่จิตวิญญาณกลางอากาศสูญเสียคู่ต่อสู้ มันก็กลายเป็นสายรุ้งสีเงินแวววาวพุ่งไปหาชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้า

ชายหนุ่มกลับไม่คิดหลบหลีกแต่อย่างใด

ดวงตาสิบแปดลูกของอสรพิษหยกเก้าหัวเปล่งประกาย ทันใดนั้นก็มีสามหัวเคลื่อนไหว จากนั้นลูกเปลวหนึ่งลูก พายุบ้าระห่ำหนึ่งลูก และสายฟ้าสีดำหนึ่งสาย ก็พุ่งยิงออกไป

ตอนแรกสายรุ้งสีเงินแวววาวถูกลูกเปลวไฟที่ระเบิดออกมาปกคลุมไว้ ต่อมาก็ถูกสายฟ้ารัดพัน และถูกพายุบ้าระห่ำม้วนเข้าไป จึงทำให้มันสูญเสียการควบคุมทันที หลังจากแสงบนตัวดับลง มันก็ฟื้นสภาพเป็นกระบี่เล็กสีเงินก่อนตกลงมา

พอหลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้!

หากเขาคาดเดาไม่ผิดล่ะก็ ที่ดวงตาของอสรพิษหยกเก้าหัว มีสีสันที่แตกต่างกันไป ทำให้มันสามารถแสดงวิชาได้แตกต่างกันถึงเก้าแบบ

เมื่อกระบี่บินเผชิญหน้ากับวิชาหนึ่งถึงสองรูปแบบ ก็ยังพอสามารถรับมือได้ แต่ภายใต้ผลลัพธ์ของวิชาหลากหลายรูปแบบ ทำให้กระบี่บินที่เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำเช่นนี้ มีพลังไม่เพียงพอ

หลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว พอยกแขนเสื้อ แสงสีทองอร่ามก็กระพริบออกไป และหมุนติ้วๆ อยู่กลางอากาศ จากนั้นก็กลายเป็นทรายสีทอง

มันคืออาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดอย่างทรายทองคำร่วงนั่นเอง!

ขณะนี้เขามีสีหน้าเคร่งขรึมมาก พอเปลี่ยนท่ามือ เขาก็ร่ายคาถาออกมา

ทรายทองคำแผดเสียงร้องและปกคลุมเต็มฟ้า มันกระพริบแค่ทีเดียวก็หายไปจนหมดสิ้น

ครู่ต่อมา มีหมอกทรายปรากฏขึ้นบนอากาศตรงหน้าชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้า ทรายทองคำแต่ละเม็ดเปล่งประกายออกมาท่ามกลางแสงสีทองอร่าม และเรียงตัวกันอย่างแน่นหนา จากนั้นก็ก่อตัวเป็นค่ายกลทรายแปลกประหลาด

นี่เป็นเพราะว่าหลิ่วหมิงต้องการเผด็จศึกให้ไวที่สุด ถึงได้กระตุ้นทรายทองคำร่วงที่แฝงด้วยชั้นจำกัดออกมา

ชายหนุ่มที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเห็นเช่นนี้ ก็หัวเราะอย่างเยือกเย็น และปล่อยพลังออกไปอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น แสงสีต่างๆ ก็พุ่งออกจากปากอสรพิษหยกทั้งเก้าที่อยู่ด้านหลังของเขา จากนั้นก็พุ่งยิงไปยังค่ายกลทราย เพื่อที่จะทำลายมันให้ได้ และจะได้โจมตีหลิ่วหมิงให้แตกกระเจิงในทีเดียว

“ตู๊มๆ!”

คมวายุ แสงสีทอง เปลวไฟ ของเหลวมีพิษ และการโจมตีอื่นๆ ต่างก็โจมตีลงบนค่ายกลทราย และระเบิดออกมาเป็นกลุ่มแสงหลากสีสัน จากนั้นกระแสพายุบ้าระห่ำที่เย็นและร้อนผสมผสามกัน ก็กระจายไปทั่วทิศ!

อานุภาพของมันร้ายแรงมาก นอกจากผู้แข็งแกร่งระดับผลึกไม่กี่คนแล้ว คนอื่นๆ ที่รับชมอยู่ ต่างก็พากันร่นถอยออกไปด้วยความตกใจ

วิชาต่างๆ ระเบิดตัวบนม่านทราย แต่ดูเหมือนกับว่าปะทะลงบนกำแพงเหล็ก วิชาเหล่านี้เพียงแค่ทำให้ม่านทรายสั่นไหวอย่างรุน จากนั้น แสงสีทองก็หมุนวนบนม่านทราย และกลับมาสงบเช่นเดิม

สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเขาจะรับรู้ได้ว่าม่านทรายนี้แข็งแกร่งมาก หอกดาบไม่อาจแทงทะลุได้ เขาจึงรีบเปลี่ยนท่ามือทันที อสรพิษหยกที่อยู่ด้านหลังอ้าปากพุ่งยิงวิชาต่างๆ ออกมาอีกครั้ง ลูกเปลวไฟขนาดใหญ่ที่ถูกพายุบ้าระห่ำห่อหุ้มไว้พุ่งมารวมตัวกับสายน้ำสีฟ้า และแท่งวารีก่อนที่จะพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงตาเป็นประกายขึ้นมา มือทั้งสองทำท่ามืออย่างรวดเร็ว และชี้ไปทางค่ายกลทรายทองคำที่อยู่กลางอากาศ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา