“ศิษย์คารวะอาจารย์!” เจียหลานโค้งตัวคารวะ
หญิงงดงามพยักหน้าแล้วลุกขึ้นมา จากนั้นก็พาเจียหลานเดินเข้าไปด้านในของห้องโถงใหญ่
……
บริเวณรอบๆ เขาหมื่นวิญญาณ ท่ามกลางหุบเขาที่ดูธรรมดาๆ บางแห่ง
บนแปลงสมุนไพรที่อยู่ข้างกระท่อมโกโรโกโสแห่งหนึ่ง พลันมีเสียงร้องด้วยความตกใจระคนดีใจ
“อะไรนะ! มีข่าวของปู่ลิ่วยินแล้วหรือ และคนผู้นั้นยังเป็นศิษย์สายนอกแล้วด้วย ดีไปเลย! ไป! ไป! รีบนำข่าวนี้ไปบอกเฟยเอ๋อร์ ให้เขาไปหาคนผู้นี้ ดูว่าท่านปูทิ้งคำพูดอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราบ้าง ท่านย่ากลัดกลุ้มเป็นทุกข์ในเรื่องนี้มาโดยตลอด”
พอเสียงนี้สิ้นสุดลง ก็มีเงาร่างหนึ่งทะยานขึ้นฟ้า และเคลื่อนอย่างรวดเร็วไม่กี่ที ก็หายไปตรงขอบฟ้า
……
สองชั่วยามต่อมา
หลิ่วหมิงมาตามทางที่บอก จนมาถึงยอดเขาสูงใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ในส่วนลึกของกลุ่มเขา
หองานนอกที่กล่าวถึง แท้จริงแล้วเป็นลานราบเรียบขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางยอดเขาที่สร้างแยกออกมา
สิ่งก่อสร้างบนนั้นมีไม่มากนัก นอกจากหอขนาดใหญ่กับหออื่นๆ อีกสองสามหลังแล้ว ก็ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดที่สามารถพูดถึงได้อีก
หลิ่วหมิงสังเกตดูจากกลางอากาศเล็กน้อย จากนั้นก็ร่อนลงด้านนอกหอขนาดใหญ่
“หยุดก่อน! เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงกล้าบุกรุกหองานนอกของนิกายยอดบริสุทธิ์เรา?” พอหลิ่วหมิงเพิ่งจะตั้งหลักได้ ก็มีน้ำเสียงเคร่งขรึมดังเข้ามา จากนั้นชายหนุ่มเสื้อแดงสองคน ก็ตะคอกใส่หลิ่วหมิง
“ข้าน้อยหลิ่วหมิง เพิ่งจะเป็นศิษย์สายนอก ตั้งใจมาหองานนอกเพื่อทำพิธีการเข้านิกาย” หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รีบอธิบายออกมา
“อ้าว! การรับสมัครศิษย์สายนอกในปีนี้ได้สิ้นสุดไปนานแล้ว หรือว่าเจ้าถูกแนะนำมาจากที่ใด?” พอเห็นหลิ่วหมิงบอกว่าเป็นศิษย์สายนอกเช่นกัน ชายหนึ่งในนั้นก็มีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังจากสังเกตดูหลิ่วหมิงสองสามทีแล้ว ก็ถามด้วยความสงสัย
“ข้าได้รับคำแนะนำจากหอคุมกฎให้เข้านิกาย นี่คือป้ายของข้า” หลิ่วหมิงหยิบป้ายประจำตัวออกมา
“หอคุมกฎแนะนำมา?” ชายเสื้อแดงสองคนสบตากันทีหนึ่ง และงงงันเล็กน้อย
หนึ่งในนั้นรีบก้าวเข้ามา และรับป้ายของหลิ่วหมิงไปตรวจสอบอย่างละเอียด
“อืม! ศิษย์น้อง ในเมื่อเจ้าผ่านการตรวจสอบของนิกายเราแล้ว ก็ตามข้ามาเถอะ!” คนผู้นี้มีสีหน้าผ่อนคลายลง จากนั้นก็คืนป้ายให้กับหลิ่วหมิง และพาเขาเข้าไปด้านใน
ชายเสื้อแดงอีกคนก็มองหลิ่วหมิงทีหนึ่ง แต่กลับไม่ได้เข้าไป ยังคงตระเวนสังเกตการณ์อยู่หน้าประตู
“ศิษย์น้องหลิ่ว เมื่อครู่ล่วงเกินแล้ว เป็นเพราะก่อนหน้านั้น หองานนอกของเราเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น จึงทำให้ช่วงนี้ศิษย์อย่างพวกข้ารู้สึกตรึงเครียดมาก……” ขณะที่เดินไปด้านหน้า ชายเสื้อแดงก็หัวเราะเหอะๆ ไปด้วย
หลิ่วหมิงพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจแล้ว!
ด้านในหอใหญ่ค่อนข้างเงียบเชียบมาก ตลอดทางไม่พบเห็นคนอื่นๆ เลย
ไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องรับรองที่อยู่ข้างห้องโถง
ชายเสื้อแดงแสดงท่าทีให้หลิ่วหมิงรออยู่หน้าประตู ส่วนตนเองก็ขอป้ายประจำตัวของหลิ่วหมิงแล้วเดินเข้าไปด้านใน ไม่นานก็เดินออกมา ในมือมียันต์เก็บของเพิ่มขึ้นมาผืนหนึ่ง
“นี่เป็นสิ่งของเข้านิกายที่ทางนิกายมอบให้ศิษย์สายนอก เจ้าสามารถดูก่อนได้ ข้าจะไปเชิญผู้อาวุโสที่ดำเนินการอยู่ที่นี่ มาจัดการเรื่องเข้าสังกัดสาขาที่ฝึกฝน” ชายเสื้อแดงหัวเราะเฮ่อๆ! และยื่นยันต์เก็บของให้หลิ่วหมิง จากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน
หลิ่วหมิงกล่าวขอบคุณและรับยันต์เก็บของไว้ พอปล่อยจิตกวาดดูด้านใน ก็ค้นพบว่านอกจากเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งกับอาวุธจิตวิญญาณระดับต่ำชิ้นหนึ่งแล้ว ยังมีโอสถอยู่หลายขวดกับหินจิตวิญญาณจำนวนไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา