ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 494

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 494 ความวุ่นวาย
ตอนที่ 494 ความวุ่นวาย
โดย
Ink Stone_Fantasy
มีเสียงแผดร้องของมังกรพยัคฆ์ดังออกมา!

ไอดำที่พวยพุ่งรอบตัวหลิ่วหมิงหยุดชะงักลง มังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกหมุนวนขึ้นมา แขนทั้งสองข้างขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว เส้นเอ็นนูนขึ้นมาราวกับไส้เดือนที่เลื้อยขยุกขยิก พริบตาเดียวร่างของเขาก็สูงกว่าเดิมสามส่วน

เขารอจนโคเพลิงพุ่งใกล้จั้งกว่าๆ ถึงได้ขยับตัวไปอยู่ด้านขวาของมันอย่างรวดเร็วราวกับปีศาจ พอสะบัดแขนขนาดใหญ่ กำปั้นยักษ์ที่มีไอดำลอยวนก็ทุบลงบนตัวอสูรเพลิงอย่างรวดเร็ว

“ตู๊ม!”

ร่างขนาดมหึมาของโคเพลิงถูกโจมตีจนกระเด็นขึ้นไป มีเสียงแตกหักดังติดต่อกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเลือดสีดำก็พุ่งออกจากปากและจมูกของอสูรเพลิงตัวนี้

ร่างของโคเพลิงตกลงพื้นอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่หลายจั้ง

แต่อสูรตัวนี้พลิกตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และคำรามออกด้วยความโมโห จากนั้นลายพาดกลอนสีดำแดงบนตัว ก็เริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมา พริบตาเดียวก็กลายเป็นม่านแสงสีแดงเพลิง

มันพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิงอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง เขาบนหัวแหลมคมเป็นพิเศษ อานุภาพน่ากลัวอย่างถึงขีดสุด

ดวงตาหลิ่วหมิงดูเฉียบขาดขึ้นมา เขาขยับตัวหลบการโจมตีนี้ไปได้ และมาปรากฏตัวด้านข้างอสูรเพลิงอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่ามีเกล็ดสีแดงปกคลุมอยู่บนแขนทั้งสองตั้งเมื่อไหร่ และพอแขนของเขาพร่ามัว มันก็กลายเป็นเงากำปั้นจำนวนมาก

“ตุ๊บๆ!” เงากำปั้นแต่ละลูกล้วนโจมตีลงบนม่านแสงอย่างแม่นยำ และพลังอันเหลือเชื่อก็ทะลักออกมา

ม่านแสงรอบตัวโคเพลิงเปล่งประกายอย่างบ้าคลั่งไม่กี่ครั้ง ก็แตกกระจายออกมาในพริบตา

จากนั้นก็มีเสียงดัง “ฟู่!”

นิ้วมือทั้งห้าบนฝ่ามืออัปลักษณ์ข้างหนึ่งกางออกมา และเจาะลงบนผิวหนังอันแข็งแกร่งของโคเพลิง หลังจากหดกลับมาอย่างรวดเร็ว ก็มีหัวใจสีแดงปรากฏอยู่ในมือดวงหนึ่ง

อสูรเพลิงตัวนี้แผดเสียงร้องโหยหวน ทันใดนั้น เท้าทั้งสี่ก็อ่อนแรงและล้มลงพื้น ร่างของมันกระตุกอย่างรุนแรง

ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ร่างขนาดมหึมาของอสูรเพลิงตัวนี้ก็นอนนิ่งอยู่ท่ามกลางกองเลือด

และบนมือขวาของหลิ่วหมิงในขณะนี้ ก็จับแก่นผลึกสีแดงเพลิงที่มีขนาดเท่ากำปั้นไว้ มันแผ่แสงสีแดงที่ดูคล้ายกับเปลวเพลิงออกมา

เมื่อเก็บแก่นผลึกเข้าไปแล้ว หลิ่วหมิงก็กวาดสายตามองดูรอบด้านด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็ขี่เมฆทะยานขึ้นฟ้า เหาะจากไปอย่างรวดเร็ว

……

สองชั่วยามต่อมา

มีการต่อสู้ตะลุมบอนอย่างดุเดือดบนเขาเตี้ยๆ ลูกหนึ่ง แสงหลากสี และแสงกระบี่ต่างๆ ประสานกันไปมา มีเสียงคำรามของอสูรเพลิง และเสียงระเบิดดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลิ่วหมิงกับศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์สามคน ถูกอสูรเพลิงนับร้อยและอัคคีจิตวิญญาณหลายตัวปิดล้อมอยู่บนเนินเขาแห่งหนึ่ง พวกเขาพยายามต่อต้านอย่างสุดชีวิต

ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์สองในสามคนนั้น คือชายหนุ่มผมแดงกับเฉินเติงที่หลิ่วหมิงเจอในก่อนหน้านั้น

เฉินเติงถืออาวุธจิตวิญญาณสีม่วงที่มีลักษณะคล้ายเข็ม พอสะบัดแขน ก็มีแสงสีม่วงพุ่งออกไปจำนวนมาก และปรากฏตัวขาดๆ หายๆ ท่ามกลางฝูงอสูร และมีเลือดติดออกมาตลอดเวลา

ภายใต้การควบคุมแสงสีม่วงของเขา มันสามารถแยกและรวมตัวเข้าด้วยกันได้ดั่งใจนึก ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก

ชายหนุ่มผมแดงก็ถือธงยักษ์สีฟ้าอันหนึ่ง และโบกสะบัดอย่างต่อเนื่อง คลื่นน้ำสีฟ้าพวยพุ่งอยู่ตรงหน้าไม่หยุด และกลายเป็นคลื่นกำแพงวารีขนาดใหญ่ ปกป้องคนอื่นๆ ไว้ด้านใน และต้านทานการโจมตีจากภายนอกของอสูรเพลิง

ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์คนสุดท้ายก็ถือม้วนรูปภาพไว้ เขากำลังปล่อยนกนางแอ่นจิตวิญญาณสีดำหลายตัวออกมาต่อสู้กับคางคกสีแดงขนาดสองสามจั้ง ที่อยู่ระดับของเหลวขั้นต้นสองตัว ดูจากสถานการณ์แล้ว เหมือนเขาจะถือไพ่เหนือกว่า

อีกด้านหนึ่ง หลิ่วหมิงทำท่ามือกระตุ้นเคล็ดกระบี่อย่างเงียบๆ กระบี่เล็กสีฟ้าโบกสะบัดอยู่ตรงหน้า และกลายเป็นเงากระบี่จำนวนมาก ทำให้แพะเพลิงสามสิบกว่าตัวต้องร่นถอยออกไป

เกิดเสียงดังก้องฟ้า!

แสงกระบี่สีฟ้าหกลำเกิดขึ้นจากเงากระบี่ และมันก็สังหารแพะเพลิงหกตัวโดยไม่คาดคิด

จากนั้นหลิ่วหมิงก็ทำท่ามืออีกครั้ง

แสงกระบี่หกลำรวมตัวเป็นสายรุ้งสีฟ้าที่ยาวจั้งกว่าๆ พอมันกระพริบแค่ทีเดียว ก็ปล่อยแสงสีฟ้าอันน่าตกใจ และฟันอัคคีจิตวิญญาณตัวหนึ่งที่แอบปล่อยลูกเปลวไฟอยู่ด้านหลังอสูรเพลิงออกเป็นสองส่วน

อสูรเพลิงที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ตกใจ จนต้องถอยหลบไปชั่วขณะหนึ่ง

หลิ่วหมิงเรียกกระบี่เล็กสีฟ้ากลับมา และถือโอกาสมองดูบริเวณรอบๆ สุดท้ายสายตาของเขาก็ตกอยู่บนตัวอัคคีจิตวิญญาณสามสี่ตัวที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ พวกมันเพียงแค่จ้องมองอย่างเงียบๆ เท่านั้น

หลิ่วหมิงรู้สึกหนักใจขึ้นมา เขารับรู้ถึงความผิดปกติได้อย่างลางๆ

ขณะนั้นเอง เนินดินที่หลิ่วหมิงและคนอื่นๆ ยืนอยู่นั้น กลับพังทลายลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ และตะขาบสีแดงที่ยาวจั้งกว่าๆ จำนวนมากก็พุ่งขึ้นมา พริบตาเดียวก็กระโจนใส่ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ทั้งสี่

หลิ่วหมิงเป็นผู้ที่มีความรู้สึกไวระดับไหน ดูเหมือนว่าในขณะที่มีหลุมใหญ่ปรากฏตรงใต้เท้า เขาก็สะบัดข้อมือทันที จากนั้นแสงกระบี่ขนาดใหญ่ก็ฟันออกไปก่อน

“ตู๊ม!” ตะขาบสีแดงเข้มตัวหนึ่งที่กระโจนเข้ามาถูกฟันจนกระเด็นกลับไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา