“ถ้ำที่ว่างอยู่ในตอนนี้ มีหมายเลขยี่สิบเจ็ด ยี่สิบเก้า และหมายเลขสามสิบห้า ศิษย์น้องหลิ่วเลือกได้ตามใจชอบเลย” หญิงงดงามกล่าวออกมา
พอหลิ่วหมิงมองตามสายตาของนาง ก็ค้นพบว่าถ้ำสามแห่งที่เหลือล้วนอยู่ด้านล่างสุด ซึ่งห่างจากจุดสูงสุดของยอดเขามาก
“เลือกหมายเลขยี่สิบเก้าก็แล้วกัน” หลิ่วหมิงตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้ำหมายเลขยี่สิบเก้าตั้งอยู่ด้านหลังยอดเขาลั่วโยว ปราณหยินคงจะหนาแน่นกว่าหน่อย ทั้งยังห่างจากถ้ำอื่นๆ ค่อนข้างมาก นับว่าอยู่ในตำแหน่งที่ลับตาคน
“พอศิษย์น้องเข้าไปแล้ว ให้ใส่พลังเวทลงบนป้ายประจำตัว จากนั้นก็ประทับชื่อตนเองไว้บนถ้ำก็พอแล้ว” หญิงงดงามพยักหน้าและอธิบายออกมา
“ขอบคุณศิษย์พี่ห้าที่ช่วยชี้แนะ” หลิ่วหมิงประสานมือคารวะ
“เรื่องอื่นๆ ศิษย์น้องหลิ่วก็ไปสอบถามศิษย์น้องเฟิงได้เลย ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ต้องขอตัวก่อน” ศิษย์พี่ห้าผู้นี้หัวเราะเบาๆ จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อกลายแสงสีขาวเทาพุ่งขึ้นฟ้าไป
หลิ่วหมิงจ้องมองแสงหลบหลีกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงพยักหน้าช้าๆ
นิสัยของนางผู้นี้ดูไม่เลว ทั้งยังทำให้เขารู้สึกสนิทใจที่จะติดต่อกับนาง ดูท่าเขาคิดไม่ผิดที่เลือกยอดเขาลั่วโยวแห่งนี้
พอหลิ่วหมิงคิดมาถึงจุดนี้ ก็กระตุ้นเมฆดำใต้เท้าให้พุ่งไปยังถ้ำที่พักของตัวเองทันที
ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เขาก็มาถึงหน้าประตูถ้ำเปล่าเปลี่ยวแห่งหนึ่ง
หลังจากสังเกตดูเล็กน้อยแล้ว หลิ่วหมิงก็หยิบป้ายศิษย์สายในออกจากเอว และใส่พลังเวทเข้าไปในนั้น จากนั้นลำแสงสีดำก็พุ่งยิงใส่ประตูถ้ำ
ลวดลายจิตวิญญาณสีดำค่อยๆ สว่างขึ้นมา หลังจากมีเสียงดังแคร่ก! ประตูก็ค่อยๆ เปิดออก……
สองชั่วยามต่อมา หลิ่วหมิงนอนอยู่บนเตียงหินภายในห้องลับของถ้ำที่พักด้วยสีหน้าครุ่นคิด
เขารู้สึกพอใจกับถ้ำแห่งนี้มาก มีชั้นจำกัดแข็งแกร่งเสริมอยู่ด้านในหลายชั้น พลังในการป้องกันไม่ต้องพูดอะไรมาก ค่ายกลชั้นจำกัดหนึ่งในนั้นลี้ลับมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง สามารถกีดกั้นการสอดแทรกของจิตรับรู้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีความลับใดๆ เล็ดลอดออกไป
ต่อไปไม่ว่าเขาจะปรุงโอสถหรือทำการฝึกฝน ก็ไม่ต้องห่วงว่าใครจะมองเห็นแล้ว
นอกจากนี้ ความหนาแน่นของปราณจิตวิญญาณภายในถ้ำ ก็ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าถ้ำที่พักของหลิ่วหมิงในก่อนหน้านั้นสองเท่าขึ้นไป ปราณหยินที่แฝงอยู่ด้านในก็เหมาะสมกับตนเองและอสูรเลี้ยงทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง แม้ไม่อาจเทียบกับถ้ำจันทราได้ แต่ดีตรงที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองแต้มคุณูปการ
หลังจากคิดไตร่ตรองแล้ว หลิ่วหมิงก็ลุกขึ้นมานั่ง และหยิบแผ่นหยกสีเทาออกมา นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสเหยียนมอบให้ ด้านในมีบันทึกเกี่ยวกับกฎและข้อบัญญัติของศิษย์สายในอยู่จำนวนหนึ่ง
หลังจากนำมาแปะไว้บนหน้าผาก และท่องจำจนขึ้นใจแล้ว เขาก็พลิกฝ่ามือหยิบแผ่นหยกสีขาวออกมาอีกอัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ดำเนินการชุดดำมอบให้เขา
เนื้อหาในแผ่นหยกละเอียดมาก นอกจากครอบคลุมถึงสวัสดิการหลังจากเป็นศิษย์สายในแล้ว ยังมีการแนะนำยอดเขาลั่วโยวด้วย
ตามที่บรรยายไว้ในแผ่นหยก แต่ละปีศิษย์สายในทุกคนจะได้รับทรัพยากรที่มีมูลค่าห้าแสนหินจิตวิญญาณจากนิกายกับแต้มคุณูปการห้าพันแต้ม นี่ดูเหมือนว่าจะมากกว่าศิษย์สายนอกห้าเท่า
ทั้งยังมีสวัสดิการอื่นๆ เช่น สามารถใช้แต้มคุณูปการน้อยกว่าศิษย์สายนอกในการใช้สถานที่ต่างๆ เพื่อทำการฝึกฝน
หลังจากกวาดสายตาแบบผ่านๆ แล้ว หลิ่วหมิงก็อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับถ้ำวายุสวรรค์อย่างละเอียด
หลังผ่านไปครึ่งค่อนวัน เขาก็เอาแผ่นหยกลง และสีหน้าก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ไม่หยุด
ในแผ่นหยกได้แนะนำถ้ำวายุสวรรค์ไว้อย่างละเอียด เดิมทียอดเขาลั่วโยวก็ฝึกฝนวิชาสายปีศาจเป็นหลัก พลังเย็นสะท้านในถ้ำวายุสวรรค์มีผลดีต่อวิชาสายปีศาจ ดังนั้นชายแซ่งเฟิงจึงทำเครื่องหมายไว้บนเนื้อหาจำนวนมาก
ตามที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ เพียงแค่เป็นศิษย์สายในก็สามารถยืมใช้ถ้ำวายุสวรรค์ในการฝึกฝนได้ แต่ในนิกายยอดบริสุทธิ์มีสถานที่เช่นนี้แค่แห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นศิษย์สายในแต่ละคนจะมีโอกาสเข้าถ้ำวายุสวรรค์ได้ปีละครั้งเท่านั้น แต่ไม่จำกัดเวลาในการเข้าในแต่ละครั้ง
เพียงแต่ว่าการฝึกฝนในแต่ละวันจำเป็นต้องชำระแต้มคุณูปการหนึ่งพันแต้ม เมื่อใช้แต้มคุณูปการหมดก็จะถูกส่งตัวออกมา และภายในปีนั้นก็ไม่สามารถเข้าไปได้อีก
ดีที่ว่าตอนนี้หลิ่วหมิงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องแต้มคุณูปการ ซึ่งบนตัวเขามีสี่แสนกว่าแต้มแล้ว
ตามบันทึกเกี่ยวกับเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬ หากจะฝึกฝนขั้นที่สามให้สำเร็จ จะต้องชุบหลอมร่างภายใต้พลังของวายุสวรรค์ซ้ำๆ ไอมังกรพยัคฆ์ทมิฬถึงจะทะลุไปทั่วเส้นลมปราณต่างๆ ภายในร่าง และทำให้เข้าถึงระดับของเหลวขั้นปลายโดยสมบูรณ์แบบ
หลิ่วหมิงครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ตั้งนานสองนาน ในที่สุดก็มีแผนการฝึกฝนในอนาคตออกมาอย่างละเอียด
พอเขาตบถุงหนังบนเอว ไอดำสองสายก็ม้วนออกจากในนั้น หลังจากหมุนวนติ้วๆ แล้ว ก็กลายเป็นหัวบินกับแมงป่องกระดูก และร่วงลงตรงหน้าเขา
หลังจากรับรู้ถึงปราณหยินอันหนาแน่นที่อยู่รอบด้าน อสูรจิตวิญญาณทั้งสองก็หมุนวนรอบตัวหลิ่วหมิงไม่หยุด และเปล่งเสียงออกมาด้วยความชอบใจ
“ที่นี่เต็มไปด้วยปราณหยิน และก็มีผลดีต่อการฝึกฝนของพวกเจ้าไม่น้อย รีบไปทำการฝึกฝนของพวกเจ้าเถอะ” หลิ่วหมิงชี้ไปยังมุมหนึ่งของถ้ำแล้วสั่งออกไป
หัวบินกับแมงป่องกระดูกได้ยินดังนี้ ก็หายวับมาตรงมุมห้องทันที และก้มหน้าอ้าปากดูดซับปราณหยินในอากาศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา