หลัวโหวไม่ได้เป็นฝ่ายปรากฏตัวก่อนเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทุกๆ หนึ่งปีกว่าๆ จะดึงเอาไอปีศาจแท้บางส่วนจากร่างของหนอนพลังจิตที่หลิ่วหมิงพกเข้าไปในแดนมายา วันนี้กลับมาปรากฏตัวในห้องว่างเปล่าลึกลับ หรือว่าจะมีเรื่องสำคัญอันใด?
“ฮึ! เจ้าไม่ต้องแปลกใจไปว่าทำไมข้าถึงปรากฏตัวออกมา แต่ว่าปัญหาของเจ้ามาแล้ว” หลัวโหวค่อยๆ กล่าวออกมา ขณะเดียวกันก็เผยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย
“ปัญหา?” หลิ่วหมิงได้ยินย่อมรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
“ไม่ผิด! ข้าเองก็จะไม่พูดจาไร้สาระให้มากความ หลายเดือนมานี้รอยร้าวของกรงขังค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ลำพังแค่ไอปีศาจของหนอนพลังจิตในตอนนี้ ไม่เพียงพอที่จะประคับประคองให้มั่นคงได้ ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ หากหาไอปีศาจแท้ที่เพียงพอไม่ได้ภายในสองปี เกรงว่าปีศาจที่ถูกผนึกอยู่ในกรงขัง อาจจะปลดปล่อยวิญญาณออกจากรอยแยกได้ และจะทำการชิงร่างของเจ้า” หลัวโหวทำเสียงฮึดฮัดแล้วกล่าวออกมา
“อะไรนะ! มีเรื่องเช่นนี้ด้วย” สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปทันที
“นอกจากนี้ ข้าอยากจะเตือนเจ้าอีกประโยค ครั้งหน้าที่กรงขังจะดูดพลังเวทนั้น คงเป็นเวลาราวๆ สี่ปีให้หลัง เมื่อถึงตอนนั้นหากเจ้ายังมีระดับการฝึกฝนดังเช่นปัจจุบันนี้ และไม่สามารถเข้าสู่ระดับผลึกได้ล่ะก็ คงไม่อาจรับมือกับการดูดกลืนพลังเวทในครั้งหน้าได้ แม้กระทั่งอาจถูกกรงขังดูดจนตัวแห้ง อายุขัยก็จะลดไปกว่าครึ่งหนึ่งด้วย” หลัวโหวกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก
พอหลิ่วหมิงฟังจบ สีหน้าก็ดูไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ
อยากจะหาไอปีศาจแท้จำนวนมากมันไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งยังต้องหาให้ได้ภายในสองปี ดูท่าการทะลวงระดับผลึกคงจะจ่ออยู่แค่หางคิ้วแล้ว มิเช่นนั้นต่อให้จะหาไอปีศาจแท้มาซ่อมแซมกรงขังได้ แต่การถูกฟองอากาศลึกลับดูดเอาอายุขัยไปเกือบครึ่งหนึ่งในครั้งหน้า เขาย่อมไม่ยินยอมอย่างแน่นอน
ขณะนั้นเอง หลัวโหวก็ไม่รอให้หลิ่วหมิงถามอะไรให้มากความ ร่างของเขาพร่ามัว หายไปจากที่เดิมทันที
หลิ่วหมิงยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ส่ายหน้าเบาๆ และเก็บเรื่องทะลวงคอขวดไว้ชั่วคราวก่อน เพื่อเตรียมไปหาไอปีศาจแท้จำนวนมาก
เพราะตอนที่ซ่อมแซมกรงขังไปจนถึงตอนที่ฟองอากาศลึกลับดูดกลืนพลังเวทนั้น ยังมีเวลาอีกสองปีให้เขาทะลวงระดับผลึก แต่ว่าเวลามันกระชั้นชิดไปหน่อย เกรงว่าจะต้องทะลวงให้สำเร็จในครั้งเดียวแล้ว
สำหรับเรื่องที่ว่าจะไปหาไอปีศาจแท้จากที่ใดนั้น เกรงว่าเขาจะต้องวิ่งไปหอเป๋ยโต่วอีกครั้งแล้ว
หอเป๋ยโต่วสันทัดเรื่องข่าวสาร เพียงแค่จ่ายหินจิตวิญญาณที่เพียงพอ คงหาสถานที่ที่มีไอปีศาจแท้ได้ไม่ยาก
แต่ก่อนอื่นเขาจำเป็นต้องเตรียมการสักรอบถึงจะได้
หลังจากคิดไตร่ตรองเช่นนี้แล้ว หลิ่วหมิงก็ไม่มีจิตใจจะไปฝึกฝนในแดนมายาอีก พอเขาลืมตาทั้งคู่ขึ้นมา ก็ออกจากห้องว่างเปล่าลึกลับสีเทาสลัวๆ ในทันที
เขาเดินวนไปวนมาในห้องลับ และครุ่นคิดอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงขี่เมฆไปยังหอคุมกฎ
ชั่วเวลาหนึ่งมื้อข้าวผ่านไป ตรงห้องโถงด้านข้างหอคุมกฎ
หลิ่วหมิงกำลังหรี่ตามองตลับหยกที่วางอยู่ตรงหน้า และปล่อยจิตเข้าไปตรวจสอบดูด้านใน ตลับหยกแต่ละใบมีอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่มีคุณภาพไม่ธรรมดาหนึ่งชิ้น
ตามกฎของนิกายยอดบริสุทธิ์ หนึ่งในรางวัลของผู้ที่ฝ่าด่านเจดีย์ชั้นสามสิบหกได้ สามารถเลือกอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่มีสามสิบชั้นจำกัดขึ้นไปได้หนึ่งชิ้น
เข็มหลบเงา อาวุธจิตวิญญาณที่อวินเล๋ยจื่อ ผู้ควบคุมยอดเขาสายฟ้าเมฆาเคยใช้ในสมัยก่อน หนึ่งชุดมีทั้งหมดเจ็ดเล่ม เนื่องจากพุ่งยิงได้รวดเร็วมากๆ จึงเป็นที่รู้จักว่าเป็นเหมือนเงาที่ไม่สามารถจับร่องรอยได้ มีผลดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการต่อสู้ในระยะประชิด
เข็มหลบเงาให้ผลลัพธ์คล้ายกับดัชนีกระบี่ของเขา หลังจากหลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองเล็กน้อยแล้ว ก็ส่ายหน้าและนำจิตไปสำรวจดูตลับหยกใบที่สอง
มุกสายฟ้า อาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่มีสามสิบเอ็ดชั้นจำกัด เป็นมุกกลมๆ ที่สร้างขึ้นมาจากกรงเล็บของอินทรีสายฟ้าระดับผลึก มีพลังของสายฟ้าแฝงอยู่ หากปรับแต่งเป็นต้นแบบอาวุธเวท จะสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ และมีโอกาสเรียกวิญญาณส่วนหนึ่งของอินทรีสายฟ้าออกมาได้
หลิ่วหมิงค่อนข้างใจเต้นกับของสิ่งนี้ แต่หากจะปรับแต่งจากสามสิบเอ็ดชั้นจำกัดไปเป็นสามสิบหกชั้นจำกัดล่ะก็ ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร ไม่เพียงแต่ต้องใช้วัสดุเสริมต่างๆ ที่สำคัญก็คือกว่าจะรวบรวมมาได้ครบต้องใช้เวลาหลายปี ไม่สามารถใช้การในตอนนี้ได้ หลังจากถอนหายใจเบาๆ แล้ว ก็นำจิตเข้าไปสำรวจดูตลับหยกอีกใบ
……
ผ่านไปราวๆ สองชั่วยาม หลิ่วหมิงถึงเดินออกจากห้องโถงข้างหอคุมกฎ ตลับหยกที่อยู่ในมือคือเรือหยกจันทรา อาวุธจิตวิญญาณเหินเวหาระดับสุดยอดที่มีสามสิบสองชั้นจำกัด
แม้ว่าจะยังมีอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดอื่นๆ อีกหลายชิ้น แต่ส่วนมากต้องไปประทับชั้นจำกัดเพิ่มเอง หลังจากปรับแต่งเป็นต้นแบบอาวุธเวท ถึงสำแดงอานุภาพที่แท้จริงออกมาได้
และเรือหยกจันทรานี้สำเร็จมาแล้ว โดยพื้นฐานไม่จำเป็นต้องรวบรวมวัสดุเพื่อยกระดับ ก็สามารถสำแดงอานุภาพอันยิ่งใหญ่ได้ สามารถแก้ปัญหาการขี่เมฆระยะไกลและใช้เวลานานของหลิ่วหมิงได้ ซึ่งช่วยลดเวลาในการเดินทางเป็นอย่างมาก
ดังนั้นอาวุธจิตวิญญาณนี้จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับเขาในปัจจุบัน
สำหรับวิชาขี่กระบี่ แม้จะบอกว่าหลบหลีกได้รวดเร็วมาก แต่ด้วยระดับการฝึกฝนของเขาในตอนนี้ ไม่อาจใช้ในการเดินทางได้ ต้องรอสำเร็จวิชาขี่กระบี่เหินเวหาแล้ว จึงจะใช้ในการเดินทางระยะไกลได้
ใต้ท้องเรือหยกจันทรานี้ ยังมีค่ายขนาดใหญ่อยู่หลังหนึ่ง หากใส่ผลึกหินธาตุลมลงไป ก็จะยกระดับความเร็วของมันขึ้นมามาก
ตอนอยู่บนเกาะมัจฉา ตอนที่เฟิงจ้านประมุขพรรคฉางเฟิงใช้เรือหยกเหินเวหานั้น ก็ทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกอิจฉาอยู่พักหนึ่ง ดังนั้นพอเห็นเรือหยกนี้ เขาก็เลือกมันอย่างไม่ลังเล
ส่วนที่ว่าเป็นศิษย์สายในแล้ว จะมีโอกาสเรียนวิชาหนึ่งวิชาโดยจ่ายแต้มคุณูปการเพียงครึ่งเดียวนั้น เขากลับไม่อยากจะใช้มันในตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา