ภายใต้การเปล่งประกายของวงแหวนสีแดง วงแหวนไฟก็ก่อตัวขึ้นและขยายออกไปรอบด้าน พออสรพิษสีดำสิบกว่าตัวสัมผัสกับมัน ก็ลุกไหม้สลายไปทันที
และภายใต้อานุภาพของวงแหวนไฟ ไอดำที่พวยพุ่งอยู่รอบด้านก็ถูกโจมตีจนสลายไปไม่น้อย พอชายรูปร่างสูงใหญ่เขม้นตามอง ก็มองเห็นรอยยิ้มเยือกเย็นของเสี่ยวอู่ที่อยู่ภายใต้การล้อมรอบของไอดำ และธงกระดูกสีดำสิบสองอันที่เรียงแถวอยู่ตรงหน้ากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้จิตใจของเขาร่วงหล่นไปทันที
ในขณะที่ชายหนุ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยนั้น ไอดำรอบตัวก็พวยพุ่งอีกครั้ง วัตถุสีดำที่มีลักษณะยาวๆ สิบสองอันปรากฏออกมา ที่แท้มันก็เป็นธงกระดูกเหล่านั้น
เกิดเสียงดังติดต่อกัน “ฟิ้ว!” “ฟิ้ว!”
ธงกระดูกแต่ละอันพ่นไอดำออกมาสามกลุ่ม พอไอดำแต่ละกลุ่มปรากฏตัว มันก็มีหัวและแขนขางอกออกมา จากนั้นก็กลายเป็นปีศาจสีดำที่มีลักษณะคล้ายวานร
พริบตาเดียว ชายรูปร่างสูงใหญ่ก็ถูกปีศาจสีดำสามสิบหกตัวห้อมล้อมไว้
ขณะที่มีชายรูปร่างสูงใหญ่มีสีหน้าเปลี่ยนไป และคิดที่จะกระตุ้นวงแหวนเหนือศีรษะนั้น ปีศาจสีดำเหล่านี้ก็แผดเสียงแหลมออกมาอย่างถึงขีดสุด
คลื่นเสียงไร้รูปสามสิบหกสายโจมตีม่านแสงสีแดงจนทะลุ ม่านแสงสามารถป้องกันการโจมตีของพลังเวทได้ แต่ไม่อาจกีดกั้นคลื่นเสียงได้
ชายรูปร่างสูงใหญ่รู้สึกว่าร่างกายแข็งขึ้นมา ใบหน้าของเขาดูเจ็บปวดเป็นอย่างมาก คลื่นเสียงจมเข้าไปในสมอง ทำให้รู้สึกราวกับว่าสมองถูกโจมตีสามสิบหกครั้ง
พอได้ยินเสียงดัง “โครม!” ดวงตาของชายรูปร่างสูงใหญ่ก็กลายเป็นสีขาว จากนั้นก็หมดสติก่อนล้มลงพื้น
ครู่ต่อมา ไอดำไร้ขอบเขตที่ปกคลุมเต็มค่ายกลสีทองก็หมุนวนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ สลายไปจนเผยให้เห็นสภาพด้านใน
จะเห็นว่าเสี่ยวอู่ยืนยิ้มอยู่ในนั้น ด้านข้างมีธงกระดูกสีดำลอยอยู่สิบสองอัน ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นอนสลบอยู่บนพื้น วงแหวนสีแดงที่มีสามสิบหกชั้นจำกัดหล่นอยู่ด้านข้างของเขา
ตั้งแต่ไอดำปกคลุมค่ายกลอย่างแน่นหนาจนถึงตอนที่สลายไปจนหมดสิ้นนั้น ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ก็ตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว
ขณะนี้หลิ่วหมิงมองดูหญิงงดงามที่อยู่ด้านในค่ายกลด้วยความตกใจ
ศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้มีพลังเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้มาก
“การประลองรอบที่สอง นิกายยอดบริสุทธิ์ชนะ” หลวงจีนอวิ๋นกังไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับผลการประลองนี้ ยังคงประกาศออกมาอย่างราบเรียบ
อินจิ่วหลิงเห็นศิษย์ของตนเองชนะ ก็เผยรอยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก
“ศิษย์หลานเสี่ยวมีระดับการฝึกฝนที่มหัศจรรย์มาก ศิษย์สายตรงของสหายอินไม่ธรรมดาจริงๆ” กู่เจวี๋ยดูมีสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย ขณะที่กล่าวออกมาเช่นนี้ เขาก็โบกแขนเสื้อปล่อยแสงสีแดงไปม้วนตัวชายรูปร่างสูงใหญ่ออกจากค่ายกล
“พี่กู่ชมเกินไปแล้ว” อินจิ่วหลิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบ
“ในเมื่อตอนนี้ชนะกันหนึ่งต่อหนึ่งแล้ว ก็ทำการประลองรอบสุดท้ายกันเถอะ!” กู่เจวี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็ต่อสู้เพื่อตัดสินชัยชนะกัน!” อินจิ่วหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ขณะเดียวกัน พลันมีเสียงอินจิ่วหลิงดังขึ้นข้างหูหลิ่วหมิง
“กวางจิตวิญญาณเก้าสีนี้มีประโยชน์กับข้ามาก เจ้าจะต้องประลองอย่างสุดความสามารถ เพียงแค่สามารถเอาชนะได้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังอย่างแน่นอน”
“ศิษย์เข้าใจแล้ว จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน” หลิ่วหมิงได้ยินก็ส่งเสียงตอบกลับไป จากนั้นก็ก้าวไปในในค่ายกลสีทอง
ดูเหมือนหญิงสาวดวงตาสีเขียวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ถูกกู่เจวี๋ยกำชับเช่นกัน หลังจากแสงสีเขียวหมุนวนอยู่ในดวงตา นางก็กระโดดเข้าไปในค่ายกลทันที
“เริ่มการประลองได้”
พอน้ำเสียงสิ้นสุดลง หลิ่วหมิงก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว จากนั้นไอดำก็พุ่งออกจากร่าง พอขยับเท้า ร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิม “ฟู่!”
“เร็วมาก!” กู่เจวี๋ยที่อยู่นอกค่ายกลเห็นเช่นนี้ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
หลวงจีนอวิ๋นกังก็เผยแววตาประหลาดใจออกมา
หญิงดวงตาสีเขียวที่อยู่ฝั่งข้ามรู้สึกอึ้งไปทันที แสงสีเขียวเปล่งประกายในดวงตา พอพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง มีดเล็กสีทองก็ปรากฏออกมา พอบิดเอวราวกับอสรพิษ มีดเล็กในมือก็กลายเป็นเส้นสีทอง และฟันไปยังอากาศบางแห่ง
“เพล้ง!”
พริบตาที่มีดเล็กปะทะกับกำปั้นที่มีไอดำพวยพุ่ง ก็มีเงาร่างกระเด็นออกไป ซึ่งก็คือหลิ่วหมิงที่หายไปในตอนแรกนั่นเอง และเขาเองก็อุทาน “เอ๊ะ!” ออกมาอย่างอดไม่ได้
วิชาท่าร่างของเขาผ่านการฝึกฝนกับหลานสี่และราชาปีศาจสมุทรมาอย่างต่อเนื่อง จนเคลื่อนไหวไปมาราวกับปีศาจ และร่างของเขาก็ผ่านการชุบหลอมมาจากถ้ำวายุสวรรค์ ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมามาก
หญิงดวงตาสีเขียวมีระดับการฝึกฝนแค่ระดับของเหลวขั้นปลาย ไม่เพียงแต่จะมองเห็นร่องรอยของเขาภายในพริบตาเท่านั้น แต่ยังรับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่ามีดเล็กสีทองในมือของนางจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา