พอสายรุ้งสีเขียวพุ่งผ่านไป ก็ถูกแสงสีดำสองลำโจมตีจนกระเด็นออกไปเจ็ดแปดจั้ง พอแสงสีเขียวดับลง ก็เผยให้เห็นหลิ่วหมิงที่ถือกระบี่เล็กสีเขียวอยู่ในมือ สีหน้าของเขาดูประหลาดใจเล็กน้อย
เซียนหงส์ดำที่ถูกขังอยู่ในตาข่ายสีทอง กลับทำให้ปีกทั้งสองกลายเป็นแขนในช่วงเวลาสำคัญได้ พริบตาเดียวก็นำดาบสั้นสีดำทั้งสองออกมาอีกครั้ง และใช้มันรับการโจมตีของหลิ่วหมิงโดยตรง
แต่ภายใต้การโจมตีของวิชากระบี่ร่างเป็นหนึ่ง ทำให้ร่างอรชรและตาข่ายสีทองบนตัวพุ่งถอยออกไปทันที และกระแทกใส่เสาหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังอย่างรุนแรงจนกระอักเลือดออกมา
สีหน้าหลิ่วหมิงดูเด็ดขาดขึ้นมา ขณะที่สะบัดกระบี่เล็กสีเขียวในมือ เพื่อแสดงวิชาขี่กระบี่อีกครั้งนั้น พลันมีเสียงดัง “ตู๊ม!” ตาข่ายสีทองที่กลายร่างมาจากทรายทองคำร่วงแตกกระจายเป็นจุดๆ ขณะเดียวกัน เปลวเพลิงสีดำก็พวยพุ่งออกมา
“ฟัน!”
สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปทันที กระบี่เล็กสีเขียวหลุดจากมือ จากนั้นก็กลายเป็นแสงกระบี่สีเขียวที่ยาวเจ็ดแปดจั้งท่ามกลางเสียงดังกังวาน และม้วนตัวออกไปราวกับสายฟ้าแลบ!
ขณะที่การโจมตีนี้ของหลิ่วหมิงสามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้อย่างสิ้นเชิงนั้น เซียนหงส์ดำที่กำลังร่วงลงมาก็เบิกตาโพลงและส่งเสียงดังกังวานออกมา
“ฟู่!”
เปลวเพลิงสีดำพวยพุ่งออกจากร่างของนางอย่างบ้าคลั่ง หลังจากหมุนติ้วๆ แล้วก็ก่อตัวเป็นเงาร่างวิหคเพลิงสีดำในตำนาน และห่อหุ้มร่างของนางไว้ จากนั้นก็อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีทองขนาดเท่าปากชามออกมา
“เพล้ง!”
แสงกระบี่สีเขียวถูกเปลวเพลิงโจมตีจนกลายเป็นกระบี่เล็กอีกครั้ง และแสงบนตัวก็ดับมืดลงก่อนร่วงลงพื้น
ขณะเดียวกัน เงาร่างของวิหคเพลิงสีดำก็กระพือปีกทั้งสองอย่างรุนแรง และพร่ามัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ตู๊ม!”
ผนังด้านหนึ่งภายในห้องโถงถูกอะไรบางอย่างเจาะทะลุ ทิ้งไว้เพียงรูขนาดใหญ่หลายจั้ง ตรงขอบของมันยังมีเปลวไฟสีดำลุกไหม้อยู่
ขณะนี้ มีเสียงราวกับกัดฟันพูดของเซียนหงส์ดำดังมาจากที่ไกลแสนไกล
“สหายมีพลังมหัศจรรย์มาก ครั้งนี้ข้ายอมพ่ายแพ้แต่โดยดี แต่หากได้พบกันอีกครั้ง จะต้องขอคำชี้แนะจากท่านอย่างแน่นอน”
จากนั้นเสียงของเซียนหงส์ดำก็หายไปทันที
และนางผู้นี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลิ่วหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึมลง เขาเก็บกระบี่เล็กสีเขียวกลางอากาศกลับมา หลังจากตรวจสอบดูเล็กน้อยแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
กระบี่เล่มนี้แค่สูญเสียพลังจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อย และไม่ได้เสียหายมากนัก
ขณะที่เขาเก็บกระบี่เล็กเข้าไป และกำลังจะกลับไปดูดซับไอปีศาจแท้บนแท่นบูชาต่อนั้น พลันมีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตูทางเข้าที่อยู่ไม่ไกล มีคนสองคนเดินเข้ามา แต่พอเห็นร่องรอยการต่อสู้อย่างรุนแรง ก็รู้สึกตกใจมาก
หนึ่งในนั้นเป็นชายชุดคลุมสีเทา อีกคนสวมชุดสีดำทั้งตัว ทั้งสองกวาดสายตามองดูภายในห้อง และหยุดลงบนตัวหลิ่วหมิงพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็มีสีหน้าลังเลขึ้นมา
หลังจากหลิ่วหมิงใช้จิตกวาดดู ก็ค้นพบว่าทั้งสองมีระดับการฝึกฝนกับกลิ่นไอด้อยกว่าหลายคนในก่อนหน้ามาก ดังนั้นเขาจึงตบถุงหล่อเลี้ยงวิญญาณบนเอวโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอหมอกสีดำม้วนตัวออกมาสองสาย
“นายท่าน” หลังจากไอดำม้วนตัวออกมาแล้ว แมงป่องกระดูกสีเงินขนาดเล็ก ก็ร่วงลงบนไหล่ของเขา มันโบกสะบัดก้ามยักษ์ทั้งคู่ และส่งเสียงอ่อนนุ่มราวกับเสียงของเด็กสาว
หลังจากไอดำอีกสายม้วนตัวออกมา มันก็ควบแน่นเป็นหัวบิน ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงร้องแปลกประหลาดออก แลดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
จะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติ อสูรเลี้ยงสองตัวไม่ได้ถูกเรียกมาต่อสู้กับศัตรูเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตอนนี้มีโอกาสได้ออกมา ย่อมรู้สึกดีใจอย่างอดไม่ได้
“พวกเจ้าทั้งสองรีบจัดการสองคนนั้นให้เร็วที่สุดเถอะ!” หลิ่วหมิงสั่งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ไปยังผนึกโดยไม่หันหน้ากลับมาอีกเลย
แมงป่องกระดูกกับหัวบินรับปากทันที จากนั้นตัวหนึ่งก็กระโจนออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะแปลกประหลาด อีกตัวก็กลายเป็นเงาร่างพุ่งยิงออกไป
พริบตาเดียว อสูรทั้งสองก็ต่อสู้กับคนทั้งสองที่เพิ่งมาใหม่
พอหลิ่วหมิงเดินไปถึงขอบค่ายกล ก็หยิบโอสถจินหยวนจากแหวนย่อส่วนมารับประทาน ฟองอากาศลึกลับที่หายตัวไปในตอนต่อสู้อย่างดุเดือด ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ไอปีศาจแท้ที่พุ่งออกจากผนึกค่อยๆ จมเข้าไปในร่างของเขา
บริเวณทางเข้า แมงป่องกระดูกขยายร่างใหญ่หนึ่งจั้งกว่าๆ ท่ามกลางไอดำที่พวยพุ่งรอบตัว พอสะบัดหางตะขอ เงาตะขอจำนวนมากก็ปรากฏออกมา และอ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีม่วงออกไปจำนวนมาก
ไม่รู้ว่าชายชุดดำตรงหน้าถือพัดขนวิหคตั้งแต่เมื่อใด และมันก็พัดพายุบ้าระห่ำสีดำออกไปหลายลูก
เกิดเสียงระเบิดดังรอบด้านในทันที ภายใต้การม้วนตัวของพายุบ้าระห่ำสีดำ มันก็ค่อยๆ ระเบิดออกมา
แมงป่องกระดูกบิดตัวจมหายไปใต้พื้นอย่างไร้สุ้มเสียง และยังใช้ก้ามยักษ์ทั้งคู่ลอบโจมตีคู่ต่อสู้ไม่หยุด
ชั่วขณะนั้น ชายชุดดำก็รู้สึกหมดแรงที่จะรับมือเล็กน้อยแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนว่าหัวบินจะไม่สงวนท่าทีเลยแม้แต่น้อย หลังจากไอดำบนตัวพวยพุ่ง มันก็กลายเป็นแบ่งร่างออกมาเป็นเก้าร่าง พอสะบัดผมยาวสีเขียว มันก็กลายเป็นเข็มแหลมสีเขียวจำนวนมาก และพุ่งไปทางชายชุดเทา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา