ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 628

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 628 การโจมตีไร้รูป
ตอนที่ 628 การโจมตีไร้รูป
โดย
Ink Stone_Fantasy
ราชาโลหิตเห็นเช่นนี้ ก็เผยแววตาประหลาดใจออกมา เขายกแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้าทันที ทะเลโลหิตตรงหน้าพวยอย่างรุนแรง ฝ่ามือโลหิตจำนวนมากปรากฏออกมา และพุ่งเข้าหาเงาร่างทั้งสองของหลิ่วหมิงอย่างบ้าคลั่ง

แต่ว่าเงาร่างทั้งสองที่หลิ่วหมิงสร้างขึ้นมากลับเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับปีศาจ จนหลบฝ่ามือโลหิตส่วนใหญ่ไปได้ ต่อมาเงาร่างหนึ่งในนั้นก็ระเบิดตัวกลายเป็นหมอกดำม้วนตัวไปด้านหน้า และโอบล้อมฝ่ามือยักษ์ที่เหลือไว้ในนั้น

และเงาร่างอีกเงากลับถือโอกาสนี้ มาปรากฏตัวตรงหน้าราชาโลหิตที่ซ่อนตัวอยู่ จากนั้นเงาร่างที่แท้จริงของหลิ่วหมิงก็ปรากฏออกมา พอเขายกแขนขึ้น ปราณกระบี่รูปเกลียวขนาดเท่าปากถ้วยก็พุ่งออกจากปลายนิ้ว และพุ่งไปยังหน้าอกของราชาโลหิตที่อยู่ตรงหน้า

ปราณกระบี่ยังไม่ทันเข้ามาถึง พายุหมุนก็แหวกทะเลโลหิตตรงหน้าออกเป็นสองส่วน เผยให้เห็นร่างของราชาโลหิตที่อยู่ในนั้น แต่ทว่าเขากลับเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา และไม่รู้สึกลนลานเลยแม้แต่น้อย

ครู่ต่อมาได้เกิดฉากอันน่าประหลาดใจขึ้น!

มีเสียงดัง “ฟิ้ว!” เบาๆ

ปราณกระบี่รูปเกลียวจมหายไปบนหน้าอกของราชาโลหิตอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่าถูกดูดเข้าไปในนั้น

พอหลิ่วหมิงเห็นฉากเช่นนี้ ก็ทำท่ามือเคล็ดวิชากระบี่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ตู๊ม!”

ระลอกคลื่นปราณโลหิตพุ่งออกจากหน้าอกของราชาโลหิต ทำให้ราชาโลหิตระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ และแตกสลายไป

“แย่แล้ว!” พอหลิ่วหมิงเห็นฉากตรงหน้า ก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในทันที

ขณะนั้นเอง เขารู้สึกว่ามีพายุพุ่งมาจากด้านหลังอย่างรุนแรง ภายใต้ความตกใจ และรู้ตัวว่าไม่อาจหลบหลีกได้ทัน จึงได้แต่กระตุ้นพลังเวทไปด้านหลังเท่านั้น

ทันใดนั้น ไอดำก็พวยพุ่งออกมา ผิวหนังตรงหลังมีเกล็ดสีแดงปรากฏออกมาทับซ้อนกันหลายชั้น

ครู่ต่อมา มีเสียงระเบิด “ตู๊ม!” “ตู๊ม!” “ตู๊ม!” ดังอยู่ข้างหูของเขาหลายครั้ง พลังมหาศาลพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ปราณโลหิตพวยพุ่งอย่างรุนแรง และร่างของเขาก็ไม่มั่นคงจนต้องพุ่งไปด้านหน้า

ท่ามกลางทะเลโลหิตที่อยู่ห่างจากด้านหลังของเขาไปไม่ไกล มีร่างของราชาโลหิตปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เขาค่อยๆ ลดมือข้างหนึ่งลง แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นไอจะอ่อนกว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย และจ้องมองหลังของหลิ่วหมิงที่ดูมืดมนกว่าเดิม

สิ่งที่หลิ่วหมิงไม่รู้ก็คือ วิชาชั่วร้ายที่ราชาโลหิตฝึกฝนนั้น โดยปกติต้องอาศัยการดูดโลหิตบริสุทธิ์ของคนอื่นๆ มาหล่อเลี้ยงร่างของตนเอง ทะเลโลหิตที่สร้างขึ้นมา ก็มีโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกฝนจำนวนมากแฝงอยู่ ขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อกับจิตของเขาด้วย สามารถเคลื่อนย้ายตัวท่ามกลางทะเลโลหิตได้ภายในพริบตา

แต่ทว่าหากทำเช่นนี้ จะทำให้เขาสูญเสียพลังจิตไม่น้อย

แน่นอนว่าหลิ่วหมิงก็ไม่ใช่ผู้ที่สามารถรับมือได้ง่าย พอเห็นว่าตนเองจะพุ่งเข้าใส่ทะเลโลหิตตรงหน้า แต่ถูกขังไว้อีกครั้ง เขาก็อ้าปากพ่นโล่เล็กสีดำออกมา และยกมือข้างหนึ่งปล่อยพลังเข้าไป

โล่เล็กสีดำย่อมเป็นโล่เก้ากะโหลกที่เป็นต้นแบบอาวุธเวท ขณะที่ปล่อยพลังเข้าไปนั้น มันก็ค่อยๆ ขยายตัวตามแรงลมจนมีขนาดหลายจั้ง หัวกะโหลกบนพื้นผิวดูราวกับมีชีวิต ภายใต้การเปล่งประกายของแสงสีดำ มันก็ยื่นหัวออกมาดูดกลืนทะเลโลหิตตรงหน้า

และหลิ่วหมิงก็อาศัยพลังที่พุ่งไปด้านหน้า เอาเท้าทั้งคู่เหยียบโล่กะโหลกไว้ และอาศัยโอกาสตอนที่ทะเลโลหิตเบาบางลงพุ่งออกจากทะเลโลหิตอย่างรวดเร็ว “ฟิ้ว!”

พอไอดำม้วนตัว หลิ่วหมิงก็หันกลับไปและหยุดลงทันที เขาทานโอสถจินหยวนไปหนึ่งเม็ด ขณะเดียวกันก็หันกลับมาอีกครั้ง แต่จะเห็นว่าเกล็ดสีดำตรงหลังเขา มีรอยฝ่ามือโลหิตปรากฏอย่างชัดเจน

ขณะนั้น มีเสียงหัวเราะอย่างเยือกเย็นดังมาจากทะเลโลหิต ต่อมาทะเลโลหิตไร้ขอบเขตก็กลายเป็นหมอกโลหิตพวยพุ่งเข้าไปในร่างของราชาโลหิตอีกครั้ง

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ยกแขนเสื้อขึ้นมา มุกสีเหลืองสลัวๆ สี่เม็ดถูกโปรยลงพื้น แสงสีเหลืองเปล่งประกายอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลายเป็นหุ่นนักรบชุดเกราะที่เปล่งแสงสีทองสี่ตัว

หากราชาโลหิตยังคงกระตุ้นทะเลไร้ขอบเขตอยู่ ต่อให้ใช้หุ่นทั้งสี่ก็คงได้ผลไม่มากนัก แต่ทว่าในตอนนี้ราชาโลหิตกลับเก็บทะเลโลหิตเข้าไปแล้ว หลิ่วหมิงเดาว่าเขาคงไม่ได้รู้สึกว่าไม่มีโอกาสชนะ แต่คงเป็นเพราะว่าการกระตุ้นเคล็ดวิชาทะเลโลหิต ทำให้สูญเสียพลังเวทค่อนข้างมาก

หลังจากราชาโลหิตเห็นหุ่นนักรบทั้งสี่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพียงแค่จ้องมองหลิ่วหมิงอย่างเยือกเย็นเท่านั้น

หลิ่วหมิงดวงตาเป็นประกาย เขายื่นนิ้วออกไปอย่างไม่ลังเล ขณะเดียวกันก็ร่ายคาถาออกมา

นิ้วของเขาค่อยๆ สั่นสะท้าน แสงสีทองกลุ่มหนึ่งปรากฏออกมาตรงปลายนิ้ว พอชี้ออกไป อักขระสีทองสี่ตัวก็จมหายไปในระหว่างคิ้วของหุ่นนักรบทั้งสี่อย่างรวดเร็ว

ครู่ต่อมา มีแสงสีทองเปล่งประกายบนตัวหุ่นนักรบทั้งสี่ ทันใดนั้น แรงกดดันจิตวิญญาณบางอย่างก็แผ่ออกมา แสงสีทองสี่ลำพุ่งขึ้นฟ้า ในที่สุดหุ่นทั้งสี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

“ฟิ้วๆ!” เงาร่างสีทองสูงใหญ่พร่ามัวพุ่งขึ้นฟ้า และร่วงลงรอบตัวราชาโลหิต

ราชาโลหิตเห็นเช่นนี้ ก็ยังคงมีท่าทีเช่นเดิม แสงสีเลือดเปล่งประกายในดวงตาอยู่ไม่หยุด พอพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง แสงสีเลือดก็เปล่งประกายบนมือ และควบแน่นออกมาเป็นมนุษย์โลหิตเล็กๆ ที่มีขนาดครึ่งฉื่อ ดูจากภายนอกแล้ว มันมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับราชาโลหิตไม่มีผิด

มนุษย์โลหิตจิ๋วมีแสงสีเลือดเปล่งประกายบนพื้นผิว กลิ่นไอของราชาโลหิตที่อ่อนลงเล็กน้อย ก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ปราณโลหิตบนตัวก็พวยพุ่งขึ้นมา

ดวงตาหลิ่วหมิงดูเฉียบขาดมาก ขณะเดียวกัน ก็เรียกใช้พลังจิตที่หนอนพลังจิตสร้างขึ้น มือทั้งสองทำท่ามืออย่างรวดเร็ว พลังจิตสี่สายพุ่งออกจากระหว่างคิ้ว และจมลงบนหน้าผากของหุ่นสีทองทั้งสี่

ดวงตาของหุ่นทั้งสี่เป็นประกาย ลำแสงสีทองสี่ลำพุ่งออกจากร่าง มีมังกรเขียว พยัคฆ์ขาว หงส์แดง เต่าดำ ที่เป็นสัตว์เทพประจำทิศทั้งสี่ปรากฏอยู่รำไร

“ก็แค่ค่ายกลจตุรทิศเท่านั้น จะทำอะไรข้าได้!” ขณะที่พูด ราชาโลหิตกลับเก็บมนุษย์โลหิตจิ๋วในมือด้วยแววตาเคร่มขรึม ปราณโลหิตบนตัวพวยพุ่งออกมาอีกครั้ง และคิดที่จะห่อหุ้มร่างของหุ่นทั้งสี่ไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา