หลิ่วหมิงเข้าใกล้ชั้นไม้ในนั้นอย่างสบายใจ และหาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนกระบี่บินพลังจิตวิญญาณเจอจำนวนไม่น้อย
สองขั้นตอนใหญ่ของกระบี่บินพลังจิตวิญญาณ คือวิธีการหลอมร่างตัวอ่อนกระบี่กับจิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่ ซึ่งมีอยู่ในนี้ทั้งหมด
ภายใต้การกวาดสายตามองของหลิ่วหมิง เขาตั้งใจมองข้ามคัมภีร์เกี่ยวกับจิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่ไป หลังจากใช้ป้ายเปิดม่านแสงออกมาแล้ว ก็ใจจดใจจ่ออยู่กับคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องกับร่างตัวอ่อนกระบี่
“วิธีหลอมทองคำทมิฬ วิธีหลอมดวงใจแผดเผา…”
ป้ายหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าแผ่นหยก ระบุข้อดีและข้อเสียของวิธีการหลอมตัวอ่อนกระบี่ต่างๆ อย่างชัดเจน ทั้งยังระบุจำนวนแต้มคุณูปการที่ใช้แลกด้วย
ตั้งแต่ดูมา หลิ่วหมิงยังหาวิธีลับที่เขาถูกใจเป็นอย่างมากไม่ได้เลย
จิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่เขาพระสุเมรุของเขา มีพลังจิตวิญญาณของไผ่ว่างเปล่าแฝงอยู่ด้านใน ด้วยเหตุนี้ร่างตัวอ่อนกระบี่ที่หลอม ย่อมต้องพิจารณาถึงปัญหาของคุณสมบัติที่เสริมซึ่งกันและกันด้วย
ขณะนั้นเอง แผ่นหยกบนชั้นหนังสือตรงมุมห้องที่เปล่งแสงสีฟ้าอยู่ ก็ดึงดูดสายตาของเขาในทันที
หลิ่วหมิงเดินมาตรงหน้าชั้นหนังสือ พอกวาดสายตามองไป ก็ค้นพบว่าบนป้ายหยกมีคำว่า ‘วิธีหลอมแม่เหล็กแสงดารา’ ระบุอยู่ แต้มคุณูปการที่ใช้แลกมากถึงสามแสนแต้ม
เขาสูดหายใจด้วยความรู้สึกเย็นสะท้าน และมองดูคำแนะนำบนนั้นอย่างละเอียด ไม่นานดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา
วิธีหลอมแม่เหล็กแสงดารา เป็นวิธีการที่อาศัยพลังของดวงดาวบนท้องฟ้ามาหลอมร่างตัวอ่อนกระบี่ คุณสมบัติของมันเหมาะสมกับตัวอ่อนกระบี่เขาพระสุเมรุเป็นอย่างมาก และพอสำเร็จออกมา ร่างตัวอ่อนกระบี่ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งยังแหลมคมเป็นพิเศษ
แต่ตามวัสดุที่ใช้ มันมีโอกาสที่จะมีคุณสมบัติบางอย่างของพลังแม่เหล็ก เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูจะแสดงความลี้ลับมหัศจรรย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ข้อเสียเพียงประการเดียวของการหลอมด้วยวิธีนี้ก็คือ พลังของแสงดาวที่ดึงมาจากท้องฟ้านั้นควบคุมได้ยากมาก และพอการหลอมล้มเหลว วัสดุที่ใช้ในก่อนหน้าก็จะใช้งานไม่ได้อีก
หลังจากหลิ่วหมิงอ่านคำอธิบายเหล่านี้จบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงนำแผ่นหยกนี้เดินลงไปด้านล่าง
บนแผ่นหยกยังมีชั้นจำกัดจางๆ อีกหนึ่งชั้น จำเป็นต้องคลายชั้นจำกัดออกก่อนถึงมองเห็นเนื้อหาด้านในได้
“วิธีหลอมแม่เหล็กแสงดารา? คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเลือกวิธีลับนี้?” เหลียงกงที่อยู่ในห้องคัมภีร์ชั้นหนึ่งของหอเก็บคัมภีร์จ้องมองแผ่นหยกสีฟ้าในมือ และสังเกตดูหลิ่วหมิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย
“ถูกต้อง วิธีหลอมนี้เหมาะสมกับศิษย์พอดี หวังว่อาจารย์อาเหลียงจะส่งเสริม” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างนอบน้อม
“สิ่งที่ระบุอยู่บนนี้เจ้าคงอ่านดูแล้ว พอหลอมตัวอ่อนกระบี่ชนิดนี้ออกมา ย่อมมีอานุภาพไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ความยากในการหลอม ก็เป็นหนึ่งในวิธีหลอมทั้งหมดที่สามารถงอนิ้วนับได้ ตั้งแต่ก่อตั้งยอดเขากระบี่สวรรค์มา ก็มีแค่ผู้อาวุโสเมื่อหมื่นกว่าปีก่อน ใช้เคล็ดวิชานี้หลอมร่างตัวอ่อนกระบี่ได้สำเร็จ ส่วนคนอื่นๆ ล้วนล้มเหลวไปทั้งหมด ตอนนี้เจ้าเปลี่ยนใจก็ยังไม่สาย จะได้ไปเลือกวิชาในการหลอมใหม่อีกครั้ง” เหลียงกงค่อยๆ กล่าวออกมาทีละคำ
“ขอบคุณอาจารย์อาที่ชี้แนะ แต่ศิษย์ได้ตัดสินใจแล้ว และรู้สึกว่าวิธีนี้เหมาะกับตนเองมาก หากไม่สำเร็จจริงๆ ค่อยใช้วิธีการอื่นก็ยังไม่สาย” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างไม่ลังเล
“ในเมื่อเจ้าจะลองให้ได้ ข้าก็จะไม่ห้ามปรามแล้ว เอาป้ายประจำตัวของเจ้ามาเถอะ! แต่ว่าหากครั้งหน้าเจ้ามาหาวิชาในยอดเขาเราอีก คงไม่ได้เสียแต้มคุณูปการแค่สามส่วนแล้ว” เหลียงกงฟังจบก็หัวเราะก่อนกล่าวออกมา
หลิ่วหมิงย่อมตอบกลับไปว่า “ทราบ!” จากนั้นก็ยื่นป้ายประจำตัวออกไป
ชายชุดคลุมสีดำเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขารับป้ายประจำตัวของหลิ่วหมิงมา และหักแต้มคุณูปการออกไปสามแสนเก้าหมื่นแต้ม
จากนั้นมือข้างหนึ่งก็ตบลงบนแผ่นหยกสีฟ้า ทำให้ชั้นจำกัดบนนั้นหายไปก่อนโยนคืนให้หลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงยื่นมือรับแผ่นหยกกลับมา และแอบแบะปากอยู่ในใจ
พักนี้เขาใช้แต้มคุณูปการอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้มันใกล้จะหมดลงแล้ว
หลิ่วหมิงรีบคัดลอกเนื้อหาในแผ่นหยกใส่แผ่นหยกอีกชุด และทำการสาบานว่าจะไม่เผยแพร่ออกไป จากนั้นถึงคืนแผ่นหยกสีฟ้าให้กับเหลียงกงก่อนกล่าวคำอำลาจากไป
ไม่นาน เมฆดำก้อนหนึ่งก็ทะยานขึ้นจากยอดเขากระบี่สวรรค์ จากนั้นก็พุ่งไปทางยอดเขาลั่วโยวอย่างรวดเร็ว
พอกลับถึงถ้ำที่พัก หลิ่วหมิงก็เข้าไปนั่งขัดสมาธิในห้องลับโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง และนำ ‘วิธีหลอมแม่เหล็กแสงดารา’ ที่คัดลอกในเมื่อครู่ออกมา เขานำจิตจมดิ่งเข้าไปในนั้น และทำความเข้าใจวิธีหลอมร่างตัวอ่อนกระบี่อย่างละเอียด
หลายชั่วยามผ่านไป หลิ่วหมิงถึงเข้าใจวิธีการหลอมในคัมภีร์อย่างทะลุปรุโปร่ง และขณะนี้ศีรษะของเขาก็มีเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก
ที่แท้วิธีการหลอมร่างตัวอ่อนกระบี่ที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ จำเป็นต้องวางค่ายกลพิเศษที่มีชื่อเรียกว่าค่ายกลแสงดารา ทั้งยังต้องอยู่ในเวลาและสถานที่พิเศษ ถึงจะดึงพลังดารามาหลอมร่างตัวอ่อนกระบี่ได้
ตอนนี้หลิ่วหมิงมีแดนมายาในห้องว่างเปล่าลึกลับที่สามารถจำลองสถานที่ดึงพลังของดาราได้ไม่จำกัด ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความยากในการหลอม
แต่ว่าวัสดุร่างตัวอ่อนกระบี่ที่หลอมขึ้นด้วยวิธีลับนี้ กลับมีเพียงไม่กี่ตัวเลือก ยกตัวอย่างเช่น วิญญาณทองคำอุกาบาตธาตุทอง วิญญาณสีน้ำเงินธาตุน้ำ เป็นต้น
วัสดุเหล่านี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง คิดจะหาหนึ่งในนั้นให้เจอ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย คาดว่าคงมีแต่ในงานประมูลบางอย่างเท่านั้น
แต่ยังไม่รู้ว่าจิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่ในร่างเขา ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ต้องรีบหาวัสดุในตอนนี้
เวลาต่อมา หลิ่วหมิงไปค้นหาและสอบถามเคล็ดวิชาการฟื้นฟูอานุภาพของจิตวิญญาณตัวอ่อนกระบี่อีกรอบ แม้ว่าจะหาได้มาหลากหลายรูปแบบ แต่หากไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องใช้สมบัติฟ้าดินในตำนานบางอย่างมาหล่อเลี้ยง ก็จำเป็นต้องให้ผู้ฝึกฝนระดับดาราพยากรณ์ขึ้นไปยื่นมือเข้าช่วยถึงจะได้
ภายใต้สถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้ หลิ่วหมิงจึงได้แต่วางเฉยกับเรื่องนี้ชั่วคราว จากนั้นก็เข้าห้องลับทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลังวิเศษของการขี่กระบี่เหินเวหาในเคล็ดกระบี่ปราณแกร่งอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา