สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปทันที ม่านทรายที่เปลี่ยนแปลงมาจากทรายทองคำร่วงถูกของเหลวพิษกัดกร่อนจนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ อาวุธจิตวิญญาณที่ติดตัวเขามาตั้งแต่ระดับของเหลวจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีสิ่งใดทำลายได้มาก่อน วันนี้กลับได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
เขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็กัดฟันตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น
“ระเบิด!”
จะเห็นว่าแสงสีทองไหลวนอยู่บนผิวม่านทรายสีทอง พริบตาเดียวก็กลายเป็นก้อนทรายกลมๆ ขนาดเท่ากำปั้น และระเบิดออกมาเสียงดัง “ตู๊ม!”
แสงสีทองเจิดจ้าเปล่งประกายออกมาในทันที และพุ่งออกไปรอบทิศ
อสรพิษปีศาจถูกแสงสีทองนับไม่ถ้วนยิงเข้าใส่จนเกิดเสียงดังเต๊งๆ! อยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าจะถูกแทงจนทะลุ แต่แรงระเบิดของอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดยังคงทำให้มันกระเด็นออกไปไกลๆ
ผู้อาวุโสร่างอ้วนเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหมิงจะใช้วิธีการเช่นนี้ พริบตาเดียวอานุภาพของแสงกระบี่เล็กๆ ที่เหลือก็พุ่งมาตรงหน้า
แต่ว่าผู้อาวุโสร่างอ้วนเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับแก่นแท้ เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้ ย่อมไม่รู้สึกลนลานแต่อย่างใด เพียงแค่ลูบฝ่ามือข้างหนึ่งไปด้านหน้า เปลวไฟสีเขียวก็ลุกพรึ่บขึ้นมา พริบตาเดียวก็ก่อตัวเป็นกำแพงอัคคีสีเขียวขวางอยู่ตรงหน้า
“ฟู่ๆ!” “ฟู่ๆ!” เกิดเสียงดังขึ้นติดต่อกัน แต่แสงสีทองกลับกระตุ้นให้กำแพงอัคคีพวยพุ่งรุนแรงกว่าเดิม ซึ่งไม่อาจทำอะไรมันได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ขณะนั้นเอง มีคลื่นก่อตัวขึ้นบนอากาศเหนือตัวผู้อาวุโส กระบี่บินสีทองอร่ามปรากฏออกมา หลังจากหมุนตัวติ้วๆ แล้ว แสงกระบี่สีทองก็ม้วนตัวลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ผู้อาวุโสร่างอ้วนเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา พออ้าปาก ธงสามเหลี่ยมเล็กๆ ก็พุ่งออกมา จากนั้นก็ทำท่ามือปล่อยหมอกสีเขียวขุ่นมัวขนาดใหญ่ออกไปรับมือกับกระบี่บินสีทอง
ไอหมอกเหล่านี้ดูเหมือนจะเบาบาง แต่พอปราณกระบี่ตกลงในนั้น หมอกเขียวก็พันกันเป็นชั้นๆ ราวกับหนอนแมลงวันในกระดูกข้อเท้า พริบตาเดียวก็รับปราณกระบี่ทั้งหมดไว้ได้
แม้ว่าธงสามเหลี่ยมเล็กๆ นี้จะไม่ใช่ต้นแบบอาวุธเวท แต่ก็เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่มีสามสิบห้าชั้นจำกัด หลังจากผ่านการปรับแต่งมาหลายปี มันก็ร่วมมือกับเขาได้อย่างไร้ที่ติ อานุภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าต้นแบบอาวุธเวทเลย
หลิ่วหมิงที่อยู่ไม่ไกลเห็นฉากเช่นนี้ ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นก็ชี้มือข้างหนึ่งไปทางผู้อาวุโสร่างอ้วน
“ฟู่!” เกิดเสียงดังขึ้นเบาๆ จนแทบจะไม่ได้ยิน กระบี่บินสีทองพร่ามัวหายไป
ครู่ต่อมา ภายใต้การเปล่งประกายของเงากระบี่จางๆ มันก็มาปรากฏตัวด้านหลังผู้อาวุโสร่างอ้วนอย่างไร้สุ้มเสียง และกลายเป็นกระบี่บินสีทองทิ่มแทงออกไป
กระบี่บินกลางอากาศแปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้ผู้อาวุโสร่างอ้วนรู้สึกตกใจจนไม่ทันได้นำอาวุธจิตวิญญาณอื่นๆ ออกมาป้องกัน ทำได้แค่ส่งเสียงฮึดฮัดออกมาทีหนึ่ง จากนั้นแสงสีเขียวก็เปล่งประกายด้านหลัง และก่อตัวเป็นโล่แสงสีเขียวอันหนึ่ง
“ฟิ้ว!” กระบี่บินกลางอากาศแทงลงบนโล่แสง
ขณะนี้ กระบี่บินพลังจิตวิญญาณได้แสดงอานุภาพออกมาจนหมดแล้ว
โล่แสงที่ดูหนาแน่นเป็นอย่างมาก ถูกทิ่มแทงจนแตกกระจาย อานุภาพที่เหลืออยู่ยังกรีดปราณแกร่งคุ้มร่างของผู้อาวุโสร่างอ้วนจนขาด ทิ้งบาดแผลจางๆ ไว้บนหลัง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน หลิ่วหมิงก็บิดตัวพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ ขณะที่เข้ามายังไม่ถึง เขาก็เอามือทั้งสองถูกัน จากนั้นสายฟ้าสีเงินสองสายก็พุ่งยิงออกมา
ผู้อาวุโสร่างอ้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแก่นแท้ เมื่อครู่ไม่ทันระมัดระวังจึงถูกผู้ฝึกฝนระดับผลึกขั้นกลางโจมตี ทันใดนั้นเขาก็เผยสีหน้าโมโหอย่างสุดขีด และกัดปลายลิ้นอย่างรุนแรง จากนั้นก็พ่นโลหิตบริสุทธิ์ใส่ธงสามเหลี่ยมตรงหน้า
แสงสีเขียวเปล่งประกายบนธงสามเหลี่ยมทันที ใบหน้าปีศาจขนาดใหญ่ลอยออกจากผิวธงภายในพริบตา พอมันอ้าปาก ปราณหยินสีเขียวเข้มก็พุ่งออกมารับแสงสายฟ้าไว้
แต่ทว่าพอไอหมอกสีเขียวสัมผัสกับแสงสายฟ้า มันก็สลายไปอย่างไรร้องรอยราวกับพบเจอกับดาวมฤตยู
หลิ่วหมิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็รู้สึกดีใจมาก เขารีบส่งพลังเวทไปที่มือทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง ลูกสายฟ้าสีเงินปรากฏขึ้นบนมือพร้อมกับเสียงที่ดังเปรี๊ยะๆ!
มือทั้งสองของเขาแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการรายล้อมของสายฟ้าสีเงิน มันก็ขยายใหญ่เป็นตาข่ายสายฟ้าก่อนพุ่งใส่ธงสามเหลี่ยม
พอหน้าปีศาจยักษ์ปะทะกับตาข่ายสายฟ้าสีเงิน ก็ส่งเสียงแหลมเศร้ากำสรดออกมา และหดตัวเป็นก้อนท่ามกลางควันดำอันพวยพุ่ง
เมื่อหลิ่วหมิงตะโกนคำว่า “ระเบิด!” ตาข่ายสายฟ้าสีเงินก็ระเบิดออกมา และกลายเป็นไหมสายฟ้าสีเงินจำนวนมาก
ใบหน้าปีศาจส่งเสียงร้องโหยหวน และระเบิดตัวท่ามกลางแสงสายฟ้าก่อนสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
ธงเล็กสามเหลี่ยมก็ส่งเสียงดังฟู่! และมีรอยแตกร้าวปรากฏบนพื้นผิว แสงสายฟ้าโจมตีทะลุออกมาในพริบตา และพุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสร่างอ้วน
ผู้อาวุโสทำเสียงฮึดฮัด จากนั้นร่างของเขาก็พร่ามัวพุ่งออกไปด้านหลังจนหลบสายฟ้าตรงหน้าไปได้
ขณะนั้นเอง เกิดเสียงดังสนั่นเหนือศีรษะของเขา แสงกระบี่สีทองสายหนึ่งที่ยาวหลายจั้งม้วนตัวเข้ามาอีกครั้ง
ผู้อาวุโสสะบัดแขนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง กรงเล็บแสงสีเขียวแวววาวพุ่งออกไป
“เกร๊ง!” หลังเกิดเสียงโลหะกระทบกันแล้ว แสงกระบี่ก็หยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ฟันกรงเล็บแสงทั้งห้าจนแตกสลาย
แต่ขณะนั้นเอง พอผู้อาวุโสโบกมือข้างหนึ่ง แสงสีเหลืองก็กะพริบมาถึง หลังจากนั้นก็พร่ามัวกลายเป็นไม้เท้าอันนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา