ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 699

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 699 อสรพิษสองหัว (2)
ตอนที่ 699 อสรพิษสองหัว (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ตู๊ม!” แสงกระบี่สีทองฟันลงบนมือยักษ์สีม่วงอย่างรุนแรง ทันใดนั้นแสงสีทองก็เปล่งประกายเจิดจ้า ไอสีม่วงก็พวยพุ่งออกมา

แสงสีม่วงกับแสงสีทองประสานเข้าด้วยกันในพริบตา ทำให้เกิดเสียงดังบนอากาศบริเวณนั้นอยู่ไม่หยุด เกิดเหตุการณ์ที่ต่างก็ไม่มีใครตกเป็นเบี้ยล่าง

“เร็ว!”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็เปลี่ยนท่ามือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง และตะโกนด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

แสงกระบี่สีทองสว่างขึ้นมาทันที ปราณกระบี่สีทองบางส่วนแยกตัวออกไป และม้วนตัวเข้าหาชายชุดม่วงโดยตรง

ชายชุดม่วงมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พอโบกมือข้างหนึ่ง กำแพงวายุสีม่วงก็ต้านทานอยู่ตรงหน้า เกิดเสียงดัง “เต๊งตั๊งๆ!” อยู่ไม่หยุด ปราณกระบี่สีทองที่โจมตีเข้ามาถูกต้านทานไว้ได้ทั้งหมด

ในขณะเดียวกัน หลิ่วหมิงก็กระทืบเท้าอย่างไร้สุ้มเสียง จากนั้นร่างของเขาก็พร่ามัวพุ่งเข้าใส่ชายชุดม่วง

ชายชุดม่วงเผยสีหน้าโหดร้ายออกมา มือข้างหนึ่งคว้าไปกลางอากาศในฉับพลัน พายุบ้าระห่ำสีม่วงรวมกันจนเกิดเป็นหอกวายุสีม่วงจางๆ ที่ยาวจั้งกว่าๆ และถูกเขวี้ยงออกไปอย่างไม่ลังเล

“ฟิ้ว!”

หอกวายุสีม่วงกะพริบจมเข้าใปในร่างของหลิ่วหมิง และทะลุออกจากบริเวณหน้าอก

ครู่ต่อมา หลิ่วหมิงก็สลายตัวเป็นไอดำ ที่แท้มันก็เป็นแค่เงาร่างเท่านั้น

ชายชุดม่วงรู้สึกอึ้งไปทันที แต่ก็ได้สติและชกกำปั้นโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเงาร่างที่สองของหลิ่วหมิงก็ถูกโจมตีจนแตกกระจาย และสลายไปอีกครั้ง

แต่ขณะนั้นเอง พายุเย็นยะเยือกก็โจมตีมาจากด้านหลัง เงาร่างที่สามปรากฏออกมา ซึ่งก็คือร่างจริงของหลิ่วหมิงนั่นเอง

พอร่างจริงของหลิ่วหมิงปรากฏ เพียงแค่สะบัดไหล่ ไอดำก็พวยพุ่งรอบตัว แสงสีเงินเปล่งประกายใต้ซี่โครง แขนสีเงินอีกสองข้างงอกออกมา หลังจากแขนทั้งสี่พร่ามัว มังกรหมอกดำกับพยัคฆ์หมอกดำต่างก็หมุนวนออกมา และพุ่งใส่หลังชายชุดม่วงพร้อมกันอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ

นี่คือวิชาเปลี่ยนแปลงในเกราะอสูรที่หลิ่วหมิงเพิ่งจะสามารถพลิกแพลงได้เมื่อไม่นานมานี้

ครั้งนี้เขาปรากฏตัวราวกับปีศาจ การโจมตีของแขนทั้งสี่ก็รวดเร็วประดุจสายฟ้าฟาด

แม้ว่าชายชุดม่วงจะมีพลังอันน่าตกใจ แต่ก็หันมาต้านทานไม่ทัน ทำได้แต่กระโดดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นร่างกายก็สั่นสะท้าน ปากของเขาร่ายคาถาลึกลับออกมา ลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงปกคลุมไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว

ลวดลายแปลกประหลาดที่ปกคลุมเต็มตัวเปล่งประกายแสงสีม่วงสว่างไสว ราวกับว่ามันถูกปักอยู่บนตัว และคล้ายกับว่ามีชีวิตขึ้นมาจริงๆ

“เพล้ง!”

เงาร่างมังกรพยัคฆ์โจมตีลวดลายจิตวิญญาณบนตัวชายชุดม่วง แสงทรงกลดสีม่วงแผ่กระจายไปปะทะกับไอปีศาจสีดำ จากนั้นก็กลายเป็นเมฆหมอกสีม่วงดำกลุ่มหนึ่ง และค่อยๆ สลายไป

ชายชุดม่วงรับพลังมหาศาลจากกำปั้นของหลิ่วหมิงโดยตรง จึงทำให้ร่างกระเด็นออกไปสิบกว่าจั้ง จากนั้นถึงพยายามทรงตัวไว้ได้

ขณะนี้ เขามีเลือดหยดตรงมุมปาก ชุดสีม่วงบนตัวถูกเงากำปั้นมังกรพยัคฆ์โจมตีจนขาดไม่มีชิ้นดี ภายใต้พายุที่พัดเข้ามา เศษสีม่วงก็หลุดลอยออกไป เผยให้เห็นหน้าอกที่มีเกล็ดปกคลุมไปทั่ว มีรอยกำปั้นปรากฏอยู่บนนั้นอย่างชัดเจน และมีเลือดซึมออกจากช่องว่างระหว่างเกล็ดอยู่รำไร

ด้วยความแข็งแกร่งของกายเนื้อหลิ่วหมิงในตอนนี้ ภายใต้การโจมตีซึ่งๆ หน้าด้วยเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬ ต่อให้จะเป็นผู้ฝึกร่างระดับแก่นแท้ธรรมดา ก็ไม่อาจแบกรับการโจมตีนี้ได้ อีกอย่างภายใต้สถานการณ์ที่มีสี่แขนเช่นตอนนี้ ชายชุดม่วงกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มันทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่เผยสีหน้าผิดปกติออกมา เพียงแค่ค่อยๆ วางแขนทั้งสี่ลงเท่านั้น

“ไอ้มนุษย์หยาบช้า! บังอาจทำข้าบาดเจ็บถึงเพียงนี้!” แสงเยือกเย็นเปล่งประกายในดวงตาของชายชุดม่วง หลังจากแหงนหน้าส่งเสียงคำรามออกมา กลิ่นไออันดุเดือดก็พุ่งขึ้นฟ้า ลวดลายจิตวิญญาณสีม่วงบนใบหน้าเปล่งประกายอย่างบ้าคลั่ง แสงสีม่วงแผ่ขยายออกไป และก่อตัวเป็นคลื่นน้ำวนขนาดใหญ่

ชายชุดม่วงพร่ามัวเข้าไปใจกลางคลื่นน้ำวน หลังจากม้วนตัวท่ามกลางแสงสว่างแล้ว ก็กลายเป็นพายุหมุนสีม่วงพุ่งขึ้นฟ้า

ขณะเดียวกัน ชายชุดม่วงอีกคนที่บีบจนผู้อาวุโสขุยมู่ต้องร่นถอยเป็นระยะๆ ก็หยุดชะงักลงในฉับพลัน ลวดลายจิตวิญญาณสีแดงบนใบหน้าเปล่งประกายเจิดจ้า เปลวไฟสีแดงอันร้อนแรงพุ่งออกจากระหว่างคิ้ว และถือโอกาสแผ่ขยายไปทั่วร่าง

จากนั้นชายผู้นี้ก็กลายเป็นแสงเปลวไฟสีแดง และพุ่งไปหาพายุหมุนสีม่วงในพริบตา

ผู้อาวุโสขุยมู่คิดจะลงมือขัดขวางด้วยความตกใจ แต่กลับช้าไปครึ่งก้าว

“ตู๊ม!” แสงเปลวไฟสีแดงกับพายุหมุนสีม่วงผสานกันอยู่ไม่หยุด ทำให้ท้องฟ้าในขณะนั้นประเดี๋ยวกลายเป็นพายุสีม่วง ประเดี๋ยวกลายเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่

ทั้งสองผสมปนเปเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นพายุสีม่วงและเปลวไฟสีแดงแผ่ขยายไปในพื้นที่ระยะยี่สิบกว่าจั้ง ขณะเดียวกัน กลิ่นไออันแข็งแกร่งก็ม้วนตัวไปทั่วทิศ

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็ยื่นแขนทั้งสี่ออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มังกรหมอกสี่ตัวกับพยัคฆ์หมอกสี่ตัวกระโจนออกไปด้านหน้าท่ามกลางไอดำที่พวยพุ่ง

ผู้อาวุโสขุยมู่มองดูเปลวไฟแดงกับวายุม่วงที่อยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าตกใจเช่นกัน ทันใดนั้น เขาก็โยนไม้เท้าสีเขียวไปด้านหน้า และทำท่ามือในทันที

อักขระไหลวนบนผิวไม้เท้าอยู่ครู่หนึ่ง หนามสีเขียวจำนวนมากพุ่งออกมาจากบนนั้นพร้อมกับเสียงที่ดังก้องฟ้า จากนั้นก็กลายเป็นแสงสีเขียวพุ่งเข้าใส่ไอสีม่วงที่พวยพุ่ง

ฉากที่พวกเขาทั้งสองคาดไม่ถึงได้ปรากฏขึ้นแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา