ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 75

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 75 ชิงของล้ำค่า
ตอนที่ 75 ชิงของล้ำค่า
โดย
Ink Stone_Fantasy
ถึงแม้ศิษย์คนอื่นๆ บนเรือสายหมอกต่างก็นอนอยู่บนพื้นโดยที่ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตรอดหรือไม่ แต่หลิ่วหมิงที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่นักพรตวัยกลางคนจะมองไม่เห็น

แต่อาจารย์อาจางผู้นี้ไม่ได้สนใจเขาเลย กลับพาแค่ศิษย์พี่เฉียนและดรุณีน้อยเสื้อเขียวหนีไปอย่างรวดเร็ว

ทำให้ในใจเขารู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา แต่คงต้องใช้วิธีการช่วยตัวเองแล้ว

หลิ่วหมิงคิดถึงจุดนี้ จากเดิมที่นั่งนิ่งไม่ขยับก็ล้มลมบนพื้นด้วยเสียงดัง “ตุบ!”

ในขณะเดียวกัน ลมหายใจกับโลหิตที่ไหลอยู่ในร่างเขาก็กลายเป็นเดี๋ยวมีเดี๋ยวหาย

นี่คือผลของการใช้เคล็ดวิชาผนึกลมปราณ

เสียงดัง “ตู้ม!

ในที่สุดกลุ่มแสงกลมๆ ขนาดใหญ่บนอากาศก็ระเบิดออกมาท่ามกลางกลิ่นไออันน่ากลัวที่เพิ่มขึ้น

ทุกสิ่งภายในบริเวณรัศมีลี้กว่าๆ หลังจากถูกพายุร้อนม้วนตัวผ่านก็ค่อยๆ เลือนลางหายไป แม้กระทั่งเรือไม้ของโจรปล้นสดมภ์กับเรือสายหมอกที่เป็นอาวุธเหินเวหาก็ถูกทำลายราวกับของเล่น พวกมันตีลังกาไปเจ็ดแปดตลบแล้วก็แตกละเอียดเป็นจุน

หลิ่วหมิงแค่รู้สึกโล่งๆ แล้วตนเองกับศิษย์นิกายปีศาจคนอื่นๆ ต่างก็ร่วงลงไป

ภายใต้ความตกตะลึง เขาไม่กล้าใช้วิชาทะยานเวหา ทำให้แค่ตอนที่ใกล้จะตกถึงพื้นได้ปล่อยโซ่สีดำขนาดใหญ่เส้นหนึ่งให้ดีดตัวพุ่งลงไปบนพื้น

เสียงดัง “ฟู่”

หลิ่วหมิงเอียงห่างไปไม่กี่ฉื่อ ไม่เพียงแต่ลดความเร็วในการร่วงไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ทั้งยังสามารถหลบหลีกหินสีดำอันแข็งแกร่งก้อนหนึ่งที่อยู่ด้านล่างได้

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาตกลงจากที่สูงขนาดนี้ก็ต้องแสยะปากออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกแค่ทั่วทั้งร่างไม่มีส่วนไหนที่ไม่เจ็บเลย

ดีที่ว่าตอนนี้กระดูกแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก เลยไม่กระดูกชิ้นไหนหักเลย

เขายังเป็นถึงขนาดนี้แล้วศิษย์นิกายคนอื่นๆ จะขนาดไหน

ช่วงนี้ศิษย์นิกายปีศาจคนอื่นๆ ต่างก็ร่วงลงมานอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ขาดสาย บนร่างล้วนเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาสดๆ เห็นได้ชัดว่าไร้ลมหายใจกันหมดแล้ว

ขณะนี้ สถานที่เดิมที่กลุ่มแสงระเบิด สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรได้ปรากฏตัวอีกครั้ง แต่นอกจากรอยไหม้เกรียมจำนวนหนึ่งบนร่างแล้วก็ไม่มีบาดแผลการถูกทำร้ายที่เพิ่มขึ้นเลย แต่ในดวงตาข้างเดียวที่เหลืออยู่กลับปรากฏแววตาอันโหดร้ายขึ้นมา กรงเล็บข้างหนึ่งคว้าลงตรงอากาศด้านล่างโดยฉับพลัน

เสียงดัง “ฟิ้ว!”

ร่างของหญิงวัยกลางคนที่ควบคุมวิชากระบี่บินก่อนหน้านี้ ลอยขึ้นไปบนฟ้าแล้วเข้าไปอยู่ในกรงเล็บของปีศาจอสูรตนนี้

สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรอ้าปากกว้างๆ แล้วกัดหัวกว่าครึ่งหนึ่งของหญิงวัยกลางคน หลังจากมันเคี้ยวได้สองสามครั้งก็กลืนลงไป จากนั้นส่งเสียงร้องแหลมขึ้นอีกครั้ง พร้อมพ่นลูกไฟสีแดงลงมาด้านล่าง แล้วก็พาร่างอันโชกเลือดของหญิงวัยกลางคนกลายเป็นวายุดำพัดไปยังที่ไกลๆ

ดูจากทิศทางที่มันไปนั้นเป็นทิศทางที่หลวงจีนผู้นั้นหนีไป

เสียง “ตู้ม!” ดังสะเทือนเลือนลั่น

ลูกไฟที่ดูธรรมดา พอตกถึงพื้นกลับกลายเป็นเสาเพลิงพุ่งขึ้นฟ้า

เปลวไฟที่ลุกไหม้กระพือฮือโหมม้วนตัวไปทั่วทุกทิศทางทันที กลายเป็นทะเลเพลิงอันคุโชน

ทุกสิ่งที่สัมผัสโดนเปลวไฟนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ก้อนหิน ก็ล้วนกลายเป็นขี้เถ้าหายสาบสูญไปในพริบตาเดียว

เสียงร้องอย่างเวทนาดังขึ้น!

มันคือเสียงของโจรปล้นสดมภ์ที่ยังมีลมหายใจอยู่ พวกมันดิ้นเอาชีวิตรอดท่ามกลางเปลวไฟแล้วก็กลายเป็นขี้เทาไปเหมือนกับคนอื่นๆ

สมกับที่เป็นปีศาจอสูรระดับผลึก แค่โจมตีอย่างไม่ใส่ใจก็ยังมีอานุภาพน่าหวาดกลัวเช่นนี้

และตอนที่ลูกไฟตกมานั้น หลิ่วหมิงก็รู้ว่ามันต้องร้ายแรงเป็นอย่างมาก จึงไม่ได้สนใจว่าเจ้ามังกรแดงมันจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ เขารีบควักยันต์ออกมาจากตัวหลายผืน อึดใจเดียวก็มีม่านแสงสลัวๆ หลายชั้นคุ้มกันร่างเขาไว้ และตบลงไปยังถุงหล่อเลี้ยงวิญญาณเรียกแมงป่องกระดูกขาวออกมา

แมลงป่องกระดูกขาวสื่อสารจิตกับหลิ่วหมิงได้แล้วก็ปรากฏออกมาในม่านแสง มันรีบอ้าปากพ่นปราณหยินอันเย็นแปลกประหลาดออกไปทันที จนพอที่จะหยุดเปลวไฟที่ลุกลามมาในบริเวณใกล้เคียงได้แล้วก็พาหลิ่วหมิงพุ่งไปยังทิศทางบางแห่งทันที

เสียงดัง “เพล้ง!”

พอเขาและแมงป่องกระดูกขาวเกือบจะหนีออกมาจากทะเลเพลิงได้ อานุภาพของม่านแสงก็หมดไปและแตกกระจายออกมา

หลิ่วถอนหายใจยาวๆ ออกมา หันหน้ากลับไปดูทะเลเพลิงด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ถ้าเมื่อครู่เขาลังเลอีกสักหน่อย เกรงว่าคงจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว

แต่ยันต์คุ้มกันที่เพิ่งซื้อมาเมื่อครู่ กลับถูกใช้ไปหมดแล้ว ทำให้เขารู้สึกคร่ำครวญเสียดายเป็นอย่างมาก

แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่มียันต์เหล่านี้ เกรงว่าเขาไม่อาจรักษาชีวิตน้องๆ นี้ไว้ได้

หลิ่วหมิงคิดเช่นนี้แล้วก็ก้มลงดูแมงป่องกระดูกขาวครู่หนึ่ง

แมงป่องกระดูกขาวตนนี้ใช้เวลาสั้นๆ ในการพ่นปราณหยินออกมามากขนาดนี้ทำให้มันดูอ่อนแรงลง

เพื่อป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด จึงไม่ได้เรียกแมงป่องกระดูกขาวกลับเข้าไปในทันที แต่สายตากวาดไปยังทะเลเพลิงที่ลุกไหม้โหมกระหน่ำแล้วแสดงสีหน้าเสียดายขึ้นมา

เปลวไฟอันร้ายกาจเช่นนี้ อาวุธอาญาสิทธิ์ หินจิตวิญญาณ และสิ่งของอื่นๆ บนตัวของคนอื่นๆ ก็ไม่อาจรอดพ้นได้ มิเช่นนั้นไม่แน่อาจจะยังพอถอนทุนคืนได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา