เคล็ดเกราะอสูรนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้อสูรจิตวิญญาณกลายเป็นเกราะหนังเพื่อทำการป้องกันเท่านั้น ยังมีผลต่อกายเนื้อของเขาเป็นทวี ตอนนี้ปีศาจอสูรสมุทรแปดขามีการฝึกฝนอยู่ที่ระดับของเหลวขั้นปลายแล้ว จึงเพิ่มทวีความแข็งแกร่งของกายเนื้อให้กับเขาได้ถึงสามส่วน
ขณะเดียวกัน พอหลิ่วหมิงยื่นแขนทั้งสองไปด้านหน้า มังกรพยัคฆ์หมอกที่อยู่ด้านหลังก็ขยายใหญ่ในพริบตา และพุ่งลงด้านล่างพร้อมกับส่งเสียงคำราม
การที่หลิ่วหมิงใช้เคล็ดเกราะอสูรเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬนี้ ทำให้หลัวเทียนเฉิงเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา แต่ก็ทำเสียงฮึดฮัดอย่างรวดเร็ว ท่ามือของเขาเปลี่ยนแปลงอยู่ครู่หนึ่ง มังกรพยัคฆ์สีเงินพากันระเบิดออกมาทีละตัว และกลายเป็นแสงสีทองม้วนตัวขึ้นไป
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลง มังกรหมอกดำห้าตัวกับพยัคฆ์หมอกส่งเสียงระเบิดออกมาเช่นกัน “ปังๆ!” จากนั้นก็กลายเป็นแสงสีดำพุ่งลงไป
“ตู๊ม!” แสงสีดำกับสีเงินปะทะกันกลางอากาศ หลังจากหมุนติ้วๆ รวมตัวกันแล้ว ก็กลายเป็นลูกแสงสีเงินกับสีดำอย่างละหนึ่งลูก และปะทะเข้าหากันราวกับดวงอาทิตย์สองดวงพุ่งชนกัน
ท่ามกลางเสียงดังโครมครามกลางอากาศ ทำให้ท้องฟ้าบริเวณนั้นบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
การประลองระหว่างหลิ่วหมิงกับหลัวเทียนเฉิงก่อให้เกิดเสียงดังเช่นนี้ ย่อมดึงดูดความสนใจของศิษย์แต่ละกลุ่มที่ผ่านบริเวณนั้นให้หยุดมองจากที่ไกลๆ
ขณะนี้ ลูกแสงยักษ์กลางอากาศสองลูกขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การปัดแข้งปัดขากัน มันก็ค่อยๆ รวมกันเป็นหนึ่ง ดูจากที่ไกลๆ แล้ว มันเหมือนกับลูกแสงยักษ์ที่ครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีเงิน แต่กลับมีเส้นแบ่งเขตตรงกลางชัดเจน และกลิ่นไอที่แผ่ออกจากในนั้นมันน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ที่ใช้จิตสำรวจดู ล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
“ตู๊ม!” เกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น!
ลูกแสงครึ่งวงกลมสองลูกระเบิดออกมาทันที ลำแสงสีเงินผสมปนเปกับสีดำพุ่งออกไปทั่วทิศ
หลิ่วหมิงรู้สึกถึงพลังสะท้อนกลับที่โจมตีเข้ามา ร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง พอกระตุ้นเคล็ดเกราะอสูร โล่สีเงินชิ้นหนึ่งก็ต้านทานอยู่ตรงหน้า
จากนั้นร่างของเขาก็ถูกพลังมหาศาลที่ส่งผ่านมาจากโล่กระแทกจนกระเด็นออกไปร้อยกว่าจั้ง และชนใส่ยอดเขาเล็กๆ ที่อยู่บริเวณนั้นอย่างรุนแรง
แผ่นดินสั่นสะเทือนอยู่ครู่หนึ่ง เกิดรอยขนาดเท่าปากถ้วยบนยอดเขา
ขณะที่เขาคิดจะกระตุ้นพลังให้พุ่งออกไปนั้น ร่างของเขากลับหยุดชะงักลง และกระอักเลือดออกมา
และหลัวเทียนเฉิงก็ถูกพลังสะท้อนกลับจนมีสภาพไม่แตกต่างกันมากนัก จะเห็นว่าพื้นด้านนอกวิหารไท่เจิน มีหลุมสีดำขนาดสิบกว่าจั้ง และลึกหนึ่งจั้งกว่าๆ ปรากฏออกมาหลุมหนึ่ง
ในส่วนลึกของหลุมสีดำ หลัวเทียนเฉิงกำลังนอนหงายหลังอยู่ในนั้นด้วยใบหน้าซีดขาว มีบาดแผลปกคลุมเต็มตัว โลหิตไหลออกจากมุมปาก ผ่านไปสักพัก ถึงค่อยๆ ลุกขึ้นมา และมองดูหลิ่วหมิงด้วยสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ที่มุงดูอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล พอเห็นฉากอันน่าตกใจในก่อนหน้า ต่างก็รู้สึกตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง แม้แต่ผู้ที่ทำการกระซิบกระซาบกันอยู่ ต่างก็ลืมคำพูดของตัวเองไปชั่วคราว ทำให้บรรยากาศรอบด้านเงียบไปทั้งแถบ
หลังจากหลัวเทียนเฉิงออกจากหลุมมาแล้ว ก็สูดหายใจลงเข้าลึกๆ สองสามทีแสงสีเงินหมุนวนรอบตัวอยู่ครู่หนึ่ง บาดแผลบนตัวก็สมานกันอย่างรวดเร็ว กลิ่นไอบนตัวค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ ราวกับว่าไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกใจเย็นสะท้าน ตอนนี้ถึงนึกขึ้นได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีร่างจิตวิญญาณตูเทียนในตำนาน ร่างกายเกือบจะเป็นอมตะ แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยพลังทั้งหมด สุดท้ายแล้วจะชนะหรือแพ้ล้วนเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก
แต่ว่าหลัวเทียนเฉิงเพียงแค่มองดูหลิ่วหมิงอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง จากนั้นก็หายวับมาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างฟ่านเจิ้งที่ยังคงหมดสติอยู่ หลังจากอุ้มเขาขึ้นมาแล้ว ก็หมุนตัวทะยานขึ้นฟ้า และกลายเป็นแสงสีเงินพุ่งจากไป พริบตาเดียวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เขารีบนำโอสถจินหยวนจากแหวนย่อส่วนมาทานอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลายเป็นแสงสีทองพุ่งหนีไป
มิเช่นนั้นหากเขาหนีไปช้าแล้วถูกคนของหอคุมกุฎจับตัวได้ล่ะก็ อาจจะมีปัญหาตามมาเล็กน้อย
หลังจากหลิ่วหมิงจากไปแล้ว ฝูงชนที่มุงดูอยู่ถึงได้สติจากความตกใจ ทันใดนั้นก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา โดยเฉพาะหนึ่งในผู้ที่ทำการแลกมือในครั้งนี้ เป็นหลัวเทียนเฉิงที่ผู้คนในนิกายต่างก็รู้จัก จึงทำให้คนจำนวนมากรู้สึกสนใจไม่น้อย
และสถานะของหลิ่วหมิงก็ถูกคนมองออกอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้เกิดความฮือฮามากขึ้นกว่าเดิม
ไม่นาน ภายในวิหารใหญ่ของยอดเขาเมฆาหยก เฮ่าเยวี่ยที่ดูเหมือนเด็กอายุสิบสองสิบสามปี กำลังเก็บแผ่นค่ายกลส่งสารด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้เป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา