หลัวหยวนดวงตาเป็นประกาย แต่กลับกล่าวต่อด้วยสีหน้าปกติ
“ข้าเองก็รู้ว่า การกระทำนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของยอดเขาเลื่อนลอย ศิษย์หลานเจียหลานก็ต้องเสียสละค่อนข้างมาก เช่นนี้เถิด! ข้ายินดีใช้โอสถมายานรกเก้าขุมที่เป็นโอสถระดับธรรมดาสามเม็ด หยกโลหิตแต่กำเนิดหนึ่งชิ้น และสิทธิ์ในการเข้า ‘ทางจันทรามายา’ หนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สำหรับศิษย์หลานเจียหลาน ข้าจะเสนอทรัพยากรให้จำนวนมาก และช่วยนางเข้าสู่ระดับแก่นแท้อย่างสุดความสามารถ เช่นนี้แล้วศิษย์พี่ทั้งสองคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
เทียนอินซ่างเหรินได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่ดวงตาก็เป็นประกายอยู่ไม่หยุด
อย่างที่รู้ว่า โอสถมายานรกเก้าขุมปรุงขึ้นมาจากวิญญาณของแมงเม่ามายานรกเก้าขุม ที่เป็นปีศาจอสูรระดับแก่นแท้ อสูรชนิดนี้ สามารถพบได้แค่ในทางปีศาจชั่วร้ายเท่านั้น ในวิญญาณแฝงไปด้วยพลังมายาอันบริสุทธิ์ มีผลลัพธ์อันดีต่อผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ที่ฝึกฝนวิชามายามาก มักจะช่วยให้ผู้ที่ทานสามารถทะลวงคอขวดได้ ด้วยเหตุนี้แต่ละเม็ดจึงมีราคาหลายสิบล้านหินจิตวิญญาณ และมักจะไม่มีขายในตลาดด้วย
โอสถมายานรกเก้าขุมระดับสูง ยังมีผลต่อการบรรลุระดับดาราพยากรณ์ในขอบเขตที่กำหนดได้
ส่วนหยกโลหิตแต่กำเนิดก็เป็นวัสดุจิตวิญญาณสำหรับสร้างอาวุธประเภทวิชามายาที่พบเจอได้น้อยมากในโลกเช่นกัน มูลค่าของมันสูงจนไม่ต้องบอกก็รู้
สำหรับ ‘ทางจันทรามายา’ ก็เป็นพื้นที่มิติเล็กๆ แห่งหนึ่งในนิกายยอดบริสุทธิ์ ว่ากันว่าเป็นสถานที่ทะลวงระดับที่เลิศล้ำสำหรับผู้ฝึกฝนวิชามายา มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับถ้ำวายุสวรรค์ที่หลิ่วหมิงเคยไป แต่ว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่าหลายเท่า ซึ่งเสนอให้ผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ใช้โดยเฉพาะ และทุกครั้งที่เปิดก็จะสิ้นเปลืองทรัพยากรล้ำค่าไม่น้อย แม้แต่ผู้มีสถานะสูงส่งอย่างผู้ควบคุมยอดเขาก็ไม่อาจเข้าไปได้โดยง่าย
เงื่อนไขเหล่านี้ล้วนล้ำค่าเป็นอย่างมาก แม้ว่าเทียนอินซ่างเหรินจะมีสถานะเป็นถึงผู้ควบคุมยอดเขา ก็อดใจเต้นไม่ได้
แต่ว่าหลังจากนางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วแล้ว ก็มองอวี้อินจื่อก่อนกล่าวออกมาเบาๆ
“ศิษย์น้อง เจียหลานเป็นศิษย์ของเจ้า ไม่ทราบว่าเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?”
หลัวหยวนได้ยินก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เทียนอินซ่างเหรินกล่าวเช่นนี้ ประจักษ์ชัดว่าได้ยอมรับเรื่องนี้โดยปริยายแล้ว แต่ติดที่อวี้อินจื่อที่เป็นอาจารย์ที่แท้จริงของเจียหลานอยู่ด้วย จึงไม่ได้พูดออกมาตามตรง
เพียงแค่เทียนอินซ่างเหรินพยักหน้า เรื่องนี้ก็ถูกกำหนดไว้แล้ว
ชายหนุ่มชุดผ้าแพรที่อยู่ด้านหลังหลัวหยวนเห็นเช่นนี้ ก็เผยแววตาดีใจออกมา
อวี้อินจื่อเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงค่อยๆ เอ่ยปากออกมา
“เงื่อนไขที่ศิษย์น้องหลัวเสนอมาดีมากจริงๆ แต่ว่ากันถึงแก่นแท้แล้ว เรื่องนี้ศิษย์ของข้าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้นจึงควรถามความยินยอมจากนางเสียก่อน”
หลัวหยวนได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็นึกเรื่องราวอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหัวเราะก่อนกล่าวออกมา
“อืม! ที่ศิษย์พี่อวี้อินกล่าวมามันก็ถูก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องขอให้ศิษย์น้องอวี้อินส่งข่าวบอกเจียหลานให้มาพบกันที่นี่เถิด!” เทียนอินซ่างเหรินมองดูอวี้อินจื่อทีหนึ่ง ดูเหมือนนางจะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่กลับไม่แสดงออกมา
อวี้อินจื่อพยักหน้า และนำยันต์ส่งเสียงออกมาผืนหนึ่ง หลังจากพูดเบาๆ ไปสองสามประโยคแล้ว ก็ปล่อยพลังใส่เข้าไปในนั้น ภายใต้การเปล่งประกายของยันต์ส่งเสียง มันก็กลายเป็นจุดแสงแวววาวก่อนหายไปในอากาศ
เวลาต่อมา ทั้งสามก็จิบชาจิตวิญญาณไปด้วย และพูดคุยสัพเพเหระไปพลางๆ
ไม่นาน เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกประตูอยู่รำไร หญิงสาวร่างอรชรที่สวมชุดสีฟ้านางหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในประตูวิหาร ผมงดงามราวกับปุยเมฆ ผิวขาวเกลี้ยงเกลาราวกับหยก นางก็คือเจียหลานนั่นเอง
พอได้ยินเสียงฝีเท้า สายตาของคนทั้งสี่ที่อยู่ในวิหารก็หันไปมองประตูพร้อมกัน
พอเจียหลานเห็นว่ามีคนนอกนั่งอยู่ในวิหาร นางก็ขมวดคิ้วขึ้นมา นางหยุดชะงักตรงประตูเล็กน้อย และคารวะเทียนอินซ่างเหรินกับอวี้อินจื่อก่อนกล่าวออกมา
“ศิษย์เจียหลาน คารวะอาจารย์อา และอาจารย์”
“ไม่ต้องมากพิธี! เจียหลาน ท่านนี้คือผู้ควบคุมยอดเขาหลัวจากยอดเขาดับสูญ” พอเทียนอินซ่างเหรินเห็นเจียหลานเดินเข้ามา ใบหน้าที่เย็นชาของนางก็เผยรอยยิ้มออกมาทักทาย
เจียหลานได้ยิน ก็หมุนตัวไปคารวะชายวัยกลางคน
“คารวะอาจารย์อาหลัว”
เจียหลานไม่ได้รู้สึกแปลกหน้ากับยอดเขาดับสูญแต่อย่างใด ในนิกายมียอดเขาตั้งมากมาย หากพูดถึงยอดเขาที่เชี่ยวชาญวิชามายา ก็มีแค่ยอดเขาเลื่อนลอยกับยอดเขาดับสูญเท่านั้น และหลัวหยวนผู้ควบคุมยอดเขาดับสูญผู้นี้ ก็ได้ชื่อว่าผู้ฝึกฝนวิชามายาระดับแก่นแท้คนแรกของนิกายยอดบริสุทธิ์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่ว่านางก็เพิ่งได้เจอเป็นครั้งแรก
“ศิษย์หลานไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้” ขณะที่ชายวัยกลางคนพูดออกมา สายตาก็สังเกตดูเจียหลานไปด้วย จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยด้วยแววตาชื่นชม
ตั้งแต่เจียหลานเดินเข้ามา ชายหนุ่มชุดผ้าแพรที่ยืนอยู่ด้านหลัง ไม่ได้ละสายตาไปจากนางเลยแท้แต่น้อย ภายในระยะห่างอันใกล้เช่นนี้ แววตาของเขาก็เร่าร้อนมากขึ้นกว่าเดิม
ดูเหมือนว่าเจียหลานจะรับรู้ได้ถึงแววตาเร่าร้อนของอีกฝ่าย คิ้วงดงามของนางยกขึ้นเล็กน้อย แววตาดูไม่พอใจอยู่ลางๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้าแต่อย่างใด
“เจียหลาน นั่งลงด้านนี้เถอะ!” อวี้อินจื่อก็มองเห็นแววตาของชายหนุ่มชุดผ้าแพรเช่นกัน นางจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ทันใดนั้นก็เรียกให้ศิษย์ตัวเองมาอยู่ด้านข้าง
ชายหนุ่มชุดผ้าแพรเห็นเช่นนี้ ก็ละสายตาออกมาด้วยสีหน้าเหยเก และยืนอย่างเรียบร้อย
“ไม่ทราบว่าอาจารย์กับอาจารย์อาเรียกศิษย์มามีธุระอันใดหรือ?” เจียหลานเดินมาถึงด้านข้างอวี้อินจื่อ แต่ไม่ได้นั่งลงไป เพียงแค่เอ่ยปากถามเบาๆ เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา