ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 760

สรุปบท ตอนที่ 760 ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

อ่านสรุป ตอนที่ 760 ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง จาก ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 760 ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 760 ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง
ตอนที่ 760 ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง
โดย
Ink Stone_Fantasy
“เฮ่อๆ! ศิษย์พี่เทียนอินมีความรู้กว้างไกลจริงๆ ศิษย์น้องนับถือยิ่งนัก”

หลัวหยวนดวงตาเป็นประกาย แต่กลับกล่าวต่อด้วยสีหน้าปกติ

“ข้าเองก็รู้ว่า การกระทำนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของยอดเขาเลื่อนลอย ศิษย์หลานเจียหลานก็ต้องเสียสละค่อนข้างมาก เช่นนี้เถิด! ข้ายินดีใช้โอสถมายานรกเก้าขุมที่เป็นโอสถระดับธรรมดาสามเม็ด หยกโลหิตแต่กำเนิดหนึ่งชิ้น และสิทธิ์ในการเข้า ‘ทางจันทรามายา’ หนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สำหรับศิษย์หลานเจียหลาน ข้าจะเสนอทรัพยากรให้จำนวนมาก และช่วยนางเข้าสู่ระดับแก่นแท้อย่างสุดความสามารถ เช่นนี้แล้วศิษย์พี่ทั้งสองคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เทียนอินซ่างเหรินได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่ดวงตาก็เป็นประกายอยู่ไม่หยุด

อย่างที่รู้ว่า โอสถมายานรกเก้าขุมปรุงขึ้นมาจากวิญญาณของแมงเม่ามายานรกเก้าขุม ที่เป็นปีศาจอสูรระดับแก่นแท้ อสูรชนิดนี้ สามารถพบได้แค่ในทางปีศาจชั่วร้ายเท่านั้น ในวิญญาณแฝงไปด้วยพลังมายาอันบริสุทธิ์ มีผลลัพธ์อันดีต่อผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ที่ฝึกฝนวิชามายามาก มักจะช่วยให้ผู้ที่ทานสามารถทะลวงคอขวดได้ ด้วยเหตุนี้แต่ละเม็ดจึงมีราคาหลายสิบล้านหินจิตวิญญาณ และมักจะไม่มีขายในตลาดด้วย

โอสถมายานรกเก้าขุมระดับสูง ยังมีผลต่อการบรรลุระดับดาราพยากรณ์ในขอบเขตที่กำหนดได้

ส่วนหยกโลหิตแต่กำเนิดก็เป็นวัสดุจิตวิญญาณสำหรับสร้างอาวุธประเภทวิชามายาที่พบเจอได้น้อยมากในโลกเช่นกัน มูลค่าของมันสูงจนไม่ต้องบอกก็รู้

สำหรับ ‘ทางจันทรามายา’ ก็เป็นพื้นที่มิติเล็กๆ แห่งหนึ่งในนิกายยอดบริสุทธิ์ ว่ากันว่าเป็นสถานที่ทะลวงระดับที่เลิศล้ำสำหรับผู้ฝึกฝนวิชามายา มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับถ้ำวายุสวรรค์ที่หลิ่วหมิงเคยไป แต่ว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่าหลายเท่า ซึ่งเสนอให้ผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้ใช้โดยเฉพาะ และทุกครั้งที่เปิดก็จะสิ้นเปลืองทรัพยากรล้ำค่าไม่น้อย แม้แต่ผู้มีสถานะสูงส่งอย่างผู้ควบคุมยอดเขาก็ไม่อาจเข้าไปได้โดยง่าย

เงื่อนไขเหล่านี้ล้วนล้ำค่าเป็นอย่างมาก แม้ว่าเทียนอินซ่างเหรินจะมีสถานะเป็นถึงผู้ควบคุมยอดเขา ก็อดใจเต้นไม่ได้

แต่ว่าหลังจากนางครุ่นคิดอย่างรวดเร็วแล้ว ก็มองอวี้อินจื่อก่อนกล่าวออกมาเบาๆ

“ศิษย์น้อง เจียหลานเป็นศิษย์ของเจ้า ไม่ทราบว่าเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?”

หลัวหยวนได้ยินก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เทียนอินซ่างเหรินกล่าวเช่นนี้ ประจักษ์ชัดว่าได้ยอมรับเรื่องนี้โดยปริยายแล้ว แต่ติดที่อวี้อินจื่อที่เป็นอาจารย์ที่แท้จริงของเจียหลานอยู่ด้วย จึงไม่ได้พูดออกมาตามตรง

เพียงแค่เทียนอินซ่างเหรินพยักหน้า เรื่องนี้ก็ถูกกำหนดไว้แล้ว

ชายหนุ่มชุดผ้าแพรที่อยู่ด้านหลังหลัวหยวนเห็นเช่นนี้ ก็เผยแววตาดีใจออกมา

อวี้อินจื่อเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงค่อยๆ เอ่ยปากออกมา

“เงื่อนไขที่ศิษย์น้องหลัวเสนอมาดีมากจริงๆ แต่ว่ากันถึงแก่นแท้แล้ว เรื่องนี้ศิษย์ของข้าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้นจึงควรถามความยินยอมจากนางเสียก่อน”

หลัวหยวนได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็นึกเรื่องราวอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหัวเราะก่อนกล่าวออกมา

“อืม! ที่ศิษย์พี่อวี้อินกล่าวมามันก็ถูก”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องขอให้ศิษย์น้องอวี้อินส่งข่าวบอกเจียหลานให้มาพบกันที่นี่เถิด!” เทียนอินซ่างเหรินมองดูอวี้อินจื่อทีหนึ่ง ดูเหมือนนางจะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่กลับไม่แสดงออกมา

อวี้อินจื่อพยักหน้า และนำยันต์ส่งเสียงออกมาผืนหนึ่ง หลังจากพูดเบาๆ ไปสองสามประโยคแล้ว ก็ปล่อยพลังใส่เข้าไปในนั้น ภายใต้การเปล่งประกายของยันต์ส่งเสียง มันก็กลายเป็นจุดแสงแวววาวก่อนหายไปในอากาศ

เวลาต่อมา ทั้งสามก็จิบชาจิตวิญญาณไปด้วย และพูดคุยสัพเพเหระไปพลางๆ

ไม่นาน เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกประตูอยู่รำไร หญิงสาวร่างอรชรที่สวมชุดสีฟ้านางหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในประตูวิหาร ผมงดงามราวกับปุยเมฆ ผิวขาวเกลี้ยงเกลาราวกับหยก นางก็คือเจียหลานนั่นเอง

พอได้ยินเสียงฝีเท้า สายตาของคนทั้งสี่ที่อยู่ในวิหารก็หันไปมองประตูพร้อมกัน

พอเจียหลานเห็นว่ามีคนนอกนั่งอยู่ในวิหาร นางก็ขมวดคิ้วขึ้นมา นางหยุดชะงักตรงประตูเล็กน้อย และคารวะเทียนอินซ่างเหรินกับอวี้อินจื่อก่อนกล่าวออกมา

“ศิษย์เจียหลาน คารวะอาจารย์อา และอาจารย์”

“ไม่ต้องมากพิธี! เจียหลาน ท่านนี้คือผู้ควบคุมยอดเขาหลัวจากยอดเขาดับสูญ” พอเทียนอินซ่างเหรินเห็นเจียหลานเดินเข้ามา ใบหน้าที่เย็นชาของนางก็เผยรอยยิ้มออกมาทักทาย

เจียหลานได้ยิน ก็หมุนตัวไปคารวะชายวัยกลางคน

“คารวะอาจารย์อาหลัว”

เจียหลานไม่ได้รู้สึกแปลกหน้ากับยอดเขาดับสูญแต่อย่างใด ในนิกายมียอดเขาตั้งมากมาย หากพูดถึงยอดเขาที่เชี่ยวชาญวิชามายา ก็มีแค่ยอดเขาเลื่อนลอยกับยอดเขาดับสูญเท่านั้น และหลัวหยวนผู้ควบคุมยอดเขาดับสูญผู้นี้ ก็ได้ชื่อว่าผู้ฝึกฝนวิชามายาระดับแก่นแท้คนแรกของนิกายยอดบริสุทธิ์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่ว่านางก็เพิ่งได้เจอเป็นครั้งแรก

“ศิษย์หลานไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้” ขณะที่ชายวัยกลางคนพูดออกมา สายตาก็สังเกตดูเจียหลานไปด้วย จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยด้วยแววตาชื่นชม

ตั้งแต่เจียหลานเดินเข้ามา ชายหนุ่มชุดผ้าแพรที่ยืนอยู่ด้านหลัง ไม่ได้ละสายตาไปจากนางเลยแท้แต่น้อย ภายในระยะห่างอันใกล้เช่นนี้ แววตาของเขาก็เร่าร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

ดูเหมือนว่าเจียหลานจะรับรู้ได้ถึงแววตาเร่าร้อนของอีกฝ่าย คิ้วงดงามของนางยกขึ้นเล็กน้อย แววตาดูไม่พอใจอยู่ลางๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ทางสีหน้าแต่อย่างใด

“เจียหลาน นั่งลงด้านนี้เถอะ!” อวี้อินจื่อก็มองเห็นแววตาของชายหนุ่มชุดผ้าแพรเช่นกัน นางจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ทันใดนั้นก็เรียกให้ศิษย์ตัวเองมาอยู่ด้านข้าง

ชายหนุ่มชุดผ้าแพรเห็นเช่นนี้ ก็ละสายตาออกมาด้วยสีหน้าเหยเก และยืนอย่างเรียบร้อย

“ไม่ทราบว่าอาจารย์กับอาจารย์อาเรียกศิษย์มามีธุระอันใดหรือ?” เจียหลานเดินมาถึงด้านข้างอวี้อินจื่อ แต่ไม่ได้นั่งลงไป เพียงแค่เอ่ยปากถามเบาๆ เท่านั้น

อวี้อินจื่อรีบประคองนางให้ลุกขึ้นมา และกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“เอาล่ะ! อาจารย์ไม่ได้คิดที่จะตำหนิเจ้า แต่ว่าการฝึกฝนคู่เป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นต้องรอบคอบให้มาก”

หลัวหยวนเห็นเช่นนี้ ก็ทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แม้แต่สถานะระดับเขาก็ดูเหมือนจะไม่อาจพูดอะไรมากได้

“ศิษย์น้องเจียหลาน ในเมื่อเจ้ากับหลิ่วหมิงยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ อีกทั้งเจ้ายังไม่เคยเปิดเผยสถานะคู่รักฝึกฝนต่อหน้าผู้อื่น ถ้าอย่างนั้นก็ไม่อาจถือเป็นเรื่องจริงได้ ในโลกของการฝึกฝน ผู้ฝึกฝนชายหลายคนตามจีบผู้ฝึกฝนหญิงคนเดียว นับว่าเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยมาก ข้าคงยังมีโอกาสสู่ขอเจ้ากับอาจารย์อาอวี้อินจื่ออยู่” ชายหนุ่มชุดผ้าแพรที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยปากในฉับพลัน

“ไม่ผิด! อันเอ๋อร์กล่าวได้มีเหตุผล” หลัวหยวนพยักหน้าด้วยตาที่เป็นประกาย

“อันนี้……” อวี้อินจื่ออ้ำอึ้งไปในทันที

“ศิษย์พี่อวี้อินจื่อ ศิษย์น้องกับลูกศิษย์มาด้วยใจจริง ศิษย์พี่คงไม่ให้แม้แต่โอกาสหรอกนะ”

หลัวหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม โดยที่ไม่รอให้อวี้อินจื่อพูดอะไรออกมา

“ได้ยินมาว่าช่วงนี้ศิษย์พี่ติดอยู่ที่คอขวดระดับแก่นแท้ขั้นกลาง ไม่อาจทะลวงได้สำเร็จ ในมือศิษย์น้องมีคัมภีร์ฮ่วนซินอยู่เล่มหนึ่ง เป็นข้อคิดประสบการณ์ที่ผู้อาวุโสฮ่วนซินทิ้งไว้ในปีนั้น ข้าบังเอิญโชคดีจึงได้มันมา เชื่อว่าคงจะช่วยศิษย์พี่ทะลวงระดับได้”

“คัมภีร์ข้อคิดประสบการณ์ของผู้อาวุโสฮ่วนซิน……” อวี้อินจื่อมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก มีและความประหลาดใจในแววตาเล็กน้อย

พูดถึงผู้อาวุโสฮ่วนซิน นับว่าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยอดบริสุทธิ์ผู้หนึ่งเมื่อหมื่นกว่าปีมาแล้ว การฝึกฝนของเขาลึกล้ำจนยากจะคาดเดาได้ เล่าลือกันว่าได้บรรลุถึงระดับสูงสุดของระดับดาราพยากรณ์แล้ว ขาดเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์

แต่ก่อนคนผู้นี้ปรากฏตัวในยอดเขาดับสูญ ซึ่งชำนาญวิชามายา และค่ายกล แต่ว่าต่อมาได้ออกไปนอกนิกายยอดบริสุทธิ์ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งนางเป็นถึงผู้อาวุโสของยอดเขา ย่อมเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

และข้อคิดประสบการณ์ของผู้อาวุโสฮ่วนซิน มีความสำคัญต่อการฝึกฝนวิชามายาของอวี้อินจื่อที่ติดคอขวดเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่อวี้อินจื่อเท่านั้น เมื่อเทียนอินซ่างเหรินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลักได้ยินคำว่า ‘คัมภีร์ฮ่วนซิน’ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

พอเจียหลานมองเห็นสีหน้าของทั้งสอง ใบหน้าของนางก็ซีดขาวเล็กน้อย

“อ้อ! ใช่แล้ว! ศิษย์น้องยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้พูด เหวินอันเป็นทายาทสายตรงของผู้อาวุโสเวินเกอที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดในนิกายเรา และท่านก็ค่อนข้างให้ความสนใจเรื่องการสู่ขอในครั้งนี้มาก” พอหลัวหยวนเห็นสีหน้าของทั้งสาม ก็ดูเหมือนจะรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นก็พูดข่าวสำคัญออกไป

………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา