หลิ่วหมิงได้ยิน ในใจพลันสะท้าน
ใบหน้างามของเซียนหงส์ดำกลับเคร่งขรึมลง ดูท่าสิ่งที่เผิงเยวี่ยพูด คงจะถูกต้องแปดถึงเก้าในสิบส่วน
ชายหนุ่มชุดดำกลับไม่สนใจที่เผิงเยวี่ยตะโกนเปิดโปงที่มาวิชาของเขาสักนิด ตรงกันข้ามกลับหัวเราะบ้าคลั่ง ก่อนหน้าที่เงาฝ่ามือหมีสีเทาจะร่วงลงมา หนึ่งดัชนีก็จี้ใส่อากาศอีก
เสียงพรวดดังขึ้น
รอบฝ่ามือยักษ์สีเทาแสงสีเทาฉับพลันรวมเข้าด้วยกัน ลวดลายจิตวิญญาณสีแดงสดเห็นชัดเจนตัวแล้วตัวเล่าปรากฏขึ้นเลือนราง ดูไปแล้วประหลาดยิ่งนัก
หลิ่วหมิงคิ้วขมวดเล็กน้อย เช่นเดียวกับที่ในใจเกิดความรู้สึกประหลาด ทว่าเงาฝ่ามือหมีเพียงชั่วครู่ก็มาถึงตรงหน้า ในตอนนั้นไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดเพิ่ม เขาตวาดก้องคำหนึ่ง เสียงมังกรคำรามก้องฟ้าก็ดังขึ้นพร้อมกัน มังกรหมอกสีดำห้าตัวพุ่งขึ้นฟ้าจากหลังร่างเขา หลังเลื้อยวนกลางอากาศรอบหนึ่ง ทั้งห้าตัวก็รวมเป็นหนึ่งกลายเป็นมังกรหมอกสีดำยาวสามสี่สิบจั้งหนึ่งตัว
สองตาของมังกรเปล่งประกายเจิดจ้า มันสะบัดกรงเล็บทั้งคู่ด้านหน้า ปากอ้ากว้างพุ่งเข้าใส่ฝ่ามือยักษ์สีดำ
ภาพแปลกประหลาดภาพหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
ชั่วพริบตาที่มังกรหมอกมหึมาซึ่งดูทรงพลังเกรี้ยวกราดแตะถูกฝ่ามือหมีสีเทา เสียงปังทีหนึ่งก็ดังขึ้น ถูกโจมตีทีเดียวก็พังทลายกลายเป็นปราณสีดำสายแล้วสายเล่าทั่วท้องฟ้าเสมือนไม่มีกำลังต้านทานสักนิด
เซียนหงส์ดำเห็นสถานการณ์ บนใบหน้าพลันเผยสีหน้ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นนิดๆ
เผิงเยวี่ยเห็นสถานการณ์เช่นนี้ สีหน้ากลับเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ทว่าแม้หลิ่วหมิงจะอึ้งอยู่บ้างเช่นกัน แต่เขาก็ไม่มีท่าทางคล้ายจะหลบหลีกสักนิด ทว่าสองมือพลันกำเป็นหมัด ปากเอ่ยคำว่า “ระเบิด” ออกมาเบาๆ
ปราณดำที่กระจายอยู่ทั่วทั้งท้องฟ้าชั่วพริบตากลายเป็นแสงสีดำประหลาดสายแล้วสายเล่ามากมายพุ่งผ่านฝ่ามือยักษ์ไป เพียงชั่วครู่ก็ทิ้งรูเล็กจิ๋วนับไม่ถ้วนไว้ด้านบน
เสียงปุ้งดังขึ้นทีหนึ่ง เงาฝ่ามือหมีมหึมาพร่าเลือนทีหนึ่งก็พังทลายสลายไป
เซียนหงส์ดำเห็นภาพนี้ สีหน้ายินดีบนใบหน้าพลันชะงักค้างฉับพลันกลายเป็นย่ำแย่อยู่บ้าง
เผิงเยวี่ยกลับพรูลมหายใจยาวทีหนึ่ง ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด หลิ่วหมิงที่มีสีหน้าเคร่งขรึม ก็หมุนร่างกายประหนึ่งสายฟ้าแลบ ฟันหนึ่งฝ่ามืออกมาจากด้านหลังร่างโดยพลัน
เงาหมัดสีดำหมัดหนึ่งก่อตัวขึ้น หลังส่งเสียงหนักๆ ทีหนึ่งก็ปะทะเข้ากับบางสิ่งกลางอากาศ
สายลมแรงสีดำรุนแรงสายหนึ่งกระจายไปรอบด้าน เงาหมัดแตกสลายพร้อมเกิดเสียงดังสนั่น
พี่ชายของเซียนหงส์ดำผู้นี้ไม่รู้ใช้วิธีการใดส่งการโจมตีครั้งที่สามออกมาอย่างเงียบเชียบ ทั้งยังหลบเร้นมาทางด้านหลังของร่างหลิ่วหมิงได้อย่างน่าประหลาดจากนั้นก็ส่งการโจมตีกะทันหัน
หลิ่วหมิงหมุนตัวอีกครั้ง เขามองไปทางชายหนุ่มชุดดำ เอ่ยขึ้นพร้อมสายตาเย็นเยียบว่า
“เป็นการโจมตีล่องหนที่ดี นี่ก็เป็นวิชาลับของเก้าปีศาจร้ายจำแลงด้วยหรือ?”
หากไม่ใช่พลังจิตของเขาเหนือกว่าคนระดับเดียวกันอยู่มาก เกรงว่าคงสัมผัสการโจมตีประหลาดเช่นนี้ของชายหนุ่มชุดดำไม่ได้เหมือนกัน
เวลานี้สีหน้าตื่นเต้นบนใบหน้าของชายหนุ่มชุดดำหายไปแล้ว กลับกันเขาเผยสีหน้าประหลาดใจจางๆ ออกมา เขาไม่ได้ลงมือต่อ หลังมองหลิ่วหมิงที่นิ่งเงียบอยู่นาน ฉับพลันก็หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า
“สหายหลิ่วเก่งกาจไม่ธรรมดาจริงๆ มู่หรงเซวี่ยเยวี่ยได้รับการสั่งสอนแล้ว วันนี้พวกเราเพิ่งเข้าแดนลึกลับประตูสวรรค์มาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนสู้ศึกใหญ่กันเดี๋ยวนี้ วันเวลายังอีกยาวไกล หนี้เก่าของน้องเล็กรอวันหลังค่อยสะสางเถอะ น้องเล็ก พวกเราไป”
ชายหนุ่มชุดดำเด็ดขาดฉับไว เอ่ยจบพลันส่งสายตาให้เซียนหงส์ดำที่อยู่ไม่ไกล รอบร่างแสงสีดำม้วนออกมากลายเป็นลูกบอลแสงลูกหนึ่งลอยขึ้นฟ้าไปทันที
เซียนหงส์ดำได้ยินดังนั้น สีหน้ามืดครึ้มเปลี่ยนไปมาพักหนึ่ง ทว่าหลังมองหลิ่วหมิงอย่างเคียดแค้นทีหนึ่งแล้ว ท้ายที่สุดก็ยังคงกระทืบเท้าทีหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้าไป
ชั่วพริบตาทั้งสองคนก็กลายเป็นลำแสงสีดำสองสายแหวกท้องฟ้าจากไปอีกครั้ง ลำแสงกะพริบวูบไหวไม่กี่ทีก็หายไปจากสายตาของหลิ่วหมิงอย่างสิ้นเชิง
หลิ่วหมิงมองทิศทางที่ทั้งสองคนหายไปด้วยแววตาสั่นไหวเล็กน้อย ไม่มีความคิดที่จะไล่ตามไปเลยสักนิด
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณพี่หลิ่วอย่างยิ่งจริงๆ ที่ลงมือช่วยเหลือ!” เวลานี้เผิงเยวี่ยทั้งตกตะลึงทั้งยินดีระคนกัน หลังก้าวเร็วเข้ามาก็ประสานมือเอ่ยขอบคุณหลิ่วหมิงอย่างซาบซึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา