ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 786

ตอนที่ 786 ดินแดนแห่งมรดก
โดย
Ink Stone_Fantasy
การเคลื่อนไหวของนักรบเกราะสำริดสิบกว่าตัวดูแล้วเชื่องช้าอย่างยิ่ง แต่ความจริงก้าวเดียวก็ก้าวออกมาไกลหลายจั้ง หมัดยักษ์เหวี่ยงทีหนึ่งก็มีปีศาจหมาป่าหลายตัวเลือดสาดทันที

เป็นเช่นนี้ไม่ถึงครึ่งเค่อ ปีศาจหมาป่านับร้อยตัวก็ถูกสังหารจนหมด บนพื้นชั่วพริบตาเลือดนองเป็นสายน้ำ เศษขาขาดเต็มไปหมด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งแสบจมูก

บุรุษชุดน้ำเงินร่อนลงมาจากบนรถเหาะอย่างไม่รีบไม่ร้อน เขาไม่รู้สึกแย่กับเลือดและศพเต็มพื้น เดินช้าๆ ทีละก้าวเข้าไปในดงพุ่มไม้ผืนน้อยที่ฝูงหมาป่าปกป้องอยู่

ส่วนนักรบเกราะสำริดสิบกว่าตัวเวลานี้กลับยืนล้อมวงตั้งท่าป้องกันดงพุ่มไม้ ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่กับที่

บุรุษชุดน้ำเงินยืนอยู่หน้าดงพุ่มไม้ แขนเสื้อสะบัดเบาๆ ทีหนึ่ง ดงพุ่มไม้ก็ถูกพลังล่องหนสายหนึ่งแหวกออกจนเผยทางเส้นหนึ่ง

เขาเห็นสิ่งนี้ก็ไม่พูดพร่ำอีกยกเท้าก้าวเข้าไป

หลังชั่วจิบชาหนึ่งถ้วย เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง กลางหว่างคิ้วก็ปรากฏความยินดีจางๆ ในมือมีหญ้าจิตวิญญาณสีดำสนิทต้นหนึ่งเพิ่มขึ้นมา แต่ละใบล้วนมีจุดสีขาวสามจุด แผ่ไอเย็นยะเยือกทิ่มแทงกระดูกออกมา

“ถึงกับเป็นหญ้าแสงทมิฬอายุสามพันปี ดูท่าแล้วไม่ได้เหนื่อยเสียเปล่า” บุรุษชุดน้ำเงินพูดกับตนเองอย่างยินดีแล้วเก็บหญ้าจิตวิญญาณในมือไป

ไม่นานนักท่ามกลางเสียงฝีเท้าของอาชา รถเหาะสีเงินก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งไปด้านหน้าต่อ

……..

บนยอดเขามหึมาสูงหลายพันจั้งลูกหนึ่ง ณ ยอดเขามีต้นไม้โบราณสูงเทียมฟ้าต้นหนึ่งอยู่ เกือบครึ่งของต้นไม้ยักษ์ถูกเมฆขาวชั้นแล้วชั้นเล่าล้อมอยู่ตรงกลาง

กลางกลุ่มเมฆสีขาวเสียงร้องแหลมแสบแก้วหูเสียงหนึ่งฉับพลันดังออกมา หลังกลุ่มเมฆม้วนตลบรุนแรงวูบหนึ่งก็เกิดเป็นวังวนอากาศมหึมาลูกแล้วลูกเล่า

บนยอดต้นไม้ยักษ์มีรังนกสีดำสนิทมหึมารังหนึ่ง ศพวิหคยักษ์สีขาวโพลนทั้งร่างตัวหนึ่งนอนนิ่งไม่กระดิกอยู่ด้านในรังนก แต่ช่วงท้องเห็นชัดว่าแหวกออกเป็นรูใหญ่รูหนึ่ง เลือดกำลังไหลออกมาไม่หยุด สภาพคล้ายเพิ่งถูกสังหารไม่นาน

ส่วนอีกด้านหนึ่งของรัง บุรุษเส้นผมม่วงทั้งศีรษะผู้มีปากกว้างจมูกราชสีห์คนหนึ่งกำลังก้มตัวลง ค้นหาบางอย่างอยู่ในรังไม่หยุด

ทันใดนั้นเสียงปังทีหนึ่งก็ดังขึ้น ศพของวิหคยักษ์ถูกเขาคว้าติดมือขึ้นมาแล้วโยนลงไปด้านล่าง ทำให้เมฆสีขาวรอบด้านไหวกระเพื่อมไปพักหนึ่ง

หลังเขายืดตัวขึ้นช้าๆ ในดวงตาก็เต็มไปด้วยแววตาตื่นเต้น ในมือเห็นชัดว่ามีเศษแผ่นค่ายกลเก่าแก่ชิ้นหนึ่งเพิ่มขึ้นมา

“เดาไม่ผิดจริงๆ นกหลิงกู่ตัวนี้ร้ายกาจเช่นนี้แต่ในรังไม่มีวัตถุจิตวิญญาณอื่นที่เห็นได้ชัด ที่นี่ซ่อนเศษมรดกชิ้นหนึ่งไว้อย่างที่คิด” บุรุษผมม่วงเอ่ยด้วยสีหน้ายินดี ใช้เคล็ดวิชาใส่เศษชิ้นส่วนแผ่นค่ายกล

หลังแผ่นค่ายกลส่งเสียงฮึมๆ พักหนึ่ง แสงสีทองเรืองรองแถบหนึ่งก็ปรากฏขึ้น แผนที่ฉายออกมากลางอากาศ จุดแสงสีทองจุดหนึ่งกะพริบบนนั้นไม่หยุด

บุรุษผมม่วงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ หลังเก็บแผ่นค่ายกลไปเขาก็ใช้เคล็ดวิชาด้วยมือเดียว แสงดาวกลุ่มหนึ่งล้อมร่างของตนไว้ ชั่วพริบตาออกจากรังนกแหวกท้องฟ้าจากไป

……

ในหุบเขาเงียบสงบสีดำสนิทแห่งหนึ่ง ลำแสงสายหนึ่งเหาะเร็วรี่ออกมาจากด้านใน แสงรัศมีสว่างวูบหนึ่งก็กลายเป็นร่างของสตรีผมเงินของหอเป๋ยโต่ว

“คิดไม่ถึงว่าจะเสียเวลามากเช่นนี้ หลี่ว์เหมิงด้านนั้นน่าจะหาพบแล้วกระมัง ข้าก็ต้องรีบหน่อยแล้ว” คิ้วงามของสตรีผมเงินขมวดเล็กน้อยพลางเอ่ยพึมพำกับตัวเอง บนหน้าเผยสีหน้าระมัดระวังออกมา

เมื่อมือข้างหนึ่งสะบัด หญิงสาวก็กลายเป็นลำแสงเส้นหนึ่งมุ่งไปด้านนอกหุบเขาอีกครั้ง

ลึกเข้าไปในหุบเขาด้านหลัง ศพวานรสีครามขนาดมหึมาหลายสิบตัวนอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น

บนศพแต่ละร่างไม่มีส่วนใดเสียหายเลยสักนิด กระทั่งขนก็ไม่สกปรกยุ่งเหยิง มีเพียงตรงหน้าอกที่เปิดออกเป็นรูเลือดขนาดใหญ่ยักษ์รูหนึ่ง ปราศจากหัวใจ

……

หลิ่วหมิงกับเผิงเยวี่ยสองคนเร่งเดินทางไปพลาง รวบรวมสมบัติฟ้าดินระหว่างทางไปพลาง ด้วยพลังอันไม่ธรรมดาของทั้งสองคน ตลอดทางไม่เพียงไม่พบอันตราย ของที่ได้มาก็มากอย่างที่สุด

เผิงเยวี่ยผู้นี้ค่อนข้างคุยเก่ง เนื่องจากงานประตูสวรรค์ครั้งที่แล้วนิกายของพวกเขาได้อันดับหนึ่ง ข่าวสารที่ได้รับเทียบกับนิกายยอดบริสุทธิ์แล้วย่อมมีแต่มากกว่าไม่มีน้อยกว่า นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความลับของนิกายบางเรื่องแล้ว เขาก็ไม่ปิดบังสิ่งใดกับหลิ่วหมิง

เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างเร็วไว ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงเบื้องหน้าทะเลสาบมหึมาแห่งหนึ่งตามคำบอกของเศษแผ่นค่ายกล

ทอดสายตามองไป ทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดกว้างถึงหลายพันลี้ มองไม่เห็นขอบอย่างสิ้นเชิง น้ำในทะเลสาบก็ขุ่นอย่างยิ่งประหนึ่งเต็มไปด้วยโคลนทราย แล้วยังส่งกลิ่นประหลาดจางๆ สายหนึ่งออกมาอีก

หลิ่วหมิงครุ่นคิด จากนั้นเร่งเมฆดำใต้เท้าให้ร่อนลงบนผิวทะเลสาบช้าๆ เขายื่นมือกวักทีหนึ่งดึงน้ำทะเลสาบสายหนึ่งมาวางไว้ใต้จมูกดมอย่างละเอียด กลิ่นฉุนแสบจมูกสายหนึ่งฉับพลันอบอวลเต็มจมูกของเขา

ขณะที่สองคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ผืนน้ำใต้เท้าเขาฉับพลันกระเพื่อมรุนแรงระลอกหนึ่ง เสียงซ่าดังขึ้นพร้อมกับที่หยดน้ำสาดกระจายรอบด้าน หัวปลายักษ์สีดำสนิทหัวหนึ่งโผล่ออกมาจากน้ำ ปากกว้างสีแดงดุจโลหิตเต็มไปด้วยฟันขาวน่ากลัวขนาดเท่านิ้วมือเรียงเป็นแถวๆ ดวงตาเผยประกายดุร้ายกัดเข้าที่น่องของเขา

“น้ำทะเลสาบที่นี่ประหลาดอยู่บ้าง ไม่ทราบว่าพี่เผิงรู้จักที่นี่มาก่อนไหม?” หลิ่วหมิงไม่มองใต้เท้า เขางอนิ้วดีดทีหนึ่งอย่างสบายๆ ปราณกระบี่เกลียวสีทองจางๆ สองสายฉับพลันปรากฏออกมา สายหนึ่งในนั้นโจมตีทะลุหัวปลาประหลาดที่กระโจนเข้ามาทันที ส่วนอีกสายหนึ่งพุ่งลงไปที่ก้นทะเลสาบซึ่งห่างไปสองสามจั้งกว่าๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา