ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 800

สรุปบท ตอนที่ 800 วิชาเนตร: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

สรุปตอน ตอนที่ 800 วิชาเนตร – จากเรื่อง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

ตอน ตอนที่ 800 วิชาเนตร ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 800 วิชาเนตร
สตรีชุดเขียวตะลึงเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มเย็นชา ดวงเนตรทั้งคู่ที่เดิมทีมีสีแดงฉานฉับพลันเปลี่ยนสี เป็นแสงสีเขียวสว่างเจิดจ้า

หลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งเห็นแมงป่องพิษ เขารีบรั้งหมัดกลับ ร่างกายพร่าเลือนวูบหนึ่งพุ่งถอยหลังกลับไป

ทว่าแสงสีเขียวในดวงตาหญิงสาวเพียงเจิดจ้าขึ้นหนึ่งเท่ากว่า จ้องหลิ่วหมิงที่อยู่ไกลออกไปเขม็ง

ในเวลาเดียวกันหลิ่วหมิงก็รู้สึกว่าเบื้องหน้าดับมืด ทุกสิ่งรอบด้านกลายเป็นเลือนราง

เสียงไหลเร็วรี่ดังขึ้น สายธารสีดำมโหฬารสายหนึ่งฉับพลันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าสูง กลิ่นอายห้วงอเวจีถาโถมเข้ามาหาหลิ่วหมิง

“ธารายมโลก!”

หลิ่วหมิงมองสายน้ำสีดำที่ไหลถาโถมอยู่ในแม่น้ำ สองตาพร่ามัวเล็กน้อยชั่วขณะ หลุดเสียงออกมาประโยคหนึ่งโดยไม่ทันคิด

ทว่านาทีต่อมาเขาได้สติแล้วส่ายศีรษะ จากนั้นกัดลิ้นทีหนึ่งในทันใด ตอนนี้ถึงมองเห็นภาพตรงหน้าชัด

กลางปราณสีเขียวที่ล้อมวนอยู่มีธารน้ำสีดำอันใดที่ไหน นั่นเป็นประกายแสงสีดำมากมายถี่ยิบก้อนหนึ่งพุ่งเร็วจี๋บินตรงมาที่หัวใจของเขาต่างหาก

ความเร็วของประกายแสงสีดำทำให้หลิ่วหมิงคิดจะหลบหรือใช้วิชาลับอื่นใดต่อต้านก็ไม่ทันกาล

แม้เขาไม่รู้ว่าประกายแสงสีดำนี่คือสิ่งใด แต่เขาตระหนักดีว่าไม่อาจให้มันแตะถูกร่างกายได้เด็ดขาด เขาคิดก็ไม่คิดอ้าปากพ่นลมพายุรุนแรงสายหนึ่งออกมาทำให้ประกายแสงสีดำที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือชะงักไปชั่วขณะ

เสียงฟู่ดังขึ้นทีหนึ่ง

หลิ่วหมิงอาศัยจังหวะหน่วงช้าชั่วครู่นี้ ร่างกายเปล่งแสงสีเงินสว่างจ้า เกราะหนังสีเงินชิ้นหนึ่งฉับพลันปรากฏออกมา

เสียงชือๆ พักหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่ประกายแสงสีดำพุ่งโจมตีลงบนเกราะชิ้นนี้ ทันใดนั้นหมอกสีดำสายหนึ่งก็ลอยขึ้นมา กลิ่นเปรี้ยวสายหนึ่งกระจายออกมา

เสียงแหวกอากาศดังขึ้นไม่ไกล มีประกายแสงสีดำอีกก้อนหนึ่งโจมตีมาประหนึ่งสายฟ้าแลบอีกหน

ครั้งนี้ร่างกายของหลิ่วหมิงพร่าเลือนวูบหนึ่งกลายเป็นเงาเลือนสีน้ำเงินสามร่างแยกย้ายพุ่งถอยหลังไปทันที

เสียงฟู่ๆ ดังขึ้น!

เงาเลือนร่างสีน้ำเงินสองร่างถูกประกายแสงสีดำโจมตีทีเดียวสลายไป!

ร่างต้นของหลิ่วหมิงอาศัยจังหวะนี้สะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง กระบี่น้อยสีทองเล่มหนึ่งพุ่งเร็วรี่ออกมา หลังพร่าเลือนวูบหนึ่ง เงากระบี่สีทองมากมายถี่ยิบก็ซัดออกมา ชั่วพริบตากลายเป็นม่านกระบี่ปกป้องทั้งร่างไว้

ประกายแสงด้านหลังโจมตีลงบนม่านกระบี่ เสียงแผ่วเบาระลอกแล้วระลอกเล่าดังขึ้นต่อเนื่อง แต่ทันใดก็กลายเป็นปราณดำสายแล้วสายเล่าหายไปท่ามกลางแสงกระบี่เย็นเยียบ ไม่อาจทำอันใดม่านกระบี่ได้สักนิด

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้พลันกู่ร้องยาว มือข้างหนึ่งทำท่าเคล็ดวิชา จิตกระบี่มโหฬารที่ยากจะบรรยายสายหนึ่งฉับพลันพุ่งจากบนร่างขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกันนั้นม่านกระบี่พลันส่องสว่างเจิดจ้ากลายเป็นแสงเย็นเยียบผืนใหญ่ซัดบ้าคลั่งสี่ด้านแปดทิศ

เสียงสนั่นสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น!

แสงสีทองหมื่นจั้งพุ่งขึ้นฟ้า ระเบิดพลังงานบางอย่างที่ล้อมอยู่ชั้นแล้วชั้นเล่ากระจายออกไป

หลังปราณกระบี่ดับหายไป เงาร่างที่ถือกระบี่ของหลิ่วหมิงก็ปรากฏขึ้นที่เดิมอีกหน เขามองสตรีฝั่งตรงข้ามด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ในมือสตรีคนนี้เห็นชัดว่ามีพู่กันสีดำสนิทประหนึ่งหยกด้ามหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ด้ามพู่กันมีลวดลายจิตวิญญาณสีทองบางละเอียดประหนึ่งเส้นผมอยู่เลือนราง ตรงปลายพู่กันมีแสงสีดำวิบวับไม่หยุด ประกายแสงสีดำก้อนแล้วก้อนเล่านั่นพุ่งเร็วรี่ออกมาจากตรงนี้เอง!

พลังประกายเนตรสีเขียวของหญิงสาวหลอกลวงจิตใจได้ ส่วนประกายแสงสีดำพลังไร้ขอบเขต สองอย่างประสานกันเรียกได้ว่าไร้ช่องโหว่!

หลิ่วหมิงก้มศีรษะมองรอยบาดสีเขียวแถบใหญ่ที่หวุดหวิดจะทะลวงทะลุเสื้อเกราะตรงหน้าอก ในใจหวาดกลัวตามหลังพักหนึ่ง

หากไม่ใช่พลังจิตของเขาเหนือกว่าผู้ฝึกฝนระดับเดียวกันอยู่ไกล ผนวกกับเขากระตุ้นวิชาขี่กระบี่ทำลายภาพลวงตาของวิชาเนตรทันเวลา เกรงว่าคงประสบเคราะห์จากมืออีกฝ่ายจริงๆ

สตรีชุดเขียวไม่เพียงครอบครองเนตรจิตวิญญาณประหลาดบางอย่าง อาวุธจิตวิญญาณในมือก็เป็นระดับต้นแบบอาวุธเวท พลังโดยรวมอยู่ในสิบอันดับแรกของงานประตูสวรรค์ครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน ดูท่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นศิษย์ตัวเก็งในงานประตูสวรรค์ครั้งนี้ของสำนักเฮ่าหราน

เวลานี้สตรีชุดเขียว มือข้างหนึ่งถือพู่กัน หน้าอกพองยุบเล็กน้อย เห็นชัดว่าเมื่อครู่ใช้อาวุธจิตวิญญาณรวมถึงวิชาลับเนตรจิตวิญญาณต่อเนื่องคงกินพลังจิตและพลังเวทของนางไปมาก

นางเห็นหลิ่วหมิงทำลายวิชาเนตรจิตวิญญาณของตนได้รวดเร็วเช่นนี้ บนหน้าก็อดไม่ได้เต็มไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ

หลิ่วหมิงคิดเร็วดั่งสายฟ้าแล้วตัดสินใจ เขาเก็บกระบี่บินสีทองในมือไป สองมือทำท่าเคล็ดวิชาปากเอ่ยท่องมนตร์ ไอหมอกสีดำพลุ่งพล่านปรากฏออกมาจากบนร่างไม่หยุด

นาทีต่อมามังกรหมอกสีดำห้าตัวกับพยัคฆ์ร้ายสีดำห้าตัวก็พาปราณดำพลุ่งพล่านออกจากแผ่นหลังเขาพุ่งขึ้นฟ้า พวกมันแยกเขี้ยวกางกรงเล็บ คำรามใส่สตรีชุดเขียวอย่างพร้อมเพรียง

ทว่าโดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น กลางปราณดำพลุ่งพล่านนี้ยังมีแสงสีเขียวจางๆ จุดหนึ่งแทรกอยู่ด้วย

ในดวงตาสตรีชุดเขียวฉายประกายเย็นเยียบจางๆ มือหนึ่งทำเคล็ดวิชา ส่วนพู่กันหยกสีดำในมืออีกข้างหนึ่งสะบัดกลางอากาศอย่างไม่รีบไม่ช้า ขณะที่วาดพู่กันป้ายหมึกจนทำให้คนตาลายพักหนึ่งนั้น ประกายแสงสีดำหลายก้อนก็ทยอยรวมตัวกันปรากฏออกมาตรงที่ปลายพู่กันของนางลากผ่าน จากนั้นประจันเข้าใส่มังกรหมอกพยัคฆ์หมอกที่พุ่งเข้ามา

เสียงปังๆ ดังขึ้นต่อเนื่อง!

เด็กน้อยชุดเขียวเก้าคนส่งเสียงหัวเราะประหลาด เริ่มวิ่งวนหน้าร่างหญิงสาวอย่างเร็วไว แล้วยังอ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีเทาแถบแล้วแถบเล่าออกจากปากโถมเข้าใส่หน้าของหญิงสาวเป็นระยะ

แววตาของหญิงสาววูบไหวพักหนึ่ง มือที่ถือพู่กันหยกสีดำพลันขยับไวว่อง ทันใดนั้นประกายแสงสีดำที่เล็กกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อยมากมายก็พุ่งเร็วรี่ออกมา ขวางการโจมตีของเปลวเพลิวสีเทาไว้ได้ทั้งหมด

ทว่าระหว่างที่ประมือกันครานี้ เด็กน้อยชุดเขียวเก้าคนกลับล้อมเป็นวงหดเข้ามาใกล้ขึ้นเกือบครึ่งอย่างเงียบเชียบ

“แกว๊ก! แกว๊ก! ลงมือ!” เด็กน้อยชุดเขียวที่อยู่ใกล้สตรีชุดเขียวมากที่สุดฉับพลันตวาดเสียงดังคำหนึ่ง

เด็กน้อยชุดเขียวเก้าคนใช้เคล็ดวิชาพร้อมกัน พวกเขาพ่นเปลวเพลิงสีเทาสายแล้วสายเล่าออกมาใส่สตรีชุดเขียวที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางอย่างพร้อมเพรียง…

พร้อมกับที่เด็กทั้งหลายพ่นอย่างบ้าคลั่ง เปลวเพลิงสีเทาลุกโหมก็ผนึกเชื่อมต่อกันเป็นกำแพงไฟสีเทาสูงใหญ่ผืนหนึ่งในพริบตา หลังจากนั้นโถมทับเข้าไปหาหญิงสาวตรงกลาง พลังน่าตะลึงยิ่งนัก!

สตรีชุดเขียวเปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน นางถ่ายเทพลังเวททั้งร่างเข้าไปในพู่กันหยกสีดำสนิทในมือจากนั้นกวาดออกมาทันที บนกำแพงไฟสีเทาฉับพลันเกิดรอยประทับเห็นชัดเจนเส้นหนึ่งปรากฏขึ้น

เสียงฟู่ดังขึ้นทีหนึ่ง รอยประทับจางๆ ยังไม่ทันขยายกว้างก็ถูกเปลวเพลิงสีเทาที่เด็กน้อยชุดเขียวพ่นออกมาถมจนเต็ม

สตรีชุดเขียวเห็นภาพนี้ รูม่านตาพลันหดเล็กลง นางไม่กล้าออมมืออีกเสียงหวานตวาดออกจากปาก หลังพู่กันหยกในมือหมุนติ้วรอบหนึ่ง เส้นด้ายสีดำเส้นแล้วเส้นเล่าก็พรูออกมาจากความว่างเปล่าใกล้ๆ หลังถักทอส่องประกายพักหนึ่งก็กลายเป็นลูกบอลด้ายสีดำชั้นหนึ่งปกป้องนางไว้ด้านในอย่างแน่นหนา

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นหนึ่งหน

กำแพงไฟสีเทาชนลูกบอลด้ายจากสี่ด้านแปดทิศ แสงสีดำด้านในกะพริบวูบวาบ แรงสะท้อนมหาศาลดีดออกมาในทันใด

กำแพงไฟสั่นไหววูบหนึ่งแล้วดีดสะท้อนกลับไปเร็วยิ่งกว่าพลังตอนที่โถมเข้ามาก่อนหน้านี้

แม้เด็กน้อยทั้งเก้าจะไม่กลัวเปลวเพลิงที่ตนปล่อยออกมาแม้แต่นิด ทว่าภาพที่เหนือความคาดคิดเช่นนี้ก็ทำให้พวกเขาใช้เคล็ดวิชามือไม้เป็นพัลวัน

หญิงสาวอาศัยโอกาสนี้ ดวงเนตรทั้งสองฉายแสงสีแดงฉาน เปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงอีกครั้ง เปลวเพลิงพลุ่งพล่านฉายออกมาเลือนราง

เปรี้ยงๆ เสียงดังสนั่นหลายหนดังขึ้นต่อกัน

บนร่างเด็กน้อยทั้งเก้าคนเกิดแสงเปลวเพลิงขึ้นพร้อมกัน ถูกกลบอยู่กลางเปลวเพลิงร้อนแรงที่ลุกโหมจนมิด

พู่กันหยกในมือสตรีชุดเขียวสะบัดอีกหน ประกายแสงสีดำมากมายถี่ยิบปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังพุ่งเร็วรี่ออกไปสี่ด้านแปดทิศพร้อมกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา