เด็กน้อยแปดในเก้าคนถูกประกายแสงโจมตีสลายไปในทันใด เหลือเด็กน้อยเพียงคนเดียวพุ่งถอยออกมาจากเปลวเพลิงร้อนแรง หลังเขาสะบัดศีรษะ เส้นผมสีเขียวมากมายก็พุ่งเร็วรี่ออกมาโจมตีประกายแสงมากมายที่พุ่งเข้ามาหยุดไปชั่วครู่ เขาจึงฉวยโอกาสหลบพ้นการโจมตีอันตรายถึงชีวิตไป
ทว่าหญิงสาวกลับหัวเราะหยัน ประกายสีแดงฉานในดวงตาส่องสว่างอีกครั้ง
เสียงฟู่ดังขึ้นทีหนึ่ง
เหนือร่างเด็กน้อยชุดเขียวเปลวเพลิงลุกโหมเคลื่อนม้วน ลูกบอลเพลิงเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งจั้งกว่าลูกหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันพุ่งลงมาเสียงดังสนั่น เร็วจนเด็กน้อยไม่อาจหลบหลีกได้เลย
เวลานี้เองเสียงเปรี้ยงก็ดังขึ้น
ด้านข้างลูกบอลสีแดงมหึมาเงาคนสีน้ำเงินโผล่ออกมา แขนข้างหนึ่งขยับต่อยหนึ่งหมัดออกมาพร้อมเสียงพยัคฆ์คำราม
เงาหมัดหัวพยัคฆ์สีดำขนาดเท่าอ่างล้างหน้าฉับพลันทะลวงผ่านลูกบอลเพลิง โจมตีมันจนระเบิด
หญิงสาวหัวใจสั่นสะท้าน พู่กันหยกในมือขยับจะโจมตีต่อเนื่องใส่หลิ่วหมิงที่ปรากฏตัว ทว่าในเวลานี้เองเสียงคำรามพลันดังขึ้นจากแสงสีดำสี่ด้านแปดทิศ มังกรหมอกสีดำยาวสิบกว่าจั้งห้าตัวพุ่งโถมเข้ามาพร้อมกัน
หญิงสาวสีหน้าเย็นเยียบฉับพลันอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งออกมา หลังจิ้มพู่กันหยกในมือนิดหนึ่งก็วาดกลางอากาศอีกครั้ง แสงโลหิตส่องประกาย วงแหวนแสงรูปวงกลมสีแดงสดวงหนึ่งซัดออกไปสี่ด้านแปดทิศประหนึ่งดาบคมกริบในทันที
เสียงฟึบๆ ดังขึ้น
มังกรหมอกห้าตัวชั่วพริบตาถูกวงแหวนแสงสีโลหิตสะบั้นทีเดียวเป็นสองท่อน ทว่าเมื่อมันพุ่งมาถึงเบื้องหน้าหลิ่วหมิงกลับถูกหนึ่งหมัดของเขาต่อยกระจายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
สตรีชุดเขียวในใจสะท้าน มือข้างหนึ่งใช้เคล็ดวิชา ในดวงตาปรากฏแสงแดงฉานวูบวาบอีกครั้ง
ในเวลานี้เองบนหน้าหลิ่วหมิงกลับเผยสีหน้าประหลาดเล็กน้อยออกมากะทันหัน
แทบจะในเวลาเดียวกันตรงใต้เท้าของหญิงสาวเสียงชือๆ ก็ดังขึ้น หนวดสีดำหลายเส้นพุ่งออกมาจากความว่างเปล่าประหนึ่งสายฟ้าแลบ พวกมันโอบพันรัดครึ่งท่อนล่างของหญิงสาวไว้อย่างแน่นหนา หลังแสงรัศมีส่องประกายวูบหนึ่งก็กลายเป็นงูยักษ์สีดำหลายตัวพุ่งเข้ากัดศีรษะและลำคอของหญิงสาว
หญิงสาวตระหนก ดวงตาสีแดงฉานฉับพลันกวาดไปหางูยักษ์เหล่านั้นแทบจะโดยสัญชาติญาณ
เสียงเปรี้ยงๆ ดังขึ้น
หัวของูยักษ์สีดำเหล่านี้อยู่ดีๆ พลันมีเปลวเพลิงร้อนแรงลุกท่วมจากนั้นระเบิดออก ร่างงูที่เดิมทีรัดหญิงสาวไว้แน่นชั่วพริบตากลายเป็นแสงสีดำจุดแล้วจุดเล่าดับวูบหายไปกับความว่างเปล่า
“วิชามายา”
สตรีชุดเขียวตอนนี้ถึงเข้าใจ ร้องออกมาคำหนึ่งอย่างโกรธเกรี้ยว
หลิ่วหมิงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับใช้โอกาสนี้พลิกมือคว้าทีหนึ่งหิ้วเด็กน้อยชุดเขียวขึ้นมาขว้างไปข้างหน้าอย่างแรง จากนั้นขาข้างหนึ่งพลันกระทืบความว่างเปล่า ร่างกายพุ่งออกไปประหนึ่งศร
สตรีชุดเขียวรู้สึกเพียงเบื้องหน้ามีเสียงลมดังขึ้น เด็กน้อยกลืนคืนร่างต้นกลายเป็นศีรษะมหึมาเข้ามาใกล้ตรงหน้า เสียงหัวเราะประหลาดดังขึ้น เขาอ้าปากพ่นเปลวเพลิงดวงใหญ่ออกมา จากนั้นเส้นผมยาวทั้งศีรษะก็สะบัด เส้นผมสีเขียวมากมายถี่ยิบพุ่งเร็วรี่ตามออกมาติดๆ
หญิงสาวชุดเขียวคิดจะใช้วิชาเนตรต้านอีกครั้งแต่เห็นชัดว่าไม่ทันกาล นางได้แต่ยกพู่กันในมือขวางหน้าร่างด้วยความจนปัญญา พู่กันหยกหมุนติ้วจากนั้นม่านแสงสีดำชั้นหนึ่งพลันปรากฏออกมาขวางเบื้องหน้าไว้
เสียงเปรี้ยงดังขึ้นหนึ่งหน
เปลวเพลิงชั่วพริบตาก็ระเบิดออก เปลวเพลิงสีเทาโถมชนม่านแสงสีดำส่องแสงวูบวาบไม่หยุด ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านจากนั้นถอยหลังครึ่งก้าวอย่างเลี่ยงไม่ได้
ตอนนี้เองเส้นผมสีเขียวที่ตามมาทีหลังก็ปักรัวลงบนม่านแสงสีดำประหนึ่งฝนกระหน่ำ
ม่านแสงสีดำส่งเสียงครวญครางทีหนึ่งแล้วโงนเงนคล้ายจะล้มในทันใด
ทว่าอาศัยโอกาสนี้ ในที่สุดหญิงสาวก็ตั้งตัวได้ นางสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง ยันต์สีแดงฉานแผ่นหนึ่งพุ่งเร็วรี่ออกมา มันส่งเสียงดังเปรี้ยงแล้วระเบิดกลายเป็นเมฆสีแดง คลื่นสีแดงฉานซัดทีหนึ่งโถมกลบหัวบินที่อยู่ด้านหน้าจนหมดสิ้น
เวลานี้เองเสียง “มอ” พลันดังขึ้น วัวสีน้ำเงินมหึมาตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าเบื้องหน้าหัวบิน เมื่อมันอ้าปากกว้างหมอกแสงผืนใหญ่พลันพุ่งม้วนออกมา ชั่วพริบตาดูดเมฆอัคคีทั้งหมดเข้าไปเกลี้ยงในคราวเดียว
หญิงสาวตระหนกหน้าถอดสี นางกำลังคิดจะเรียกสมบัติอื่นออกมาอีก เงาวัวสีน้ำเงินมหึมากลับส่งเสียงดังเปรี้ยงแล้วพังทลายหายไป ร่างของหลิ่วหมิงปรากฏออกมาที่เดิม
หลิ่วหมิงพุ่งเข้ามาใกล้หญิงสาวเพียงเอื้อมมือแล้วแย้มยิ้มน้อยๆ ปราณดำบนร่างลุกโชนพุ่งออกมา ในร่างเสียงเปรี๊ยะดังระรัวพักหนึ่ง ร่างกายชั่วพริบตาขยายใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมกันนั้นใต้ชายโครงแสงสีน้ำเงินก็ส่องสว่างในทันใด แขนสีเงินอีกสองข้างงอกเพิ่มขึ้นมา
แขนสี่ข้างพร่าเลือนวูบหนึ่งพร้อมกัน ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง เงาหมัดสีดำมากมายถี่ยิบโถมคลั่งออกมาพุ่งเข้าใส่ฝั่งตรงข้ามประหนึ่งน้ำหลาก
เสียงเปรี้ยงดังสนั่น
ม่านแสงสีดำถูกเงาหมัดมากมายเช่นนี้กระหน่ำโจมตีเพียงเวลาหนึ่งถึงสองลมหายใจชั่วพริบตาก็ปริร้าวแตกกระจายประหนึ่งกระดาษ
“ข้ายอมแพ้”
เมื่อเห็นว่าเงาหมัดมากมายไม่มีสิ่งใดต้านทานอีกต่อไปและกำลังจะบดขยี้หญิงสาวแหลกไปด้วย สตรีชุดเขียวพลันหน้าซีดเผือดตะโกนเสียงดังว่า “ยอมแพ้”
คำว่า “แพ้” เพิ่งหลุดออกจากปาก แสงลี้ลับสีเขียวครามพลันปรากฏออกมาจากพื้นล้อมสตรีชุดเขียวไว้ จากนั้นร่างของนางก็หายวับไปจากที่เดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา