เสียงผีร้องโหยหวนแหลมสูงดังเป็นระยะออกมาจากคุกมืดสีเงินไม่ขาด ฟังแล้วชวนให้คนรู้สึกขนลุก
หลังเสียงผีโหยหวนหายไปก็ได้ยินเสียงปึงดังสนั่นหลายหนอีกพักหนึ่ง
พร้อมกับเสียงดังสนั่นนี้ คุกมืดสีเงินยวงก็เริ่มสั่นไหวไม่หยุด แสงสว่างสีดำเหลืองทะลวงออกมามากขึ้นทุกที
หลัวเทียนเฉิงเห็นเช่นนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี มือทั้งสองข้างรีบร้อนใช้เคล็ดวิชาใส่คุกมืดสีเงินหมายเสริมความแกร่งให้คุกมืด
“เปรี้ยง” เสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเสียงหนึ่งดังลอยมา!
เงาผีร้ายมหึมาตัวหนึ่งฉับพลันพุ่งแหวกกำแพงคุกมืดออกมาปรากฏตัวกลางท้องฟ้า
หลัวเทียนเฉิงถูกแรงสะท้อนจากที่คุกมืดถูกทำลาย ไม่เพียงกระอักเลือดคำหนึ่งดังพรูด สีหน้าฉับพลันก็ซีดขาวขึ้นไม่น้อย
หลิ่วหมิงใจสะท้าน เวลานี้บนลานหินเขียวคนผู้นั้นก็เรียกผีไม่ทราบนามตัวหนึ่งออกมาเช่นกัน เพียงแต่ยามนี้มองจากไกลๆ ถึงเห็นหน้าตาของมันกระจ่างชัดอย่างแท้จริง
บนศีรษะกลมใหญ่โตของเงาผีร้ายตัวนี้ไม่มีขนหรือเส้นผมใดๆ สัดส่วนไม่สมมาตรกับร่างกายอย่างที่สุด สองตาแดงก่ำขนาดเท่าโคมไฟจ้อมเขม็งที่หลัวเทียนเฉิง หลังร่างกายกำยำของมันยังมีหางสั้นหนายาวครึ่งจั้งเส้นหนึ่งติดอยู่ด้วย
ระหว่างที่ผีร้ายตัวนี้แหงนหน้ากู่ร้องเสียงประหลาดหลายครั้ง ปากกว้างสีแดงของมันก็อ้าหุบหลายหนสูดไอหมอกสีเงินที่อบอวลรอบด้านเข้าไปในปากจนหมด ภาพนี้ทำให้หลัวเทียนเฉิงกับหลิ่วหมิงที่อยู่ไกลออกไปล้วนพรั่นพรึง
เมื่อผีตัวนี้ดูดปราณหยินที่กระจายออกมาจากคุกมืดไป ร่างกายกับพละกำลังก็แข็งแกร่งขึ้นตามไม่น้อย ร่างกายฉับพลันยิ่งชัดเจนขึ้น
เงาผียิ้มเหี้ยมส่งเงากรงเล็บสีดำสนิทข้างหนึ่งเข้าใส่หลัวเทียนเฉิงในทันใด
หลังคุกมืดสีเงินถูกทำลาย หลัวเทียนเฉิงรู้สึกว่าเลือดลมปั่นป่วนไปวูบหนึ่ง ยามนี้เห็นเงาหมัดยักษ์สีดำสนิทข้างนี้จู่โจมมาจึงหน้าถอดสีอย่างห้ามไม่ได้ ได้แต่เรียกเกราะแสงสีเงินบางผืนหนึ่งตั้งขึ้นหน้าร่างอย่างฉุกละหุก
เสียงดัง “ปึง”
รอยกรงเล็บดำสนิทห้าสายโจมตีเกราะแสงสีเงินแตกสลายในทันใด จากนั้นโจมตีเข้าใส่กระดูกหน้าอกของเขาทันที
เสียง “แครก” ดังกังวาน!
ร่างกายของหลัวเทียนเฉิงประหนึ่งถุงกระสอบขาดๆ ลอยไปไกลและร่วงหล่นอย่างแรงตรงหน้าอกเห็นชัดว่ามีรอยกรงเล็บสีดำสนิทรอยหนึ่งเพิ่มขึ้นมา กระดูกหน้าอกไม่รู้ว่าแตกไปกี่ชิ้นแล้ว
หลัวเทียนเฉิงกัดฟันดิ้นรนลุกขึ้นมา เขาลูบหน้าอกเบาๆ พลางครางเสียงแผ่ว ปากก็กระอักน้ำลายปนเลือดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงเห็นมุมปากของเขาขมุบขมิบไปมา แสงสีเงินส่องสว่างหุ้มหน้าอกของเขาไว้
หลังแสงสว่างกระจายตัวไป บาดแผลบนร่างของเขาก็ฟื้นหายดีหมดสิ้น ทั้งร่างหายดีอีกครั้ง มีเพียงสีหน้าที่ซีดเผือดกว่าเดิมอยู่บ้าง
“เหอะ ต่อให้ร่างคงกระพันแล้วอย่างไร ดูสิว่าเจ้าจะฟื้นได้สักกี่หน!” บุรุษผมม่วงยิ้มเย็นชาจากนั้นยกมือข้างหนึ่งชี้กลางอากาศ เงาผีร้ายพลันคำราม สองเท้าลอยขึ้นพุ่งเข้าไปหาหลัวเทียนเฉิง
แม้มันดูเงอะงะแต่กลับเร็วอย่างน่าประหลาด จุดที่พุ่งผ่านทิ้งเงาเลือนรางสายแล้วสายเล่าไว้พร้อมกับชักพาอากาศให้สั่นสะเทือนบิดเบี้ยว
ยามนี้หลิ่วหมิงมองผ่านม่านแสงจากระยะไกลเช่นนี้ก็ยังสัมผัสได้เลือนรางว่าปราณของเงาผีร้ายมหึมาตัวนี้ไม่เป็นรองปีศาจอสูรระดับแก่นแท้ขั้นกลาง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ครั้งก่อนยามบุรุษผมม่วงประมือกับเขา เงาผีร้ายที่ปล่อยออกมาไม่มีพลังระดับนี้ ดูท่าก่อนหน้านี้ยามประมือกับเขาอีกฝ่ายจะยังออมมืออยู่!
หลัวเทียนเฉิงพลิกมือเรียกยันต์สีทองกำหนึ่งออกมาขว้างไปกลางอากาศทันทีพร้อมกับที่ปากเริ่มท่องมนตร์
ยันต์สีทองสิบกว่าแผ่นบินวนอยู่กลางอากาศจากนั้นกลายเป็นไอหมอกจางๆ สีเหลืองทองก้อนหนึ่งแล้วผนึกรวมกันกลายเป็นเกราะหมอกปราณจิตวิญญาณสีทองบางๆ ชั้นหนึ่งเบื้องหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันเขาก็พลิกมืออีกหนเรียกโอสถขวดหนึ่งออกมา ไม่พูดพร่ำแหงนหน้ากระดกอึกๆ เข้าไปในปากจนหมด
เขาเพิ่งทำทุกสิ่งนี้เสร็จ เจ้าผีก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาดั่งภูตพราย เงากรงเล็บแหลมคมตะปบเข้าใส่เกราะหมอกสีทอง
เสียง “ฉั้วะ” แสบแก้วหูดังขึ้น!
กรงเล็บแหลมคมทั้งคู่ของเงาผีประหนึ่งดาบคมกริบวาดผ่านเกราะหมอก กรีดผ่าเกราะหมอกปราณจิตวิญญาณสีทองอ่อนชั้นแล้วชั้นเล่าจนเผยร่างของหลัวเทียนเฉิงที่ถูกไอหมอกสีเงินยวงหุ้มอยู่ด้านใน
เสียง “ปึง” ดังสนั่น หลัวเทียนเฉิงหลบไม่ทัน ถูกโจมตีปลิวออกไปอีกครั้ง ทิ้งหมอกเลือดไว้กลางอากาศเป็นสาย เห็นชัดว่าพ่นออกมาจากปากของเขา
หลัวเทียนเฉิงกลางอากาศสีหน้าเปลี่ยนในฉับพลัน ตอนที่หางตาเหลือบเห็นผีตัวนั้นพุ่งเข้ามาใส่ตนต่อก็รีบพลิกมือเรียกวัตถุจิตวิญญาณสีเขียวม่วงก้อนหนึ่งออกมาขว้างไปหลังร่างทันที
แสงรัศมีสีเขียวม่วงฉายวูบหนึ่ง วัตถุจิตวิญญาณสีเขียวม่วงชิ้นนี้ก็พลันกางออก ขวางอยู่หน้าร่างหลัวเทียนเฉิงในทันใด
เสียง “ปึง” ดังขึ้นทีหนึ่ง!
เงาผีร้ายต่อยหนึ่งหมัดลงบนวัตถุจิตวิญญาณที่กางออกชิ้นนี้ชักพาให้อากาศรอบด้านสั่นสะท้านไปชั่ววูบ
ส่วนหลัวเทียนเฉิงอาศัยจังหวะนี้โฉบหนีออกจากขอบเขตการโจมตีของเงาผีร้ายอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งก็กวักเรียกวัตถุจิตวิญญาณสีเขียวม่วงที่ต่อกรกับเงาผีร้ายอยู่กลับมา
วัตถุชิ้นนี้เป็นอาวุธจิตวิญญาณรูปร่มที่ส่องแสงรัศมีสีเขียวม่วงทั้งคัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา