ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 874

ตอนที่ 874 ฝึกปรือกระบี่
วันหนึ่งครึ่งเดือนให้หลัง เขากระบี่หักก็มีเสียงประลองกระบี่เอะอะดัง “เคร้งๆ” ขึ้นอีกครั้ง

สูงขึ้นไปบนท้องฟ้าแสงกระบี่สีทองยาวหนึ่งจั้งกว่าเส้นหนึ่งวาดเร็วรี่ไล่ตามแสงกระบี่สีแดงสองสายไปติดๆ

ทันใดนั้นแสงกระบี่สีทองกลางท้องฟ้าก็เพิ่มความเร็วขึ้นในทันใดแล้วหายวับไปขณะที่อยู่ห่างออกไปไกล

ครู่ต่อมากลางอากาศห่างไปเบื้องหน้าสิบกว่าจั้งก็เกิดรอยกระเพื่อมจางๆ ชั้นหนึ่ง แสงกระบี่สีทองอ่อนสายหนึ่งปรากฏออกมาอีกครั้ง เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้น มันก็สะบั้นแสงสีแดงเส้นหนึ่งในนั้นเป็นสองท่อน

แสงกระบี่สีแดงสลายหายไป กระบี่ยาวสีแดงเล่มหนึ่งหักเป็นสองท่อนร่วงลงบนพื้นดินดัง “เคร้ง”

แสงกระบี่สีแดงอีกเส้นหนึ่งราวกับเชื่อมโยงถึงกัน มันส่งเสียงร้องครวญครางเลี้ยวกลับกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าชนแสงกระบี่สีทองตรงๆ ทันที

เสียง “ฉึบ” ดังขึ้นหลายหน!

หลังแสงกระบี่สีแดงฟันไขว้ปะทะกับแสงกระบี่สีทองหลายครั้งกลางอากาศก็ทานไม่ไหวถูกดีดปลิวออกไป มันกลิ้งกลางอากาศหลายครั้งแล้วร่วงเร็วจี๋ลงมาปักดัง “ฉึก” ปักเอนอยู่ห่างจากกระบี่หักสีแดงเล่มก่อนหน้านี้ไม่ไกล

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ในดวงตาก็ฉายแววพึงพอใจจางๆ จากนั้นมือข้างหนึ่งกวักเบาๆ กลางอากาศ กระบี่น้อยสีทองกะพริบวูบหนึ่งกลางท้องฟ้าแล้วบินพุ่งกลับมาในมือของเขา

เขาตรวจสอบกระบี่ว่างเปล่าอย่างละเอียด หลังแน่ใจว่าไม่เป็นไรก็หยิบโอสถประลองกระบี่เม็ดนั้นออกมาโยนขึ้นไปกลางท้องฟ้าอีกหน พร้อมกันนั้นก็ผนึกปราณกระบี่บนตัวกระบี่ยิงออกไปพร้อมกัน

หลังจากเปลวเพลิงสามสีกะพริบอยู่พักหนึ่งก็แผ่กลิ่นหอมจางๆ สายหนึ่งพุ่งรวดเร็วไปทางเขากระบี่หัก

วันนี้เขาควบคุมโอสถประลองกระบี่เวลาใช้ได้อย่างพอดิบพอดีแล้ว กระบี่บินที่ถูกดึงดูดมาครั้งหนึ่งมีเพียงห้าถึงสิบเล่ม

แม้ดูเหมือนความเร็วการประลองกระบี่ลดน้อยลง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ทำเช่นนี้ความเสียหายของกระบี่บินจะน้อยยิ่งกว่าน้อย ไม่ต้องยุ่งยากเก็บเข้าฝักกระบี่เพื่อบำรุงใหม่ ประสิทธิภาพกลับเพิ่มขึ้นมากหลายเท่า

หลังจากนั้นหลิ่วหมิงก็ฟันฝ่าขวากหนาม ประลองกับกระบี่หักในภูเขาจากด้านล่างขึ้นไปด้านบนตามลำดับ เขาอาศัยพลังจิตมหาศาลของตนรวมถึงการมีทรายธารดาราปกป้องจึงฝึกปรือกับกระบี่บินแทบจะทั้งหมดที่พบได้รอบหนึ่งโดยที่ระหว่างนั้นหยุดพักไปเพียงสามครั้งเท่านั้น

เวลาผ่านไปทีละวันๆ เช่นนี้!

ครึ่งค่อนปีให้หลัง ในที่สุดหลิ่วหมิงก็มาถึงบริเวณไหล่เขา กระบี่บินที่ปักอยู่ตรงนี้หนาแน่นน้อยลงกว่าที่ตีนเขา ในบริเวณร้อยกว่าจั้งมีกระบี่บินเพียงเจ็ดแปดเล่มเท่านั้น แต่จิตกระบี่ในอากาศกลับเข้มข้นขึ้นมากกว่าสิบเท่า

ในหมู่กระบี่บินเหล่านี้ บางเล่มได้นายท่านของกระบี่ตั้งป้ายจารึกไว้ วัดจากแค่ปราณกระบี่ดุดันที่แผ่ออกมาพวกมันไม่ได้อ่อนแอกว่ากระบี่บินระดับสุดยอดหรือต้นแบบอาวุธเวทแม้แต่น้อย จินตนาการไม่ออกเลยว่ากระบี่เหล่านี้ล้วนเป็นซากกระบี่ที่พลังจิตวิญญาณเสียหายอย่างหนัก

แม้หลิ่วหมิงจะควบคุมกระบี่บินอย่างระมัดระวัง แต่พลังจิตวิญญาณก็ยังคงเสียหายหนักเป็นระยะอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ความเร็วของการฝึกปรือจึงลดลงมาก

……

หนึ่งปีให้หลัง บนไหล่เขาของเขากระบี่หัก เสียงฝึกปรือกระบี่บินดัง “เปรี้ยงๆ” ดังออกมาอีกครั้ง แสงกระบี่สีทองสายหนึ่งกะพริบวูบวาบไปมาไม่หยุดระหว่างแสงกระบี่ต่างสีสันสองสาย

หลิ่วหมิงในเวลานี้ฝึกปรือกับซากกระบี่หลายพันเล่มตั้งแต่ไหล่เขาลงมาจนหมดรอบหนึ่งแล้ว หากซากกระบี่เหล่านี้ต้องการฟื้นฟูปราณกระบี่ให้เหมือนก่อนหน้านี้ ไม่บำรุงแปดปีสิบปีเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้

แสงกระบี่ที่กระบี่ว่างเปล่าผนึกออกมาตอนนี้แลดูคมกริบล้ำลึกขึ้นกว่าหนึ่งปีก่อนหน้าอยู่หลายส่วน เสียงกระบี่ครวญครางที่ดังออกมาก็ค่อยๆ ทุ้มต่ำลงด้วย

แต่กระบี่ว่างเปล่าเวลานี้ดูจากสีสันสว่างไสวกว่าก่อนหน้านี้อยู่หลายส่วน ไม่ว่าปราณกระบี่ที่แผ่ออกมาหรือจิตกระบี่ที่แฝงอยู่ด้านในก็แข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่แค่เล็กน้อย

หลังเสียง “ฉึบ” ดังขึ้นหลายครั้ง!

แสงกระบี่สีฟ้าสายหนึ่งกับแสงกระบี่สีเทาสายหนึ่งก็ดีดออกไปกลายเป็นกระบี่บินหักสองเล่มเสียบลงในซอกหิน

กระบี่บินสีทองบินวนกลางท้องฟ้าอย่างเร็วไวรอบหนึ่ง จากนั้นเงาคนสีดำว่องไวร่างหนึ่งก็พุ่งโฉบขึ้นไปด้านบนของเขากระบี่หัก…

สองปีให้หลัง!

หลิ่วหมิงมาถึงจุดที่ห่างจากยอดเขาไม่ไกลอีกครั้ง บนพื้นผิวภูเขาบริเวณนี้ซากกระบี่หลากหลายแบบน้อยลงกว่าเดิมอีก

ด้านข้างไม่ไกลมีแผ่นศิลาสีเขียวตั้งตระหง่านอยู่แผ่นหนึ่ง กระบี่บินสีทองที่มีรอยบิ่นบนคมกระบี่สองรอย ด้ามกระบี่แหว่งไปค่อนครึ่งเล่มหนึ่งกำลังเอนไหวเบาๆ ตามสายลม

‘กระบี่เลี่ยหยาง’ เล่มนั้นที่หลิ่วหมิงเห็นเมื่อวันที่เข้ามาในเขากระบี่หักนั่นเอง

กระบี่เล่มนี้แตกต่างจากกระบี่หักเล่มอื่น หลิ่วหมิงเข้าใกล้มันในระยะร้อยกว่าจั้งเมื่อไร กระบี่เล่มนี้จะส่งเสียงครวญทุ้มต่ำเหมือนจะเป็นการเตือนออกมา หากเข้าใกล้มันในระยะสิบกว่าจั้งมันก็จะลอยออกจากพื้นขึ้นมาเองพร้อมกับพาปราณกระบี่ท่วมฟ้าพุ่งรวดเร็วเข้าใส่เขา

สิบกว่าวันก่อนหน้านี้ ตอนหลิ่วหมิงเพิ่งมาถึงที่แห่งนี้เคยเผลอไปแตะต้องกระบี่เล่มนี้อย่างไม่ตั้งใจจนถูกบีบให้ประลองกระบี่กับมันครั้งหนึ่ง ผลปรากฏว่ากระบี่หักที่เหลืออยู่แค่ครึ่งท่อนเล่มนี้กลับสูสีทัดเทียมกับกระบี่ว่างเปล่าที่ฝึกปรือมานาน ทำให้ในใจเขาพรั่นพรึงอย่างมาก

เขาฉวยโอกาสที่กระบี่บินสีทองสองเล่มต่อสู้กัน อ่านตัวอักษรขนาดเล็กสองสามบรรทัดแรกบนป้ายศิลาที่ก่อนหน้านี้ไม่ทันได้สังเกตอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็ขนหัวลุก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา