ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 890

ตอนที่ 890 ภารกิจใหม่
“หลังจากนี้ไม่ทราบว่าศิษย์หลานหลิ่ววางแผนไว้อย่างไร?” สายตาของผู้อาวุโสเจียงมองหลิ่วหมิงอย่างคาดหวังอยู่บ้างแล้วเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า

“คงเว้นไปก่อนชั่วคราว” หลิ่วหมิงฟังแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้นมา

หลายปีนี้เขาสังหารผู้ฝึกฝนชั่วร้ายติดๆ กันจนชื่อเสียงเลื่องลือ ทำให้ผู้ฝึกฝนชั่วร้ายมากมายพากันซ่อนตัวไม่ออกมา ยากจะตามหาร่องรอยของพวกเขา

อีกอย่างการล่าผู้ฝึกฝนชั่วร้ายก็อันตรายยิ่งนัก ครั้งนี้เขาก็ถูกผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้สองคนรุมซุ่มโจมตี หากไม่ใช่เพราะไหวพริบของเขา เกรงว่าคงสิ้นชื่อในกับดักของปีศาจพันมายาไปแล้ว

ในเมื่อห่างจากหนึ่งล้านห้าแสนแต้มอีกไม่เท่าไร เขาย่อมไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเกินไปนัก วันนี้เขาวางแผนจะเปลี่ยนแผนการสักหน่อยด้วยการไปลองดูป้ายประกาศสายในของหอลี้ลับ

ผู้อาวุโสเจียงสีหน้าแข็งทื่อไปทันที จากนั้นก็หัวเราะเจื่อนๆ ออกมา

“ศิษย์หลานหลิ่วพักนี้ชื่อเสียงโด่งดังเกินไป นิกายสายอธรรมมากมายอาจจับตาศิษย์หลานอยู่ ระวังสักหน่อยก็สมควร”

คำพูดนี้ของผู้เฒ่าแฝงนัยประจบอยู่บ้าง ศิษย์สายในที่มีพลังระดับนี้อย่างหลิ่วหมิง เขาที่เป็นเพียงผู้อาวุโสระดับผู้ดูแลธรรมดาๆ คนหนึ่งย่อมไม่กล้าล่วงเกินง่ายๆ

“ที่ผ่านมาได้ผู้อาวุโสเจียงดูแลแล้ว” หลังจากหลิ่วหมิงคำนับให้เขาหนึ่งครั้งก็หมุนตัวเดินออกไปจากหอความเป็นความตายอย่างรวดเร็ว

ก่อนจะไปหอลี้ลับ เขากลับไปถ้ำที่พักบนยอดเขาลั่วโยวเตรียมตัวจะดูสถานการณ์ของเฟยเอ๋อร์สักหน่อยก่อน

ตอนจากไปครั้งก่อนเฟยเอ๋อร์ยังหลับใหลอยู่ หลายเดือนนี้หลิ่วหมิงจึงค่อนข้างเป็นห่วงอยู่ตลอด

เพิ่งเหยียบเข้าประตูใหญ่ของถ้ำที่พัก เงาสีเขียวก็พุ่งออกมาจากในห้องศิลา เด็กน้อยชุดเขียวคนหนึ่งโถมเข้ามาหาหลิ่วหมิงอย่างรวดเร็ว

“นายท่าน…” มือน้อยขาวนุ่มทั้งสองข้างของเฟยเอ๋อร์กอดแขนของหลิ่วหมิงไว้พร้อมกับที่เสียงอ้อแอ้ตะโกนเรียก

“เฟยเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้วหรือ” หลิ่วหมิงมีสีหน้ายินดี เขาสะบัดมือส่งปราณดำสายหนึ่งยกเฟยเอ๋อร์ลอยขึ้นมา จากนั้นก็เพ่งสมาธิ

เทียบกับก่อนหน้านี้พลังเวทบนร่างเฟยเอ๋อร์ล้ำลึกขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ที่ระดับผลึกขั้นปลาย ไม่ได้เข้าสู่ระดับแก่นเสมือนดังที่เขาคาดไว้

“ข้าตื่นตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่นายท่านกับเซียเอ๋อร์ล้วนไม่อยู่ เฟยเอ๋อร์อยู่ในถ้ำน่าเบื่อยิ่งนัก!” เฟยเอ๋อร์บิดร่างจนหลุดออกมาจากปราณสีดำ แล้วดึงชายเสื้อของหลิ่วหมิงขณะที่ปากบ่นงึมงำ

“ดูท่าคอขวดของระดับแก่นเสมือนจะไม่ได้ทะลวงผ่านง่ายดายเช่นนั้น หลังจากนี้ค่อยตามหาโอกาสใหม่นะ” หลิ่วหมิงลูบศีรษะของเฟยเอ๋อร์ ส่วนในใจลอบถอนหายใจ

“นายท่าน ต่อจากนี้ยังต้องไปทำภารกิจไหมขอรับ?” เด็กน้อยโคลงศีรษะเอ่ยถาม

“ไม่ผิด ข้ายังต้องสะสมแต้มคุณูปการอีกสักหน่อยถึงจะได้” หลิ่วหมิงเอ่ยขณะที่ก้าวเชื่องช้าไปหน้าโต๊ะศิลากลางโถงรับแขกของถ้ำที่พักแล้วนั่งลง

“ดีเลย ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปกับนายท่านด้วย อยู่ที่นี่คนเดียวน่าเบื่อเกินไปแล้ว” เฟยเอ๋อร์กระโดดโลดเต้นเอ่ยขึ้นข้างกายหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงพยักหน้าพร้อมแย้มยิ้มน้อยๆ ในเมื่อเฟยเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาแล้วเขาย่อมต้องพาไปข้างกาย ตอนล่าปีศาจพันมายาเซียเอ๋อร์ทำประโยชน์ให้เขาไม่น้อย ตอนนี้มีอสูรเลี้ยงสองตัวย่อมสะดวกกว่าเดิม

เขาตบมือข้างหนึ่งบนถุงหล่อเลี้ยงวิญญาณ เด็กน้อยพลันกลายเป็นแสงสีดำสายหนึ่งบินเข้าไปด้านใน

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องลับ หลังจากนั่งขัดสมาธิลงบนเบาะกลมตรงกลางก็หยิบอาวุธจิตวิญญาณเก็บของของจั่วกงเฉวียนออกมา

เขาสำรวจแหวนเก็บของของปีศาจพันมายาคร่าวๆ ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ของจั่วกงเฉวียนเขายังไม่ทันสำรวจอย่างละเอียด

จั่วกงเฉวียนผู้นี้อย่างไรก็เป็นประมุขของนิกายแห่งหนึ่ง ทรัพย์สมบัติย่อมมากมายพอสมควร

หลิ่วหมิงคิดเช่นนี้ก็ส่งจิตสัมผัสสายหนึ่งแทรกเข้าไปในกำไลเก็บของของจั่วกงเฉวียน หลังจากกวาดผ่านไปครั้งหนึ่ง บนใบหน้าก็เผยสีหน้าตกตะลึงระคนยินดีทันที

หลังจากเขาสะบัดมือครั้งหนึ่ง บนพื้นของห้องลับก็มีของกองพะเนินปรากฏขึ้นมา

“ดอกฝูหลิง หญ้าบัวขาว เอื้องเงินยวง หินอุกกาบาตเหล็กศิลา ผลึกอำพัน…” ด้านในข้าวของกองพะเนินนั่นส่วนใหญ่เป็นหญ้าจิตวิญญาณและหินแร่จำนวนหนึ่ง ล้วนเป็นวัตถุจิตวิญญาณอันล้ำค่าอย่างยิ่ง

บนร่างหลิ่วหมิงไม่ขาดแคลนหินจิตวิญญาณ ครั้งนี้ได้วัตถุจิตวิญญาณล้ำค่ามากมายเช่นนี้มาย่อมสมใจเขายิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนั้นยังมีวัตถุดิบเสริมหลายอย่างสำหรับการปรุงโอสถกระดูกมรกตนักรบพระโพธิสัตว์อีกด้วย เขาจึงไม่ต้องเปลืองเวลาไปตลาดหาซื้อแล้ว

หลังจากนั้นเขาก็หยิบแหวนหยกเก็บของของปีศาจพันมายาออกมา ลูบทีหนึ่งบนพื้นก็พลันมีของเพิ่มขึ้นมาอีกกองหนึ่ง

โอสถ หินแร่ อาวุธจิตวิญญาณที่ปีศาจพันมายาพกติดตัวล้วนเป็นวัตถุของสายปีศาจ ไม่มีประโยชน์กับหลิ่วหมิงนัก เขาต้องไปตลาดเพื่อขายค่อนครึ่งในนั้นออกไป

หลังจากเขาจำแนกประเภทข้าวของเหล่านี้แล้วก็ถอนหายใจยาว เอนตัวลงบนเตียงแล้วหลับลึก

วันต่อมาหลิ่วหมิงตื่นขึ้นมาอย่างกระปรี้กระเปร่า

เขาออกจากถ้ำที่พักไปตั้งแต่เช้าโดยไม่ชักช้า เท้าเหยียบเมฆดำก้อนหนึ่งเหาะไปยังหอลี้ลับ

หอลี้ลับนอกยังคงเป็นสถานที่ซึ่งครึกครื้นอย่างยิ่งในนิกาย ศิษย์สายนอกมากมายเบียดเสียดกันอยู่ที่นี่ จับจ้องป้ายประกาศลี้ลับอย่างไม่ละสายตา ทุกครั้งที่บนป้ายมีภารกิจปรากฏขึ้นภารกิจหนึ่งก็จะเกิดเสียงถกเถียงดังอื้ออึงขึ้นพักหนึ่ง บางครั้งมีการทะเลาะเบาะแว้งเพื่อภารกิจสักภารกิจก็เป็นเรื่องปกติ

หลิ่วหมิงมองภาพตรงหน้าแล้วในใจก็รู้สึกปลงอยู่บ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา