ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 908

ตอนที่ 908 ชักน้ำไปตะวันออก
“ศิษย์พี่หลงช่วยด้วย…”

“ไม่…ข้าจะตายอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร…อ้าก…”

เสียงกรีดร้องของศิษย์นิกายปีศาจลี้ลับสองคนดังตามกันออกมาจากด้านในหมอกดำพลุ่งพล่านที่อัดแน่นอยู่บริเวณสิบกว่าจั้งสองก้อนด้านข้างร่องลึกมหึมาบนพื้นดิน!

สีหน้าของหลงเซวียนซีดเผือด เขาไม่พูดพร่ำหมุนตัวกลายเป็นเงาแสงสีเขียวสายหนึ่งแหวกท้องฟ้าจากไปทันที

“คิดหนีหรือ?”

มนุษย์ปีศาจตุ่มหนองหัวเราะลั่น มือข้างหนึ่งคว้าอากาศ รอยแยกยาวหนึ่งจั้งกว่าเส้นหนึ่งฉับพลันปรากฏขึ้น จากนั้นเงาดำทั้งร่างก็มุดเข้าไปในรอยแยก

เวลาหนึ่งลมหายใจผ่านไป กลางอากาศห่างไปร้อยกว่าจั้งก็ปรากฏรอยแยกเช่นเดียวกันขึ้นมาเส้นหนึ่ง เงาคนสีดำร่างหนึ่งพุ่งออกมา มนุษย์ปีศาจที่หน้าเต็มไปด้วยตุ่มหนองคนนั้นนั่นเอง

ตอนนี้เขาขวางอยู่หน้าหลงเซวียนแล้ว

“เคลื่อนย้ายชั่วพริบตาหรือ?”

หลงเซวียนตะลึงไปทันที แต่เขาก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วโยนยันต์สีแดงหนาตั้งหนึ่งออกมา พร้อมกันนั้นก็ตบยันต์ที่ทอแสงสีขาวเรืองรองอีกแผ่นหนึ่งลงบนร่าง แล้วเปลี่ยนทิศทางพุ่งเร็วรี่ไปทางอื่นทันที

เสียงเปรี้ยงปร้างดังลอยมา!

ยันต์สีแดงทยอยกลายเป็นดอกบัวสีแดงดอกแล้วดอกเล่าจากนั้นคายมังกรเพลิงร้อนระอุตัวแล้วตัวเล่าออกมาจากด้านใน ราวกับมีทะเลดอกบัวสีแดงฉานผืนหนึ่งขวางอยู่หน้าร่างมนุษย์ปีศาจอัปลักษณ์

“รนหาที่ตาย”

มนุษย์ปีศาจอัปลักษณ์คำรามแผ่วเบาครั้งหนึ่ง หลังจากเพลิงสีดำลุกโชนทั่วร่างก็พัดดอกบัวสีแดงฉานรวมถึงมังกรเพลิงเต็มฟ้าให้ทยอยพังทลาย เมื่อเขาคว้าอากาศอีกครั้ง รอยแยกก็แหวกออกอีกหน เขามุดเข้าไปทันที

ทั้งสองคน คนหนึ่งไล่ตาม คนหนึ่งหนีเช่นนี้ ชั่วพริบตาก็หนีออกไปร้อยกว่าลี้

ระหว่างนั้นทุกครั้งที่มนุษย์ปีศาจผู้นี้จวนเจียนจะไล่ตามทันหลงเซวียน หลงเซวียนก็จะโยนยันต์จำนวนมากหรืออาวุธจิตวิญญาณที่ระเบิดตัวเองออกมาผสานกับวิชาท่าร่างประหลาด จนหลบพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด

……

ในเทือกเขาที่สูงต่ำไม่เท่ากันแถบหนึ่ง เมฆดำก้อนหนึ่งลอยเอื่อยเฉื่อยอยู่ชิดกับหน้าผาฝั่งหนึ่ง บนเมฆดำมีเงาคนร่างหนึ่งยืนตัวตรงแน่ว เขาก็คือหลิ่วหมิงที่สวมชุดสีน้ำเงินทั้งร่างนั่นเอง

เวลานี้คิ้วบนใบหน้าของเขาขมวดเล็กน้อย สีหน้าเหมือนกำลังใคร่ครวญบางอย่าง

เนื่องจากเหตุไม่คาดฝันก่อนหน้านี้ทำให้เขาไม่อาจเร่งเดินทางมาถึงเขาศิลาดำที่จินเทียนชื่อพูดได้ในทันที

แต่เขาศิลาดำนั่นเป็นหนึ่งในสถานที่ค้นหาสมบัติไม่กี่แห่งที่กำหนดไว้ในการเดินทางครั้งนี้ของพวกเขา แล้วก็เป็นจุดที่ระบุในแผนที่ของนิกายว่าอาจมีสมบัติอยู่

ขอเพียงมีความเป็นไปได้สักเศษเสี้ยว หลิ่วหมิงก็ยังคิดจะไปรวมกลุ่มกับพวกจินเทียนชื่อก่อน

อย่างไรเศษซากของโลกบนแห่งนี้ก็อันตรายทุกย่างก้าว การค้นหาสมบัติตามลำพังด้วยพลังของคนเพียงคนเดียวเสี่ยงอันตรายเกินไปอยู่บ้าง ต่อให้เขาเตรียมตัวมาเดินทางลำพังจริงๆ แต่ก็ต้องรอหลังจากปรับตัวกับเศษซากของโลกบนแห่งนี้ได้อย่างสิ้นเชิงเสียก่อน

ขณะที่หลิ่วหมิงครุ่นคิดอยู่ในใจนั่นเอง ทันใดนั้นหัวคิ้วก็พลันขมวด สายตาเหล่มองไปยังขอบฟ้าจุดหนึ่ง แววตาประหลาดใจจางๆ แล่นผ่านในดวงตา ทันใดนั้นก้อนเมฆก็กดหัวร่อนลงไปบนเขาขนาดเล็กลูกหนึ่งข้างใต้ โฉบวูบดียวก็จมเข้าไปด้านใน

เขาเร้นกายเข้าไปในภูเขาได้ไม่นานนัก ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงขอบฟ้าไม่ไกลนัก มันพุ่งเร็วรี่ตรงมายังจุดที่หลิ่วหมิงอยู่

หลังจากสองตาของหลิ่วหมิงฉายแสงสีดำวูบหนึ่ง เขาก็มองเห็นใบหน้าของคนในลำแสงชัดเจน เขาตะลึงไปเล็กน้อยในทันที

เจ้าของลำแสงสายนี้ก็คือหลงเซวียนที่หนีตลอดทางมาจนถึงที่แห่งนี้

ห่างไปร้อยกว่าจั้งหลังร่างเขา ปราณดำพลุ่งพล่านอีกก้อนหนึ่งไล่ตามลำแสงมาติดๆ อย่างไม่ลดละ

เวลานี้หลงเซวียนแลดูค่อนข้างสะบักสะบอม ไม่เพียงหอบหายใจฮั่กๆ เหงื่อยังไหลอาบชุ่มแผ่นหลัง

ขณะที่หลิ่วหมิงกำลังรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งนั่นเอง หลงเซวียนที่บินเข้ามาใกล้ก็เปลี่ยนทิศทางทันที เขาพุ่งอย่างรวดเร็วมาทางหลิ่วหมิงพร้อมกันนั้นก็ตะโกนเสียงดัง

“ยังจะรออะไร รีบลงมือช่วยข้าสิ!”

หลิ่วหมิงได้ยินก็ตกตะลึง ยังไม่ทันเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร ทันใดนั้นอากาศว่างเปล่าไม่ไกลด้านหลังหลงเซวียนก็มีเสียงเปรี๊ยะดังขึ้น รอยแยกยาวสองสามจั้งเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นจากนั้นเงาดำร่างหนึ่งก็พุ่งออกมา

มนุษย์ปีศาจตุ่มหนองผู้นั้นนั่นเอง สายตาเขากวาดผ่านยอดเขาที่หลิ่วหมิงอยู่ดั่งสายฟ้าฟาดจากนั้นก็หัวเราะเหี้ยมเกรียมเอ่ยขึ้นว่า

“อ้อ? มีผู้ช่วยซ่อนอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเช่นนั้นก็ตายไปด้วยกันเสียเถอะ!”

สิ้นเสียง มนุษย์ปีศาจผู้นี้เพียงสะบัดมือข้างหนึ่ง ไอปีศาจสีดำแถบใหญ่ก็ซัดออกมาด้านหน้าประหนึ่งคมดาบแหลมคม ยอดเขาขนาดหลายสิบจั้งถูกซัดจนแตกทลายเสียงดังกึกก้อง

เศษหินปลิวว่อน เงาร่างสีน้ำเงินร่างหนึ่งดีดตัวออกมาจากด้านใน

หลิ่วหมิงที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่นั่นเอง!

เวลานี้เมื่อหลงเซวียนเห็นว่าคนที่ซ่อนอยู่บนยอดเขาคือหลิ่วหมิงก็ตกใจยิ่งนัก ทว่าทันใดนั้นดวงตาก็ฉายแววชั่วร้าย เขาพลิกมือเรียกยันต์สีขาวแผ่นหนึ่งตบลงบนร่าง ความเร็วเพิ่มขึ้นกลายเป็นเงาสีเขียวสายหนึ่งพุ่งผ่านเหนือยอดเขาไปทันที

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ในใจย่อมโกรธจัด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา