สองมือของหลิ่วหมิงทำท่าเคล็ดวิชารัวเร็ว อสนีบาตสีทองรอบร่างทยอยพังทลาย หลังจากนั้นแสงรัศมีของตราประทับสายฟ้าห้าสีตรงหน้าอกก็กะพริบวูบหนึ่งก่อนจะหม่นแสง แก่นเสมือนที่ก่อตัวขึ้นใหม่ในทะเลจิตวิญญาณสั่นไหวแผ่วเบาไม่กี่หนก็ฟื้นกลับมานิ่งสงบโดยสมบูรณ์
สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าที่ใหญ่กว่าเดิมสี่ห้าเท่าก้อนนี้ ในที่สุดก็ถูกหลิ่วหมิงฝืนผนึกไว้ได้ใหม่อีกครั้ง
ทว่าเขาในเวลานี้ก็ค่อนข้างสะบักสะบอม ร่างกายเกินครึ่งไหม้เกรียม เสื้อผ้าบนร่างขาดรุ่งริ่ง
เขาทั้งตกตะลึงทั้งยินดี เมื่อเห็นว่ารอบด้านยังคงมีเสียงอสนีบาตฟาดอย่างบ้าคลั่งและยังมีอสรพิษสายฟ้าสีทองตัวแล้วตัวเล่าโถมเข้ามาหา เขาก็ตะโกนลั่นออกมาอีกครั้งอย่างไม่ลังเลสักนิด ทันใดนั้นสองแขนพลันขยายขึ้นหลายเท่าพร้อมกับที่ปราณดำเวียนวน เขาต่อยกระหน่ำเข้าใส่ลูกแก้วสีทองขมุกขมัวซึ่งลอยอยู่กลางอากาศลูกนั้นอีกครั้งดั่งสายฟ้าแลบ
เสียงเปรี้ยงดังขึ้นครั้งหนึ่ง ห้องลับทั้งห้องสั่นไหวแผ่วเบา ทว่าลูกแก้วกลมสีทองกลับส่ายไหวเพียงครู่เดียวแต่ไม่แตก
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึง อสรพิษสายฟ้ามากมายรอบด้านโถมลงบนร่างเขาอีกครั้ง แต่ถูกแสงเปลวเพลิงจากชุดเกราะบนร่างเขาบีบให้กระเจิงไปบางส่วน
หลิ่วหมิงฉวยโอกาสนี้กัดฟันแล้วพลิกมือข้างหนึ่งเรียกมุกพลังวารีลูกหนึ่งออกมากรอกพลังเวทเข้าไปด้านในอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นจึงต่อยออกมาอย่างรุนแรงอีกหนึ่งหมัด
เสียง “ฟุบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง
มุกพลังวารีหลุดออกจากมือแล้วกลายเป็นเงาภูเขาขนาดเล็กลูกหนึ่ง ถูกเขวี้ยงเข้าใส่จุดที่ลูกบอลกลมสีทองลอยอยู่กลางอากาศตรงกลาง พร้อมกันนั้นปราณสีดำพลุ่งพล่านก็บินออกจากกำปั้นกลายเป็นมังกรหมอกสีดำที่เกือบจะเหมือนมีร่างจริงตัวหนึ่ง แยกเขี้ยวสะบัดกรงเล็บโถมออกมา
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง!
ลูกบอลกลมสีทองอ่อนลูกนั้นถูกเงาภูเขากับมังกรหมอกโจมตีต่อเนื่องกันจนในที่สุดบนผิวก็เกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วน ชั่วครู่ต่อมาก็ระเบิดตัวเอง
ชั้นจำกัดอสนีบาตหกเหลี่ยมทั้งหมด รวมถึงกำแพงอสนีบาตหกด้านฉับพลันสลายกลายเป็นความว่างเปล่า
แสงอสนีบาตสีทองที่เหลือฟาดบ้าคลั่งกลางอากาศอยู่พักหนึ่งก็พากันหายไปไร้ร่องรอย
เวลานี้หลิ่วหมิงถึงโล่งอกอย่างแท้จริงแล้วหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
มนุษย์ปีศาจทั้งหลายเห็นหลิ่วหมิงทำลายชั้นจำกัดได้แล้วก็ล้วนเผยสีหน้ายินดีออกมา หญิงสาวผู้สวมชุดนางในก็เผยสีหน้าคิดไม่ถึงกับสีหน้าพึงพอใจออกมาเช่นกัน นางเอ่ยขึ้นว่า
“ดีมาก เดิมทีข้าคิดจะให้เจ้าลองดูสักหน่อยเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับทำลายชั้นจำกัดอสนีบาตที่แฝงสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้านี่ได้จริงๆ โอสถหยกโลหิตเม็ดนี้มอบให้เจ้า ประเดี๋ยวหลังจากเข้าไปแล้วจะไม่ขาดผลประโยชน์ของเจ้าแน่นอน”
หญิงสาวเอ่ยคำนี้จบก็ดีดนิ้ว โอสถสีเขียวหยกเม็ดหนึ่งพุ่งออกมา
หลิ่วหมิงเอ่ยขอบคุณคำหนึ่งแล้วรับโอสถไว้ เขามองสำรวจอย่างละเอียด เมื่อมั่นใจว่าเป็นโอสถรักษาอาการบาดเจ็บจึงกลืนลงไปอย่างไม่เกรงใจ
เวลานี้หญิงสาวจึงกวักมือมาทางเขาด้วยท่าทางสบายๆ อีกครั้ง
หลิ่วหมิงรู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้าน จากนั้นชุดเกราะสีทองก็กลายเป็นแสงสีทองดวงหนึ่งลอยออกจากร่างไปเอง พร้อมกับนั้นในปากก็ร้อนผ่าว ลูกแก้วกั้นอสนีบาตหลุดออกจากปากพุ่งไปหาหญิงสาวด้วย
หญิงสาวผู้สวมชุดนางในเก็บสมบัติทั้งสองชิ้นแล้วมุ่งหน้าต่อไปอย่างไม่สนใจใคร
มนุษย์ปีศาจคนอื่นเห็นเช่นนี้ก็ไม่พูดพร่ำตามไปติดๆ
ในเวลาเดียวกันนี้หลิ่วหมิงเพิ่งรู้สึกได้ถึงฤทธิ์ที่แท้จริงของโอสถหยกโลหิต เขารู้สึกว่าเลือดลมในร่างกำลังพลุ่งพล่านอยู่จึงนั่งขัดสมาธิลงไปทันที
ผลปรากฏว่าผ่านไปเพียงครู่เดียวแขนขาที่เดิมไหม้เกรียมประหนึ่งถ่านของเขาก็มีเลือดเนื้องอกออกมาใหม่อย่างรวดเร็ว กายเนื้อทั้งร่างดั่งได้เกิดใหม่ ลมปราณฟื้นคืนกลับมารวดเร็วยิ่งนัก พลังเวทในร่างเพียงชั่วครู่ก็เต็มเปี่ยม
สักพักหลังจากนั้นหลิ่วหมิงก็ขยับแขน เขาพบว่าความรู้สึกชาหนึบก่อนหน้านี้หายไปแล้ว เคลื่อนไหวได้ไร้อุปสรรค บาดแผลบนร่างก็หายดีขึ้นเจ็ดแปดส่วนแล้วเช่นกัน
ทว่าหลังจากเขากวาดจิตสัมผัสไปในร่างพบว่าชั้นจำกัดที่หญิงสาวเผ่าปีศาจผู้นั้นฝังไว้ยังคงอยู่ เขาก็อดไม่ได้หัวเราะจืดเจื่อนอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเดินไปด้านหน้าเช่นเดียวกัน
ด้านหลังชั้นจำกัดอสนีบาตคือทางเดินทอดยาวแห่งหนึ่ง ทางเดินกว้างราวสามถึงสี่จั้ง บนกำแพงหินสีเทาขมุกขมัวสองฝั่งสลักภาพปีศาจอสูรรูปร่างต่างๆ นานาไว้แน่นขนัด
ภาพส่วนใหญ่ในนั้นล้วนเป็นปีศาจอสูรหายากที่สาบสูญไปจากโลกมนุษย์แล้ว เมื่อครั้งที่หลิ่วหมิงทำภารกิจล่าปีศาจอสูรบนป้ายประกาศภารกิจของหอลี้ลับในนิกายก่อนหน้านี้ เขาเคยอ่านตำราที่เกี่ยวข้องอยู่บ้าง ดังนั้นเวลานี้เขาจึงพอรู้จักอยู่ห้าถึงหกตัวจากสิบกว่าตัว แม้เป็นเช่นนี้เขาก็ยังอดไม่ได้จิ๊ปากชื่นชมความมหัศจรรย์
ระหว่างที่หลิ่วหมิงมองสำรวจผนังหินสองฝั่งอย่างละเอียดอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าสุดปลายทางเดินยาวมีคลื่นพลังวิญญาณรุนแรงลอยมาและมีเสียงต่อสู้ดังปึงปังลอยมาด้วย
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปในทันใด แทบจะในเวลาเดียวกันนี้ชั้นจำกัดที่หญิงสาวผู้สวมชุดนางในฝังไว้ในร่างเขาก็เริ่มขยับดิ้นรน มีทีท่าจะไม่มั่นคงอยู่เล็กน้อย
หลิ่วหมิงตกใจไม่น้อย ชั้นจำกัดนี่แฝงวิญญาณปีศาจเสี้ยวหนึ่งของอีกฝ่ายไว้ เชื่อมต่อกับดวงจิตของหญิงสาวอยู่ หรือหญิงสาวนางนี้จะพบสิ่งที่ไม่คาดคิดอันใดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา