เสิ่นว่านชิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สิบนิ้วบนสองมือแปรเปลี่ยนประหนึ่งกงล้อ พร้อมกันนั้นก็อ้าปากถ่มยันต์ตัวหนึ่งลงบนร่างอสรพิษเพลิง
อสรพิษผงกหัวพุ่งออกจากร่างชายหนุ่มชุดแดง จากนั้นเปลวเพลิงสีแดงฉานพลันลุกพรึบบนร่างในทันใด
ร่างกายของอสรพิษขยายขนาดท่ามกลางเปลวเพลิงจนใหญ่ขึ้นหลายเท่า มันอ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีแดงฉานพุ่งเร็วรี่มืดฟ้ามัวดินเข้าใส่บุรุษรอยแผลดาบไม่ขาดสาย
จุดที่ลำเพลิงพุ่งผ่าน อากาศเหมือนจะบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะทนอุณหภูมิร้อนระอุไม่ได้ พวกหลิ่วหมิงที่ยืนอยู่ไกลๆ ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนที่โถมใส่ใบหน้า ผิวหนังถูกแผดเผาจนแสบร้อน
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจผู้มีรอยแผลดาบทำราวกับมองไม่เห็นสิ่งนี้ สองมือยิงเคล็ดวิชาหลายสายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายใต้อาภรณ์สีดำพองขยาย พริบตาเดียวร่างกายที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยก็ดันเสื้อผ้าจนขาด ทั้งร่างขยายจนใหญ่เป็นหลายเท่าของร่างเดิม
เวลานี้ศีรษะของเขากลายเป็นหัวหมี รอยแผลเป็นจากดาบบนใบหน้ายิ่งขับเน้นให้แลดูดุร้าย บนฝ่ามือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยขนสีดำหนา ปราณปีศาจสีดำสนิทดุจหมึกวนเวียนอยู่บนนั้น
เขาคำรามดังลั่น จากนั้นฝ่ามือมหึมาที่มีปราณพลุ่งพล่านก็ต่อยออกมา
เสียงเปรี้ยงดังสนั่น!
หมัดยักษ์โจมตีลงบนลำเปลวเพลิง แสงรัศมีสีแดงกับสีดำเกี่ยวกระหวัด พลังมหาศาลระเบิดออกมากะทันหัน เปลวเพลิงสีแดงฉานทานได้อยู่เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดกลายเป็นดวงเพลิงเต็มท้องนภา
กำปั้นของบุรุษรอยแผลดาบส่งเสียงดังฉ่า ผิวหนังถูกเปลวเพลิงเผาบาดเจ็บแถบใหญ่ แต่เขากลับก้าวเท้าดังตึงโถมเข้าไปยังจุดที่ชายหนุ่มชุดแดงอยู่เหมือนไม่รู้สึก
เสิ่นว่านชิงเห็นเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที สองมือพลิกหงาย อ้าปากพ่นธงน้อยสีแดงขนาดเท่าฝ่ามือผืนหนึ่งออกมา
ธงน้อยสะบัดดังพรึบก่อนจะขยายใหญ่จนกลายเป็นขนาดหนึ่งจั้งกว่า
เสิ่นว่านชิงท่องมนตร์รัวเร็ว ทันใดนั้นธงสีแดงฉานก็เปล่งแสงสีแดงเจิดจ้า บนผืนธงมีเปลวเพลิงลุกโชติช่วงพุ่งออกมาสายแล้วสายเล่าเต็มไปหมดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเมฆอัคคีขนาดหลายสิบจั้งก้อนหนึ่งล้อมตนเองรวมถึงอสรพิษเพลิงเข้าไปด้านใน
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจผู้มีรอยแผลดาบเห็นเช่นนี้ ดวงตาพลันวาววับอย่างดุร้าย ทว่าเปลวเพลิงในเมฆอัคคีเบื้องหน้าลุกท่วมฟ้าโหมกระหน่ำไม่หยุด เขาจึงได้แต่หยุดฝีเท้า
เสิ่นว่านชิงเห็นเช่นนี้ก็ลอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
“โจรชั่วเผ่ามนุษย์ เจ้าคิดว่าหลบอยู่ด้านในก็ไม่เป็นอะไรแล้วหรือ?”
ปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบฉับพลันหัวเราะชั่วร้าย มันอ้าปาก ทันใดนั้นลำแสงสีดำหนาเท่าถังน้ำสายหนึ่งก็พุ่งออกมา จากนั้นกลายเป็นแสงสีดำสิบกว่าสายกลางท้องฟ้าบินวนเวียนอยู่รอบด้าน
“เอ๋!”
หลิ่วหมิงที่ชมการต่อสู้อยู่ด้านล่างสีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด ด้านในลำแสงสีดำสิบกว่าสายนี้คือลูกตุ้มลูกแล้วลูกเล่า
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจส่วนมากล้วนอาศัยร่างกายแข็งแกร่งของตนกับพลังที่มีมาแต่กำเนิดในการต่อสู้ ผู้ที่ใช้อาวุธจิตวิญญาณหรืออาวุธเวทน้อยยิ่งนัก ปีศาจหมีตัวนี้ตรงหน้ากลับฝึกฝนการใช้ลูกตุ้มจนสำเร็จ
ดูจากสภาพนี้ ลูกตุ้มชุดนี้คงมีระดับเทียบเท่าต้นแบบอาวุธเวท
ดวงตาของปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบทอประกายดุดัน ลูกตุ้มสีดำสิบกว่าลูกขยับวูบเดียวพลันเกิดเป็นลูกตุ้มสีดำสามสิบกว่าลูกโจมตีเข้าใส่เมฆอัคคีจากทั่วทุกสารทิศพร้อมกัน
ดวงตาของหลิ่วหมิงทอประกายประหลาด วิชาที่ปีศาจหมีรอยแผลดาบใช้ยามนี้หลักการคล้ายคลึงกับวิชาแบ่งร่างแสงกระบี่ที่บันทึกอยู่ในเคล็ดกระบี่ปราณแกร่งที่ตนฝึกฝนเมื่อสมัยนั้นอยู่เล็กน้อย
เงาลูกตุ้มสีดำมากมายถี่ยิบบินล้อมเมฆอัคคีเป็นวง ชั่วอึดใจหลังจากนั้นพวกมันก็กระหน่ำฟาดหลายร้อยครั้ง เสียงเปรี้ยงปร้างดังสนั่นต่อเนื่องบนท้องฟ้าราวกับว่ามีอสนีบาตหลายร้อยสายฟาดลงมาจากเบื้องบน
ด้านในเมฆอัคคีที่ลุกโหมไม่ยอมดับราวกับไม่มีสิ่งใดอยู่ เงาลูกตุ้มทั้งหมดทุบถูกความว่างเปล่า
สีหน้าของปีศาจหมีเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทันใด แม้ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีใดหลบลูกตุ้มของตน แต่ความดูแคลนในใจก็ลดทอนลงไปเล็กน้อย
เขาสะบัดมือ ลูกตุ้มทั้งหมดพุ่งเร็วรี่กลับมา หลังจากนั้นดวงตาพลันทอประกายประหลาด กำลังจะใช้วิชาอื่น
ทันใดนั้นเมฆอัคคีทั้งหมดก็เริ่มปั่นป่วนก่อนจะหดเล็กลงอย่างฉับพลัน
“แย่แล้ว!”
แสงสีทองวูบไหวในดวงตาของบุรุษจมูกอินทรีที่อยู่ท่ามกลางผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจ เขาจ้องเมฆอัคคี อยู่แล้วทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยพลางพึมพำกับตนเอง
“พี่อิง เกิดอะไรขึ้นหรือ?” บุรุษกำยำผิวดำเห็นบุรุษจมูกอินทรีมีสีหน้าเช่นนี้ก็ถามอย่างอดไม่ได้
บุรุษจมูกอินทรีไม่ตอบทันทีแต่คิ้วขมวดแน่น
หลิ่วหมิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นสถานการณ์เช่นนี้ บนใบหน้าก็ปรากฏความประหลาดใจจางๆ เช่นกัน
เขาอาศัยพลังจิตสัมผัสจึงพอสำรวจได้ว่าเวลานี้อสรพิษเพลิงตัวนั้นกำลังอ้าปากกว้างสูบเมฆอัคคีรอบด้านอย่างบ้าคลั่งอยู่กลางเมฆอัคคี ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นพรวดพราด
ชั่วอึดใจหลังจากนั้นเมฆอัคคีทั้งหมดก็ทะลักเข้าไปตรงกลางอย่างรวดเร็ว ร่างกายของอสรพิษเพลิงปรากฏออกมาอีกครั้ง มันขยายร่างจนมีขนาดยี่สิบกว่าจั้งราวกับลูกโป่งที่สูบลม
สายลมกรรโชกสายหนึ่งพัดผ่าน เมฆอัคคีรอบด้านพลันสลายไปจนเกลี้ยง
หัวของอสรพิษเพลิงมีเขาคล้ายปะการังสองกิ่งงอกออกมา ตรงท้องก็มีกรงเล็บคมกริบขนาดใหญ่สี่ข้างงอกออกมาด้วย ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงเพลิงซึ่งมีเปลวเพลิงสีแดงฉานเต้นระริกอยู่ด้านใน
“กลายร่างมังกร!”
ดวงตาของปีศาจหมีรอยแผลดาบทอประกายวูบหนึ่งแล้วหลุดปากเอ่ยขึ้น
ร่างของบุรุษชุดแดงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขายืนอยู่ด้านหลังอสรพิษเพลิงยักษ์ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มหยันเล็กน้อย ขณะที่ปากเอ่ยแผ่วเบา
“ไป!”
มังกรเพลิงขนาดมหึมาส่งเสียงคำรามแล้วโถมเข้าใส่ปีศาจหมีรอยแผลดาบในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา