หลิ่วหมิงเห็นเงาสีเขียวสังหารสหายของตน คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย แต่ใบหน้าไม่มีสีหน้าหวาดกลัวแต่อย่างใด
พิจารณาจากลมปราณแล้ว พลังของมนุษย์ปีศาจผู้นี้เทียบจี๋อิ่งไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงร่างแยกโลหิตกับมนุษย์ปีศาจระดับดาราพยากรณ์ก่อนหน้านี้
มนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวเห็นหลิ่วหมิงไม่เอ่ยวาจา ดวงตาพลันทอประกายเย็นเยียบ มือข้างหนึ่งคว้ามาด้านหน้าในทันใด เพลิงมารสีเขียวทั่วร่างทะลักออกมากลายเป็นกรงเล็บมารใหญ่ค้ำฟ้าขนาดเท่าภูเขาลูกย่อมๆ ข้างหนึ่งห่างไปเบื้องหน้าเขาหลายจั้ง แล้วกดลงมาหาหลิ่วหมิงพร้อมกับพายุดุดัน
ทั่วทั้งกรงเล็บมารมีเปลวเพลิงสีเขียวลุกโหม ตรงปลายนิ้วมีเปลวเพลิงสีเขียวหยกที่ยืดหดไม่หยุดพุ่งออกมา มันสะท้อนกำแพงแก้วผลึกรอบด้านให้เป็นประกายแสงสีเขียวหยกดุจดั่งนรกภูมิ
หลิ่วหมิงผู้อยู่ภายใต้แรงกดดันของกรงเล็บมาร สภาพเหมือนว่าจะหลบไม่พ้น ทว่าทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นข้างหนึ่ง มุกกลมสีเหลืองขมุกขมัวบินออกมาอีกครั้ง มันสั่นอย่างรุนแรงก่อนจะกลายเป็นเงาภูเขาน้อยสีเหลืองลูกหนึ่งประจันหน้าเข้าหากรงเล็บมาร
เสียงปะทะกันสะเทือนฟ้าสะเทือนดินทำให้อากาศทั่วบริเวณสั่นไหว
กรงเล็บมารสีเขียวไม่ถูกภูเขาน้อยสีเหลืองบดขยี้จนพังทลายเหมือนเช่นที่หลิ่วหมิงคิด แต่กลับคว้าภูเขาน้อยทั้งลูกไว้แน่น ทั้งสองสิ่งต้านกันไปมาอยู่กลางอากาศชั่วขณะ
บนใบหน้าของหลิ่วหมิงปรากฏสีหน้าประหลาดใจ เขารีบชี้นิ้วไปทางภูเขาน้อยสีเหลือง
เสียงสั่นสะเทือนทุ้มต่ำดังขึ้น!
ภูเขาน้อยสีเหลืองที่อยู่กลางอากาศขยายขนาดเป็นเท่าตัวในพริบตาแล้วส่งเสียงครวญคราง พยายามกระแทกกรงเล็บมารสีเขียวให้เป็นชิ้นๆ
“ลูกไม้กระจอก!”
มนุษย์ปีศาจที่อยู่กลางเงาสีเขียวยกแขนขึ้น กรงเล็บมารสีเขียวกลายเป็นเพลิงปราณสีเขียวสายหนึ่งเริ่มเลื้อยพันจากฐานภูเขายักษ์สีเหลืองจนวนล้อมทั้งเขาลูกยักษ์ แล้วเหวี่ยงภูเขายักษ์ทั้งลูกโยนขึ้นไปด้านบน
“บึ๊ม” เสียงดังสนั่น!
ภูเขามหึมาสีเหลืองพุ่งทะลุยอดพระราชวัง เศษหินขนาดไม่เท่ากันร่วงเกลื่อนพื้น มุกกลมสีเหลืองลูกหนึ่งหล่นลงมา
มนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวเห็นเช่นนี้ ในดวงตาพลันปรากฏความยินดี ร่างกายขยับวูบจะเข้ามาแย่งมุกกลมสีเหลือง
แต่ตอนที่เขาอยู่ห่างจากมุกกลมสีเหลืองเพียงก้าวเดียวนั่นเอง เงาสีดำร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นดุจภูตพรายแล้วคว้ามุกกลมสีเหลืองเข้าไปในมือดั่งสายฟ้าแลบ
เขาก็คือหลิ่วหมิงที่กระตุ้นเคล็ดวิชาเงาสามส่วนจนถึงขีดสุด
หลิ่วหมิงเงยหน้ามองมนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวที่เกือบจะมาถึงแล้วยิ้มน้อยๆ แขนสะบัดครั้งหนึ่งโยนมุกกลมในมือออกมาอีกครั้ง
“ครืน” เสียงน้ำไหลดังขึ้น เงาแม่น้ำสายยาวสีดำเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แม่น้ำยาวสีดำกว้างราวหนึ่งจั้งกว่า กระแสน้ำทะลักถาโถมไหลเร็วรี่ไม่หยุด
ทันใดนั้นทางเดินยาวของพระราชวังก็ถูกสายน้ำสีดำบนฟ้าทาบทับจนมืดหม่น
มนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวตกตะลึง ร่างกายขยับวูบเดียวหลบแม่น้ำที่คดโค้ง เมื่อขยับอีกหนก็พุ่งถอยไปด้านหลัง
ในเวลานี้เองเงาภูเขาน้อยสีเหลืองขมุกขมัวลูกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเหนือร่าง มนุษย์ปีศาจตกอยู่ใต้แสงสีเหลืองที่แผ่ออกมาจากภูเขาลูกน้อย ร่างกายเขาหนักอึ้งในฉับพลัน กระทั่งขยับก็ยังยากลำบากอยู่บ้าง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าใช่เล่ห์กลอันใด!” ใบหน้าพร่ามัวบนเงาสีเขียวเหี้ยมเกรียม คำรามคลุ้มคลั่งใส่หลิ่วหมิงทันที
หลิ่วหมิงยิ้มอย่างไม่ยี่หระ เคล็ดวิชาที่มือเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง แม่น้ำยาวสีดำเปล่งแสงสีดำสว่างจ้ากลบมนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวเข้าไปทั้งร่าง แล้วกลายเป็นลูกบอลวารีสีดำขนาดยักษ์ลูกหนึ่งหมุนวนเร็วจี๋ราวกับพายุหมุนอยู่ที่เดิม
มนุษย์ปีศาจเงาสีเขียวที่อยู่ในลูกบอลวารีสีดำรู้สึกว่าปลายดาบเล็กจิ๋วนับไม่ถ้วนวาดผ่านบนร่าง เพลิงมารสีเขียวแทบจะต้านรับไม่ได้แม้แต่น้อย เพียงพริบตาเนื้อหนังของเขาก็ถูกกรีดเปิดแผลแล้วแผลเล่า
มนุษย์ปีศาจเห็นสถานการณ์พลันกัดฟันพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งออกมา อาศัยสายน้ำกระจายโลหิตปกคลุมไปทั่วร่าง
ลวดลายจิตวิญญาณสีเขียวทั่วร่างเขาได้โลหิตบริสุทธิ์หล่อเลี้ยงก็ส่องสว่าง บาดแผลที่เดิมทีถูกกรีดขาดสมานเข้าหากันในพริบตา
ในเวลาเดียวกันไอปีศาจสีเขียวสายแล้วสายเล่าข้างกายเขาก็ก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้งกลายเป็นปลาไหลมารสีเขียวที่มีหนาวแหลมตัวแล้วตัวเล่า บิดไปมาเชื่องช้าอยู่กลางสายน้ำสีดำ หมายจะทลายลูกบอลวารีออกมา
หลิ่วหมิงย่อมไม่ให้โอกาสมนุษย์ปีศาจอีก เขายิงแสงสีทองสายหนึ่งเข้าใส่ลูกบอลวารีสีดำ
ความเร็วที่สายน้ำสีดำถาโถมเร็วขึ้นอีกหลายเท่าในทันใด เงาภูเขากับสายน้ำปรากฏขึ้นกลางพระราชวังผลึกแก้ว จากนั้นลูกบอลวารีสีดำทั้งลูกก็หดลงอย่างฉับพลัน
“จัดการ!”
หลิ่วหมิงยกมือข้างหนึ่งชี้กลางอากาศอีกหน ทันใดนั้นลูกบอลวารีสีดำก็หดตัว
ขุนเขากับสายน้ำส่งเสียงคำรามบ้าคลั่ง หยดน้ำสีดำหยดแล้วหยดเล่าด้านในลูกบอลวารีสีดำพุ่งทะลวงผ่านฝูงปลาไหลสังหารพวกมันในพริบตา จากนั้นพุ่งมืดฟ้ามัวดินเข้าใส่มนุษย์ปีศาจอย่างรวดเร็ว
มนุษย์ปีศาจเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี ไอปีศาจทั่วร่างรวมตัวกัน หลังจากนั้นทั้งร่างก็กลายเป็นเงาสีเขียวร่างหนึ่งคิดจะฝืนฝ่าวงล้อมออกมา
หลิ่วหมิงหัวเราะหยัน มือข้างหนึ่งกำเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา