“ตู้เหิง พานางกลับเรือนโยวหลัน” ตงฟางหลีหลุบตาลง “ข้าไม่อยากเจอนาง”
“ท่านไม่อยากเจอข้า ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่พอใจเล็กน้อย “บังเอิญพอดี ข้าก็ไม่อยากเจอท่านเช่นกัน”
“ตงฟางหลี ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าท่านเป็นคนฉลาดมาตลอด ตอนนี้เพิ่งมารู้ ว่าก่อนหน้านี้ข้าตาบอดไปจริง ๆ ท่านก็คือคนชั่วช้าที่ใจบอดตาบอดสมองมีหลุมที่พอเห็นหญิงงามก็ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง”
เมื่อนึกถึงเขาที่ปกป้องซูเตี่ยนฉิงผู้นั้นเช่นนั้นเช่นนี้ ไฟโกรธในใจก็พวยพุ่งขึ้นมา
“ฉิงเอ๋อร์ของท่านทำอะไรล้วนดีไปหมด คนเช่นท่าน เมื่อวานข้าไม่ควรสนใจท่านเลย”
ตายไปสิถึงจะได้เงียบสงบ
เดิมทีตงฟางหลีก็มาถึงขีดจำกัดอยู่แล้ว ได้ยินฉินเหยี่ยนเย่ว์พร่ำตำหนิไม่หยุด สีหน้าก็ดำทะมึนราวกับก้นหม้อ
เขายกมือขึ้น
เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นเขายกมือขึ้นมา ไฟโกรธก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
นางเดินมาถึงตรงหน้าเขา แล้วเชิดหน้าขึ้น “ท่านคิดจะทำอะไร? อยากจะตีข้าอีกอย่างนั้นหรือ? ตงฟางหลี บาดแผลของท่านยังไม่หายดีก็ลืมความเจ็บไปแล้ว? หากท่านกล้าลงมือกับข้า ข้าก็จะตอนท่านเสีย”
“บุรุษที่ลงมือกับหญิงโดยไม่สนถูกผิดนับว่าเป็นบุรุษประสาอะไร? ท่านก็อย่าเป็นบุรุษอีกเลย จะได้ไม่ต้องอับอายขายหน้า”
ตู้เหิงได้ยินแล้วขมับเต้นตุบ ๆ
เขาติดตามท่านอ๋องมานานหลายปี เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนกล้าตะคอกเช่นนี้ใส่ท่านอ๋อง
พระชายามิเพียงตะคอกเท่านั้น ยังจะตอนท่านอ๋องอีกด้วย...
ยอดคนในหมู่สตรี
ไม่สิ ยอดคนในหมู่มนุษย์ต่างหาก
ตงฟางหลีหลุบตาลง ในแววตา เต็มไปด้วยไอเย็นและอารมณ์ประหลาดสายหนึ่งที่แม้กระทั่งเขาเองยังไม่ทันสังเกต
“เจ้าคิดว่าข้ามองวิธีอันโง่งมของเจ้าไม่ออกอย่างนั้นหรือ?” เขาแทบจะลอดไรฟันกล่าวออกมา “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ การกระทำของเจ้าแตกต่างจากผู้อื่น แล้วจะเป็นเจ้าเองที่จะถูกเล่นงาน”
“อา ท่านอ๋องช่างสังเกตได้ชาญฉลาด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวเสียดสี “สายตาท่านช่างเฉียบแหลมยิ่งนัก เพียงแวบเดียวก็มองวิธีการอันโง่งมของข้าออก แต่ พอเจอเข้ากับดอกบัวขาวปากหวานก้นเปรี้ยวบางดอกเข้าจึงเลือกที่จะตาบอด?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน