ไป๋โค้วได้ยินคำพูดของชายชรา ร่างก็แข็งทื่อ
นางมิกล้าที่จะเชื่อและจ้องมองเขาเอาเป็นเอาตาย
ชื่อเจี้ยนเองก็อกสั่นขวัญแขวนเมื่อได้ยินเช่นนี้ “อย่าพูดจาเหลวไหลเลย มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ใช่ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นเอง ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นสุนัขที่มีปัญหา?”
“ตอนแรกข้าไม่คิดว่าสุนัขมีปัญหา ต่อมาสุนัขก็ไปกัดตาเฒ่าขี้เมา เสื้อผ้าฤดูหนาวจะหนาขึ้น และมีเพียงรอยขีดข่วนบนผิวหนังเท่านั้น ตาเฒ่าขี้เมาไม่ได้ใส่ใจ ทว่าต่อมาข้าบังเอิญรู้มาว่าตาเฒ่าขี้เมาก็ออกอาการเช่นกัน และสุดท้ายก็ตาย” ชายชราพูด “คำพูดของข้าทุกคำเป็นจริง หากข้าพูดเท็จแม้ครึ่งคำ ขอให้โดนฟ้าผ่า”
“ภรรยาของข้าก็ตายด้วยน้ำมือของพวกมันเช่นกัน”
เขานอนอยู่บนพื้นและร่ำไห้อย่างขมขื่น “สุนัขพวกนี้ถูกสาป พวกมันถูกสาป เดิมทีวันนี้ข้าคิดจะส่งพวกมันไปอารามใกล้ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าแม่นางไป๋โค้วกลับพาพวกมันไป”
“พระชายา ข้าน้อยไม่มีเจตนาจะทำร้ายชีวิตใคร เป็นสุนัขนี้ที่ถูกสาป...ท่านรีบขังแม่นางไป๋โค้วโดยเร็วเถิดพ่ะย่ะค่ะ ช่วยไม่ได้แล้ว ช่วยไม่ได้เแล้ว”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจเข้าลึก ๆ
นางเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสุนัขเหล่านี้เป็นพาหะนำโรคพิษสุนัขบ้า และยังอยู่ในระยะเริ่มออกอาการโรคพิษสุนัขบ้าเสียด้วยซ้ำ
ตราบใดที่คนถูกสัตว์กัด เช่น สุนัข แมว หนู เป็นต้น ก็อาจติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าได้ จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ทันเวลา นี่เป็นสามัญสำนึกที่ทุกคนในยุคปัจจุบันต่างรู้กัน
ทว่าคนยุคนี้ยังไม่รู้แนวคิดเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า
นางให้ชายชราพูดออกมาก็เพื่อให้ไป๋โค้วได้ยิน ให้หญิงบ้าผู้นี้ได้เข้าใจว่าตนทำเรื่องโง่ ๆ อะไรลงไป
สีหน้าของไป๋โค้วเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม
เมื่อคนถูกสุนัขบ้ากัดก็จะกลายเป็นสุนัขบ้า เรื่องพรรค์นี้ นางเคยได้ยินคนแก่คนเฒ่าที่บ้านพูดถึงเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก
ในเวลานั้นนางไม่เชื่อและเกิดความสงสัยอย่างมาก คนจะกลายเป็นสุนัขบ้าได้อย่างไรเล่า?
นางไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน