ฉินเหยี่ยนเย่ว์สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างตึงเครียด
มีเพียงเสียงเปลวเทียนที่วูบไหวและเสียงหวีดหวิวของสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านหน้าต่างเท่านั้นที่สามารถได้ยินในยามนี้ เพิ่มความแปลกประหลาดเล็กน้อยให้กับบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้
ไป๋โค้วมองเปลวเทียนที่กำลังวูบไหวอยู่ ดวงตาของนางสั่นไหวหลายครั้ง ในที่สุดก็ดึงแขนเสื้อของชื่อเจี้ยนก่อนจะยกมือทำท่าจะเขียนตัวอักษร
ชื่อเจี้ยนชะงักเล็กน้อย “เจ้าอยากได้พู่กันกับกระดาษหรือ?”
ไป๋โค้วพยักหน้า
ชื่อเจี้ยนมองเฟ่ยชุ่ย
เฟ่ยชุ่ยเข้าใจจึงรีบหาพู่กันกับกระดาษมาให้
มือทั้งสองข้างของไป๋โค้วได้รับบาดเจ็บ การเขียนอักษรจึงไม่สะดวกเท่าใดนัก
น่าเสียดายที่ตอนนี้นางพูดไม่ได้ จึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้สื่อสารเท่านั้น
“ข้าไม่อยากตาย” นางเขียนลงบนกระดาษ “แต่ก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่อย่างทรมานเช่นกัน”
เฟ่ยชุ่ยขมวดคิ้ว คิดจะเตือนนางว่าอย่าทำให้พระชายาโกรธเคืองอีกเลย ครั้นไป๋โค้วเขียนต่อไปว่า “ถ้าท่านช่วยชีวิตข้า ข้าก็จะเป็นหนี้ชีวิตท่าน ข้าจะคืนชีวิตให้ท่าน”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองตัวอักษรของไป๋โค้ว เลิกคิ้วเล็กน้อย “เจ้าหมายถึงอะไร?”
ไป๋โค้วเขียนต่อ “ข้าไม่อยากติดหนี้น้ำใจท่าน หากท่านช่วยข้า ข้าก็เป็นหนี้ชีวิตท่าน เมื่อเป็นหนี้แล้ว ไม่ช้าก็เร็วข้าจะชดใช้คืนท่าน”
นางหลับตาลง ราวกับรวบรวมความกล้าที่จะเหยียดแขนออก
“เจ้าไม่คิดว่านี่เป็นแผนชั่วของข้าหรือ? ไม่คิดว่าข้าโกหกเจ้าหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “เจ้าไม่เคยเชื่อข้ามาก่อนเลยนี่”
ไป๋โค้วส่ายหัว
นางไม่ชอบพระชายามากนัก
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นความผิดของนางเอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน