ฉินหยี่ยนเย่ว์อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
ขันที่ผู้นี้ไม่รู้จักตงฟางหลี?
เสียทีที่เมื่อครู่นี้เขาพูดออกมาอย่างน่าเชื่อถือว่าคนที่นี่ไม่รู้จักนาง
สถานการณ์จึงเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่
“ไป ไป ไป ที่นี่มิใช่ที่ที่พวกเจ้าจะสามารถมาได้” ขันทีโบกมือ “อากาศเย็นเช่นนี้ มารบกวนเวลาดื่มสุราของพวกข้าเข้า เจ้าชดใช้ได้หรือ?”
เขาก่นด่าไปพลางพร้อมกับปิดประตู
ตงฟางหลีเหลือบตามองท่าทางยินดีปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่นของฉินเหยี่ยนเย่ว์แล้ว สีหน้าก็ดำทะมึน ชกเข้าที่ประตูหนึ่งหมัด
ประตูใหญ่ที่เดิมทีก็ผุพังลงแล้วถูกเขาผลักอย่างแรงเพียงครั้งเดียว ก็เกิดเสียงดังครืน กรอบประตูที่ผุพังก็แตกหักออก
ขันทีเห็นว่าพวกเขามาอย่างแข็งกร้าว อารมณ์พุ่งขึ้นมาด้วย เขาถลกแขนเสื้อขึ้นก่อนจะกล่าว “ทำไม? ยังกล้าประลองกับข้ารึ? ในตำหนักชิงสุ่ยแห่งนี้ ยังไม่มีผู้ใดกล้าลงมือกับข้ามาก่อน”
“โอ้?” ตงฟางหลีหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
วันนี้ ทั้งเขาและฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้าวังเพื่อไปรับโทษ ไม่ได้ปักปิ่นและไม่ได้สวมหมวก สวมอาภรณ์สีเรียบที่ธรรมดาที่สุด ไร้หลักฐานมาประจักษ์ถึงฐานะ ขันทีผู้นี้จึงไม่มองเขาอยู่ในสายตา
“ใจกล้ายิ่งนัก” ตงฟางหลีหยิบลูกปัดเหล็กออกมาสองลูก ใช้แรงแปดส่วนขว้างไปที่ขาทั้งสองข้างของขันที
ลูกปัดเหล็กทะลุกางเกงผ้าฝ้ายของขันที ไปโดนกระดูก
ต่อมา เขาก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือดออกมา
บรรดาขันทีที่กำลังร่วมดื่มสุราอยู่ภายในห้องต่างพากันทยอยวิ่งออกมา “เกิดอะไรขึ้น?”
“เขา เขา ใจกล้ายิ่งนัก กล้ามาโจมตีข้า รีบจับตัวเขาไว้เร็วเข้า วันนี้ข้าจะจับเขาเป็นกับแกล้มเสีย” ขันทีผู้นั้นเจ็บปวดเสียจนสีหน้าซีดขาว กัดฟันชี้ไปที่ตงฟางหลี
ในบรรดาขันทีสองคนที่มาทีหลัง มีอยู่หนึ่งคนที่อายุมากกว่าสักเล็กน้อย


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน