เข้าสู่ระบบผ่าน

ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน นิยาย บท 272

ขันทีผู้เฒ่าที่เฝ้าประตูนั้น นึกไม่วางใจกับสถานการณ์ภายในเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงค่อย ๆ ลอบตามมาดูสถานการณ์อยู่ไกล ๆ

ถึงแม้ว่าตัวเขาจักอยู่ห่างออกมา หากแต่ขันทีผู้นั้นก็ได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว สตรีที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องเอ่ยเรียกนามท่านอ๋องเจ็ดออกมา

ในใต้หล้านั้น นอกเหนือจากฮ่องเต้และพระพันปีแล้ว ก็คงเป็นพระชายาอ๋องเจ็ดที่หาญกล้าสมคำร่ำลือยิ่งนัก

ทั้งท่านอ๋องเจ็ดและพระชายาท่านอ๋องเจ็ดที่ยังดูเป็นหนุ่มเป็นสาวเช่นนี้ เกรงว่าแม่เฒ่าหวังกับแม่เฒ่าโจวที่มิเคยออกนอกตำหนักชิงสุ่ยมานานนับสิบปีย่อมมิรู้จักพวกเขา

ขันทีเฒ่ากลัวว่าแม่เฒ่าหวังผู้โง่เง่าจักก่อเรื่องราวอันใดออกมา จึงได้แต่ต้องทำทีใจกล้าลอบตามมาดูลาดเลาแทน

เมื่อเขาได้มาเห็นภาพตรงหน้านั้น ก็ทำเอาวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างไปในทันที

แม่นมโง่เง่าสองคนนั้นกลับกล้าตบตีกันต่อหน้าท่านอ๋องเจ็ด

ในใจพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา ขันทีจึงรีบนั่งคุกเข่าคลานเข้าไปภายในตำหนัก เพื่อโค้งคำนับต่อหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์และตงฟาหลีในทันที “ท่านอ๋องเจ็ด พระชายาอ๋องเจ็ดได้โปรดระงับโทสะก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ เป็นสุนัขรับใช้เหล่านี้ที่มีตาหามีแววไม่ ถึงได้กระทำตัวไร้มารยาทต่อพระองค์เช่นนี้ ได้โปรดยกโทษให้พวกกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อแม่นมทั้งสองได้ยินขันทีเฒ่าเอ่ยเรียกขานว่าท่านอ๋องเจ็ดและพระชายาอ๋องเจ็ดนั้น สีหน้าของพวกนางพลันเปลี่ยนไปในทันที

พวกเขาจึงหยุดตบตีพร้อมทั้งคุกเข่าลงด้วยท่าทีละอายใจในทันใด

“พวกท่าน คือท่านอ๋องเจ็ดและพระชายาอ๋องเจ็ดจริงๆ หรือ?” แม่เฒ่าหวังมิอยากจะเชื่อเลยว่าท่านอ๋องเจ็ดจักมาปรากฏตัวอยู่สถานที่เลวร้ายเช่นนี้ ก่อนจะเงยหน้ากวาดสายตาประเมินตงฟางหลี

เมื่อขันทีเห็นท่าทีไร้มารยาทของนางนั้น เขาจึงง้างมือตบไปที่ใบหน้าของแม่นมในทันที

ฝ่ามือใหญ่ที่ตบลงมานั้นทำเอาใบหน้าของแม่เฒ่าหวังบิดเบี้ยว

“ยังมิรีบหุบปากอีก ก้มหัวเสีย ช่างมิรู้จักกฎระเบียบเสียจริง” ขันทีเอ่ยดุด่าออกมา “ยังมิรีบขอพระราชทานอภัยต่อท่านอ๋องและพระชายาอีก”

“จักมาโทษข้าไม่ได้ ท่านอ๋ององค์ใดจักแต่งกายซอมซ่อเช่นนี้เล่า” แม่เฒ่าหวังยังบ่นโอดครวญออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์

ขันทีผู้เฒ่าที่เห็นเช่นนั้นก็โมโหเสียจนแทบจะอกแตกตายออกมา

ถึงแม้ว่าตำหนักชิงสุ่ยจะอยู่ห่างไกล ทว่า ก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ของพระราชวัง เรื่องราวสกปรกที่พวกนางทำเอาไว้นั้น ล้วนแต่เป็นเรื่องร้ายแรงที่สามารถทำให้หัวหลุดออกจากบ่าได้

หากพวกเขายอมรับความผิดของตนเองแต่โดยดี อย่างน้อยท่านอ๋องก็พอจะหลับหูหลับตาปิดตาหนึ่งข้างเปิดตาหนึ่งข้างไปบ้าง

“มีสิ่งใดที่พวกเจ้าไม่กล้างั้นหรือ?” น้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ตอนข้าอยู่ข้างนอกประตูนั้น ล้วนแต่ได้ยินทุกอย่างชัดเจน ที่แห่งนี้คือถิ่นของพวกเจ้า? ที่แห่งนี้พวกเจ้าเป็นใหญ่ที่สุด? ผู้ใดก็มิอาจมาบังคับจัดการพวกเจ้าได้?”

“พวกเจ้าถือเป็นผู้คุมกฎหมายที่แท้จริง ทั่วทั้งราชวงศ์ตงลู่ต่างก็เป็นของพวกเจ้า ทั้งข้าและท่านอ๋องมิกล้าทำให้พวกเจ้ามิพอใจเอาหรอก”

เมื่อแม่เฒ่าได้ยินเช่นนั้น สีหน้าพลันซีดเผือดลงไปในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้าของตนเองอย่างเต็มแรง “หม่อมฉันสมควรตาย หม่อมฉันสมควรตายเพคะ”

“เจ้าอย่าได้เสแสร้งทำเช่นนั้นให้ข้าเห็นเลย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูสตรีชั่วร้ายสองคนที่ชอบรังแกผู้อ่อนแอแต่หวาดกลัวผู้แข็งแกร่งด้วยความเย็นชา “เมื่อครู่วิธีการที่พวกเจ้าตบตีกันเองนั้น นับว่าน่าดูไม่น้อย ตบปากกันและกันซะ”

“พวกเจ้าทรมานกลั่นแกล้งน้องเก้ามานานนับสิบปี เช่นนั้นก็ตบปากคนละสามพันครั้ง ตบปากเสร็จก็ให้ไปซักเสื้อผ้าอาภรณ์ด้วยน้ำเย็นเสีย หากยังซักไม่เสร็จก่อนตะวันตกดิน ก็จงกินน้ำซักผ้าที่สกปรกให้หมด”

ทั้งแม่เฒ่าหวังและแม่เฒ่าโจวต่างพลันเบิกตาโต ตบปากสามพันครั้ง นั่นถึงแก่ชีวิตได้เลย

“พระชายาเพคะ ได้โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ พวกหม่อมฉันทำผิดไปแล้ว พระชายาได้โปรดมอบโทษสถานเบาด้วยเถิดเพคะ”

“ในเมื่อพวกเจ้ารู้ตัวว่ากระทำความผิดแล้ว เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเจ้าทำลงไปนั้น นับว่าข้าได้มอบโทษสถานเบาให้กับพวกเจ้าแล้วเช่นกัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงชี้นิ้วไปที่ขันทีเฒ่า “เจ้า จับตาดูพวกนางเอาไว้ หากพวกนางกล้าเล่นตุกติกหรือลักไก่ละก็ ทุกคนที่อยู่ในตำหนักชิงสุ่ยทั้งหมดจักต้องถูกลงโทษ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน