“เหยี่ยนเย่ว์” ตงฟางหลีพลันขมวดคิ้วเป็นปม “มิต้องไปสนใจพวกนางแล้ว รีบเข้ามาดูอาการแม่นมเถอะ สภาพนางดูมิสู้ดีนัก”
สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันแข็งค้างไปในทันทีเมื่อมาอยู่ต่อหน้าแม่นม ก่อนจะจับชีพจรที่ข้อมือของนางโดยไว
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ส่ายหัวไปมา “ไร้ทางช่วยแล้ว”
“ร่างกายของนางย่ำแย่มาก” ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับรู้สึกด้านชาไปในทันที เพียงแค่นางกวาดตามองดูแม่นมเพียงครู่เดียวนั้น นางก็รู้ได้ในทันทีว่า ไร้หนทางในการรักษาสตรีผู้นี้แล้ว
สีหน้านางมืดดำ ลมหายใจแผ่วบาง ร่างกายค่อย ๆ ส่งกลิ่นแปลก ๆ บางอย่างออกมา...
สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นสัญญาณแห่งความตาย
“หลายปีที่ผ่านมา นางคง...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดสิ่งใดไม่ออก “ไอ้เศษสวะพวกนั้น ใช้ร่างกายของนางหาเงิน”
แม่นมใช้ชีวิตของตนเองจนถึงลมหายใจสุดท้ายของตน ด้วยแรงใจที่แข็งแกร่งและปณิธานอันแรงกล้ามิยอมตกตายไปง่าย ๆ
นางยืนหยัดที่จะปกป้องเจ้าเก้า
“ท่านอ๋องเจ็ด พระชายาอ๋องเจ็ดเพคะ” แม่นมพยายามลืมตาขึ้นมา ใบหน้าที่ซูบตอบพร้อมทั้งหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาทั้งสองข้างแก้ม “เป็นพวกท่านจริง ๆ หรือเพคะ? พวกท่านมาเยือนเช่นนี้ ดียิ่งนัก”
“หม่อมฉัน หม่อมฉันทนไม่ไหวแล้วเพคะ”
“พวกท่านได้โปรด ช่วยเหลือองค์ชายเก้าด้วยเถิดเพคะ”
แม่นมเอาแต่กอดเด็กเอาไว้ในอ้อมแขนของตน “ช่วยเขา ได้โปรดอย่าทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่เพียงลำพังเลยเพคะ ได้โปรด…”
ใบหน้าของเด็กน้อยเหลืองซูบผอม นัยน์ตาหาได้ฉายแววสดใสไม่ ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าตงฟางอิงถึงสองปีก็ตาม หากแต่ตัวเล็กกว่ามากนัก
เด็กที่อายุถึงสิบขวบ ทว่า มองดูภายนอกคล้ายกับเด็กหกเจ็ดขวบก็ไม่ปาน
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิชอบเหตุการณ์เช่นนี้ยิ่งนัก ทั้งยังไม่ชอบเห็นเด็กที่ต้องชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมานอีกด้วย ดวงตาทั้งสองข้างของนางแดงก่ำ พร้อมทั้งจับมือของแม่นมเอาไว้ “ เจ้าสบายใจได้ ข้าจักพาเขาออกไปวันนี้เอง”
“ขอบพระทัยเพคะ” หลังจากได้ยินคำตอบของฉินเหยี่ยนเย่ว์นั้น แม่นมคล้ายกับยกภูเขาออกไปจากอก ก่อนจะหลับตาลง
เมื่อหัวเอียงตกไปอีกฝั่งหนึ่งนั้น มือทั้งสองจึงคลายออกมาในทันที


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน