จากนั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเห็นได้อย่างชัดเจน ว่ามีรอยประทับฝ่ามืออันโอหังสองรอยบนใบหน้าของเฟ่ยชุ่ย
“สาวใช้ข้างกายฮูหยินรองตบเจ้าหรือ?”
เฟ่ยชุ่ยพยักหน้าและสูดจมูก “พระนาง บ่าวไม่เป็นไรเพคะ”
“เป็นสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แอบเสียใจทีหลัง
นางอยากจะแกล้งทำเป็นอ่อนแอให้คู่ต่อสู้ตายใจ แล้วถือโอกาสคว้าชัยในท้ายที่สุด ให้ฮูหยินรองเสียเปรียบครั้งใหญ่ แต่กลับละเลยเรื่องเฟ่ยชุ่ยอาจถูกรังแก
“เฟ่ยชุ่ย” นางจับไหล่เฟ่ยชุ่ยด้วยมือทั้งสองข้าง “ข้าจะบอกว่าเจ้าใจดีมาก แต่ความใจดีไม่ใช่ความอ่อนแอ ไม่ใช่การให้คนอื่นกลั่นแกล้ง เจ้าต้องมีขอบเขตบ้าง”
“อีกสองสามวันกลับไปที่บ้านสกุลฉินกับข้า หากพวกนางรู้ผิด เจ้าอยากยกโทษก็ยกโทษไป และข้าก็ไม่ขวางเจ้า หากพวกนางมิไม่รู้ความผิดเลย เจ้าก็อย่าไปเกรงใจ”
“พระนาง บ่าวไม่เป็นไรจริง ๆ เพคะ ท่านอย่าเป็นห่วงบ่าวเลย” เสียงของเฟ่ยชุ่ยนิ่มนวล
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่พอใจที่เฟ่ยชุ่ยไม่สามารถดำเนินชีวิตตามความคาดหวังได้ เฟ่ยชุ่ยคนนี้ขี้ขลาดเกินไป
“เจ้าไม่ผิด แล้วถือสิทธิ์อันใดมาตบเจ้าด้วยล่ะ? ผู้ที่ตบคนโดยไร้เหตุผล ไม่ว่าจะถูกทุบตีหรือยอมรับผิด ก็ควรแก้ไขและขอโทษ เข้าใจไหม?”
เฟ่ยชุ่ยพยักหน้าอย่างแรง “ฮูหยินรองไม่ได้ทำให้พระนางลำบากใจใช่ไหมเพคะ?”
“ในใจของนางมีความสุขน่ะ จึงไม่ได้ทำข้าลำบากใจ” ดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์เย็นชา
ฮูหยินรองกำลังทดสอบนาง สังเกตนาง
ต่อมาเมื่อเขาเห็นนางนำสมบัติล้ำค่าออกมา จึงได้ลดความระมัดระวังลง
ฮูหยินรองมาที่นี่เพื่อถามไถ่ว่าเรื่องราวของมู่เหยี่ยนั้นเป็นเท็จ ทว่าการสืบความจริงแทนฉินเสวี่ยเย่ว์นั้นเป็นจริง
“เจ้ากลับไปก่อน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบไหล่เฟ่ยชุ่ย “ข้าจะกลับตำหนักหมิงอวี้”
เมื่อนางเร่งรุดกลับไปยังตำหนักหมิงอวี้ รู้สึกโกรธมากจนดื่มชาไปสามแก้วถึงได้สงบลง
หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์กระตุกสองครั้ง
นางเกือบลืมไปแล้ว ว่าไป๋โค้วผู้ใจร้อนเหี้ยมโหดและมีกำลังสู้รบอย่างมากนั้นเป็นฮัสกี้ที่สามารถทำลายบ้านได้อย่างมาก
“พูดขึ้นมาแล้ว ไป๋โค้วเป็นท่านที่ส่งมาทรมานข้านี่” นางบิดตงฟางหลี “บัญชีนี้ เราต้องคำนวณ”
“จะคำนวณอย่างไร?” ตงฟางหลีดึงนางเข้ามา ระยะห่างระหว่างตรงปลายจมูกน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว
ตู้เหิงหันกลับมาทันที “ข้าเป็นเด็กดีบริสุทธิ์ ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านจะให้กำเนิดผู้สืบทอดน้อยอย่างไร”
ตงฟางหลีฟังเรื่องเหลวไหลของเขาพลางมุ่นคิ้ว “เจ้ายังอยู่ตรงนี้ทำไมกัน? ไม่ได้ยินคำสั่งของพระชายาหรือ? ส่งเฟยอิ่งไปตาม”
“พ่ะย่ะค่ะ” หลังจากที่ตู้เหิงปิดประตู เขาก็เปิดประตูอย่างถ่อมตัว “ท่านอ๋องไม่สบาย ต้องทำเท่าที่ทำได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
“ไสหัวไป!” ตงฟางหลีโยนแจกันเล็กไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน