“เรียกข้าว่าศิษย์พี่อีกครั้งข้าก็จักสอนเจ้า” ลู่จิ้นดีอกดีใจราวกับเด็ก ๆ
“ไม่ว่าจะเป็นการฝังเข็ม จับชีพจร หรือแม้กระทั่งผ่าตัด ล้วนจำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์จำนวนมาก มิใช่สิ่งที่ทำได้โดยง่าย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “ศิษย์พี่ ข้าจะค่อย ๆ เรียนรู้เจ้าค่ะ”
ลู่จิ้นดีอกดีใจยิ่งนัก พลันเริ่มพูดคุยไม่หยุดว่าจะเอาความรู้ที่เขาสะสมมาทั้งชีวิตสอนให้แก่นาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกปวดหัวทันที
“ตู้เหิง เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้?” ตงฟางหลีมาบังด้านหน้านางแบบเนียน ๆ บังสายตาของลู่จิ้น ก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง “เหตุใดถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่ตำหนักหมิงอวี้ได้?”
“โอ้” ตู้เหิงตบศีรษะ “กระหม่อมเกือบลืมไปเลยพ่ะย่ะค่ะ เฟยอิ่งบอกว่า เด็กคนนี้เป็นสาวใช้ของพระชายาท่านอ๋องสาม ชื่อว่าหงเซียวพ่ะย่ะค่ะ”
“บอกอีกด้วยว่าพระชายาสามไม่รู้เหตุใดถึงทุบตีสาวใช้คนนี้ สาวใช้คนนี้ก็เป็นคนที่มีอารมณ์หุนหันเช่นกัน ไม่ยินยอมถูกทุบตี หลังจากที่ทำร้ายพระชายาอ๋องสามอย่างรุนแรง ก็โขกศีรษะครั้งเดียวจนตาย ตอนที่นางโขกศีรษะนั้น ท่านอ๋องสามบังเอิญมาถึงพอดี พวกท่านลองทายว่าเกิดสิ่งใดขึ้น?”
“เลิกอุบได้แล้ว พูดมา” ตงฟางหลีกล่าวเสียงดุ
“ท่านอ๋องสามเห็นว่านางตายแล้ว ก็ปวดใจยิ่งนัก จึงตำหนิพระชายาอ๋องสามไปสองสามประโยค ครั้นพระชายาอ๋องสามมีโทสะขึ้นมาบ้าง เขาก็หันไปโยนเด็กคนนี้ให้หมาป่ากินพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงถอนหายใจ “เฟยอิ่งยังบอกอีกว่าสาวใช้คนนี้เป็นนางกำนัลที่สอนเรื่องทางโลก เคยเป็นสตรีที่ท่านอ๋องสามโปรดปรานยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ แต่กลับมีจุดจบให้หมาป่ากิน ช่างเหี้ยมโหดเสียจริง”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะด้วยความเย็นชา
ท่านอ๋องสามมีนิสัยเย็นชา ในดวงตาทั้งสองข้างนั้นมีเพียงเล่ห์เพทุบายและผลประโยชน์ เป็นบุรุษที่จิตใจเหี้ยมโหดคนหนึ่ง
สาวใช้คนนี้หมดประโยชน์แล้ว จะมีจุดจบเช่นนี้ก็มิใช่เรื่องแปลก
หากมีสักวัน ที่ผลประโยชน์ของฉินเสวี่ยเย่ว์ถูกบีบจนแห้งแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะน่าเวทนากว่าสาวใช้คนนี้ก็เป็นได้
“ในเมื่อเป็นคนของจวนท่านอ๋องสาม เช่นนั้นก็มิอาจเก็บไว้ในจวนอ๋องเจ็ดได้” ลู่ซิวกล่าว “ท่านอ๋องสามเป็นโรคหวาดระแวงอย่างรุนแรง หากถูกคนพบว่าหงเซียวปรากฏตัวขึ้นที่จวนอ๋องเจ็ด อีกทั้งยังกลายเป็นสภาพแบบนี้ อาจจะถูกกัดตอบก็ได้ ถึงตอนนั้น ถึงพวกเรามีปากก็ยากจะแก้ต่างให้ตนเองได้”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยักหน้า “ข้าเห็นด้วยกับลู่ซิว”
ลู่จิ้นรีบยกมือขึ้น “ข้าก็คิดเหมือนกับศิษย์น้อง อีกอย่าง เจ้าเจ็ด เจ้าเป็นประสาทหรืออย่างไร ไยต้องบังข้ามองศิษย์น้องอยู่ตลอดด้วย?”
“ผู้ใดบอกว่าข้าไม่ยินยอม?” ลู่จิ้นเครากระพือ “หากศิษย์น้องไปเที่ยวที่บ้านของข้าได้ ข้าก็จักต้อนรับด้วยสองมือสองเท้าเอง ลู่ซิว ประเดี๋ยวพาเด็กหญิงคนนี้ไปที่บ้านข้าด้วย ข้าพนันด้วยชื่อเสียงของนักพรตเต๋าเทียนหลิง ว่าจะต้องช่วยชีวิตนางได้แน่นอน”
ลู่ซิวเหลือบมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยความซาบซึ้งใจ
ขอเพียงแค่เข้าเรือนของบรรพบุรุษ ต่อให้ท่านอ๋องสามสืบได้ก็ไม่กล้าทำอะไรอยู่ดี
ลู่จิ้นใจกว้างมาก จนฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดที่หลอกใช้ประโยชน์จากเขาอีกครั้ง
“นางเพิ่งจะอาเจียน ยังมิอาจเคลื่อนย้ายได้ชั่วคราว ต้องนอนนิ่ง ๆ อย่างน้อยสองชั่วยาม” ลู่จิ้นลูบเครา หัวเราะฮี่ฮี่ออกมา “ศิษย์น้อง ข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเจ้าสองชั่วยาม”
เขาเข้าไปถึงตรงหน้าของนาง “เจ้าไม่รังเกียจผู้เฒ่าอย่างข้าใช่หรือไม่?”
“ไม่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้ม “ตงฟางหลี ในจวนพวกเราน่าจะซ่อนสุราดีไว้ไม่น้อย เอามาให้ศิษย์พี่ชิมสักหน่อยเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน