“หากเจ้าเป็นอันดับสอง ผู้ใดเป็นผู้จัดอันดับนี้กัน แล้วใช้เกณฑ์อันใดเป็นตัวตัดสิน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกสนใจขึ้นมาบ้าง
ความบันเทิงในยุคโบราณนั้น ดูจะน่าสนุกกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้เสียอีก
“เป็นหอหมิงเย่ว์พ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าว “อันดับจักถูกจัดขึ้นปีละครั้ง ทว่า ท่านอ๋องรั้งอยู่อันดับหนึ่งเป็นเวลาสามปีติดต่อกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ตู้เหิงพลันยกมือเกาหัว พร้อมทั้งหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา “ปีนี้อันดับของกระหม่อมเพิ่งจะถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับที่ยี่สิบเท่านั้น”
“ห้ะ ตงฟางหลีอันดับหนึ่ง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่พยักหน้าลงเล็กน้อย นับว่าเขามีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับมันจริง ๆ
“ผู้ใดเป็นอันดับสอง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยถาม
“ไม่มีที่สองพ่ะย่ะค่ะ มีเพียงท่านประมุขหอหมิงเย่ว์เท่านั้นที่รั้งอยู่อันดับหนึ่งเสมอกันกับท่านอ๋อง หากจำเป็นจักต้องเลือกอันดับที่สองละก็ กระหม่อมคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้”
“น่าสนใจยิ่งนัก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หาได้คิดสนใจคำพูดประโยคหลังของตู้เหิงไม่ พลางจับคางของตนเองเล็กน้อย “ทั้งเขาและตงฟางหลีต่างก็มิมีผู้ใดด้อยกว่าผู้ใดเลยงั้นหรือ?”
“กระหม่อมมิเคยเห็นเขามาก่อนพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าว “กระหม่อมได้ยินมาว่าเขารูปงามหล่อเหลายิ่งนัก ทุก ๆ ท่วงท่ากลับสามารถทำให้ผู้คนใจสั่นได้ ถึงแม้ว่าตัวเขาจักมิค่อยปรากฏตัวในหอหมิงเย่ว์บ่อยนัก ทว่า แขกเรือที่มาเยี่ยมเยียนหอหมิงเย่ว์กลับมีไม่ขาดสายโดยเฉพาะสตรี ทั้งยังมีผู้คนที่เสียเงินทองมากมายเพียงเพราะต้องการพบหน้าค่าตาของประมุขของหอสักครั้ง น่าเสียดายยิ่งนัก ที่ประมุขของหอหมิงเย่ว์มิค่อยอยู่ในเมืองเหวินจิง”
จู่ ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์กลับฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า “ ที่แท้หอหมิงเย่ว์ก็คือหอนายโลมเช่นนั้นหรือ”
“ไม่ได้สิ หากว่าหมิงหมิงเย่ว์เป็นหอนายโลมจริง เหตุใดต้องให้ตงฟางหลีเป็นอันดับหนึ่งด้วย?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางขมวดคิ้วเป็นปม “ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงท่านอ๋อง”
“พระชายากำลังคิดสิ่งใดอยู่พ่ะย่ะค่ะ? หอหมิงเย่ว์นั้นสามารถดื่มชาฟังเพลงได้ ทั้งยังสามารถเลือกเครื่องประดับ อัญมณี แป้งชาดที่ท่านชื่นชอบได้ รวมไปถึงสามารถสั่งตัดเสื้อผ้าอาภรณ์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจักเป็นสิ่งของแบบใด ทุกอย่างล้วนแต่มีความโดดเด่นไม่เหมือนผู้ใดอีก แม้แต่ฮ่องเต้เองยังมักจะเสด็จมานั่งฟังเพลงเป็นการส่วนตัว หอนายโลมคือสิ่งใดกันพ่ะย่ะค่ะ?”
“เอ๊ะ?” หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาสองสามครั้ง
ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมหาได้มีข้อมูลของหอหมิงเย่ว์ไม่
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ ท่านมิรู้อะไรเกี่ยวกับหอหมิงเย่ว์เลยหรือ?” ตู้เหิงพลันหันมามองนางด้วยความสงสัย
เขาพลางถอนหายใจออกมา “กระหม่อมได้ยินมานานแล้ว ตระกูลฉินของพระชายามิค่อยรักใคร่เอ็นดูพระชายานั้น เกรงว่าจะเป็นเรื่องจริง ตระกูลฉินต้องการเลี้ยงดูท่านให้เป็นพวกไม่รู้เรื่องราวภายนอกหรืออย่างไร พระชายาช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ ท่านอย่าได้หลุดปากเอ่ยเรื่องนี้ออกไปเชียว”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองไปที่เขา
นางนึกสงสัยยิ่งนัก ว่าการมีอยู่ของตู้เหิงนั้นเพื่อทำให้ตงฟางหลีขายหน้าใช่หรือไม่
“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดท่านจึงมองกระหม่อมเช่นนั้น?” ตู้เหิงพลางหดไหล่ลง “กระหม่อมกลับคิดว่าเรื่องนี้น่าสนุกยิ่งนัก ไม่เพียงแต่ด้านความงามหรือความแข็งแกร่งท่านอ๋องยังครองอันดับหนึ่งมาเป็นเวลาสามปีติดต่อกันได้”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเอามืออุ่น ๆ ปิดจมูกของตนเอง “เรื่องสนุก ๆ เช่นนี้ หากถูกตงฟางหลีทำลายทิ้งไปก็หาได้สนุกไม่ เจ้าวางใจเถอะ ข้าจักไม่บอกเขาอย่างแน่นอน พวกเราอย่าเพิ่งเอ่ยถึงเรื่องนี้จักดีกว่า ตู้เหิง เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่ามีคนกำลังสะกดรอยตามพวกเราอยู่?”
หลังจากออกจากจวนอ๋องเจ็ดมาได้ไม่นาน ก็มีคนลอบติดตามพวกนางมา
เดิมทีนางคิดว่าเป็นเพียงแค่คนที่เดินทางเส้นเดียวกันเท่านั้น ทว่า แม้แต่รถม้าที่ขี่มาเป็นเวลานานเช่นนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็ยังเอาแต่ติดตามนางอยู่ไม่ไกล

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน