เนื่องจากหอหมิงเย่ว์เป็นหอคอยเจดีย์ทรงชั้น ๆ ยิ่งสูงมากเท่าใด พื้นที่ยิ่งเล็กลงเท่านั้น อีกทั้งสินค้ายิ่งมีความประณีตมากขึ้นไปอีก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเดินวนไปรอบๆ พร้อมทั้งสะดุดตาเข้ากับสร้อยคอพลอยรัตนชาติสีมูลนกการเวกขึ้นมา
พลอยเม็ดเล็ก ๆ ที่ถูกแกะสลักภาพทิวทัศน์เอาไว้ ใต้แสงจันทราที่ส่องสว่าง สตรีเดียวดายนั่งในป่าไผ่ พร้อมด้วยมือที่ถือพิณเจ็ดสาย
เสมือนดั่งผู้คนในป่ามิรับรู้ หากแต่แสงจันทรากลับส่องถึง
เสมือนดั่งนามของเย่ว์ลู่
“เสี่ยวเอ้อร์ เส้นนี้ราคาเท่าใด?”
“เส้นนี้เป็นข้าที่เจอก่อน” ยังมิทันที่เสี่ยวเอ้อร์จักได้ตอบกลับ หญิงสาวที่สวมใส่อาภรณ์สีไข่ห่านพร้อมด้วยหน้ากากลายกระต่ายก็มาแย่งสร้อยคอเส้นนั้นไป
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับหรี่ตาลง
ในที่สุด เด็กน้อยที่เอาแต่ลอบติดตามนางก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสียที
หากว่าแม่นางน้อยยอมปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่านางมิได้ลอบติดตามนางเพื่อสืบหาข้อมูล แต่เป็นเพราะต้องการพุ่งมาที่ตัวตนของนางต่างหาก
นับว่าง่ายต่อการจัดการยิ่งนัก
“แม่นางน้อย เจ้าสมควรทำตามกฎกติกาผู้มาก่อนมาหลังมิใช่หรือ ยามที่ข้าถูกใจสร้อยเส้นนี้ เจ้าหาได้ปรากฏตัวขึ้นไม่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว
“มาก่อนได้ก่อนหรือ? น่าขันเสียจริง สร้อยเส้นนี้มาอยู่ในมือข้าก่อน ย่อมเป็นข้าที่ได้ก่อน เจ้าที่ยังมิได้เอาย่อมต้องไปทีหลัง มีปัญหาอันใดหรือไม่?” เด็กสาวพลางแกว่างสร้อยคอในมือไปมา “มิใช่ว่าเจ้ามองดูสิ่งใด ของสิ่งนั้นข้ามิอาจเอามาได้กระมัง? ทุกท่านว่าจริงหรือไม่เล่า?”
นางเพิ่มเสียงของตัวเองให้ดังขึ้น
เมื่อมีคนเข้ามาล้อมดูนั้น ทุกคนจึงต่างพากันพูดคุยขึ้นมา
“ผู้ใดหยิบได้ก่อนย่อมเป็นของคนผู้นั้น จักซื้อของสิ่งใดย่อมมีเหตุมีผล” สตรีร่างผอมพลางกล่าวขึ้น
“มีเครื่องประดับมากมายในหอหมิงเย่ว์ คงมิใช่ว่าต้องตาท่านแล้ว ผู้อื่นก็มิอาจซื้อมันได้กระมัง” สตรีร่างอ้วนพลันกล่าวสมทบขึ้นมา “เช่นนี้ไร้เหตุผลยิ่งนัก”
สตรีวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมกับอ้วนสองคนนั้น เป็นดั่งที่ตู้เหิงกล่าวออกมา
พวกเขาต่างพากันส่งพากันร้องรับ ทำให้ดึงดูดผู้คนให้มามุงดูอย่างมากมาย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน