ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองหาเครื่องประดับที่มีราคาสมเหตุสมผลสองสามชิ้นจนพบ “แม่นางผู้ดูแล ข้าก็เลือกสองสามชิ้นนี้แล้วกัน”
เมื่อผู้ดูแลหญิงเห็นว่าในหมู่เครื่องประดับที่นางเลือก ยกเว้นแค่ปิ่นระย้าที่มีมูลค่าสามร้อยตำลึง เครื่องประดับอื่น ๆ ก็มีราคาน้อยกว่าหนึ่งร้อยตำลึงทั้งนั้น นางไม่ได้ฉวยโอกาสเลย ซึ่งทำให้ผู้ดูแลหญิงรู้สึกดีกับนาง
นางใช้บรรจุภัณฑ์งดงามห่อเครื่องประดับ แพรต่วนที่ห่อกล่องนั้นหลากสีสัน เพื่อป้องกันไม่ให้หยิบผิด ก่อนจะนับตั๋วเงินเป็นจำนวนสี่พันตำลึง “ฮูหยิน ท่านเชิญรับไปได้เลย”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยักหน้า “ขอบคุณมาก แล้วข้าจะกลับมาอีก คุณหนูรองซู เป็นเจ้าที่ชนะแล้ว ข้าแนะนำให้เจ้ารีบกลับบ้านเสีย ลาก่อน”
ซูเตี่ยนซวงรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางกลับไม่พบว่าปัญหาอยู่ตรงที่ใด
กระทั่งนางเห็นผู้ดูแลหญิงหยิบตั๋วเงินสี่พันตำลึงออกมาจากในบรรดาตั๋วเงินของนาง แล้วส่งมอบให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ถึงได้รู้ว่าตรงไหนที่ผิดปกติ
นางใช้เงินหนึ่งหมื่นตำลึงเพื่อซื้อโค้งคํานับสามครั้ง คำขอโทษหนึ่งคำ และสร้อยคอพัง ๆ ของฉินเหยี่ยนเย่ว์น่ะหรือ?
เงินหนึ่งหมื่นตำลึงนั้นยังถูกฉินเหยี่ยนเย่ว์เอาไปสี่พันตำลึงอีกด้วย
นาง...ถูกหลอก!
“ท่านหยุดเสีย” ซูเตี่ยนซวงกระทืบเท้า “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ท่านหยุดเสีย”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินออกจากหอหมิงเย่ว์แล้ว
เมื่อได้ยินว่าซูเตี่ยนซวงยังคงตะโกน นางจึงหมุนตัวกลับ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหนูซู ก่อนที่จะเริ่มการประมูล พวกเราได้ลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว สำหรับสำเนานั้น เจ้า ข้า หอหมิงเย่ว์ต่างก็มีสำเนาหนึ่งฉบับ และเจ้าก็ลงนามด้วยตัวเองไปแล้ว หยุดเจตนาก่อกวนอีกได้แล้ว”
“ข้าทำตามกฎแล้ว ขอโทษเจ้า และเจ้าก็ควรทำตามกฎด้วยเช่นกัน”
ซูเตี่ยนซวงสะอึก
นางโกรธแทบตาย แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
นางต้องการชำระบัญชีกับหอหมิงเย่ว์ แต่ผู้ดูแลหญิงได้มอบสำเนาให้นางโดยตรง ทั้งยังเตือนนางว่าหากนางยังคงสร้างปัญหาต่ออีก ก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน