ใบหน้าตอนนี้กับใบหน้าเดิมของนางคล้ายคลึงกันยิ่ง แต่ลักษณะท่าทางในตอนนี้ดูโบราณกว่า และผิวพรรณก็ดีกว่าเล็กน้อย
นางไม่ค่อยรำคาณการแต่งกายในตอนนี้สักเท่าใด
เฟ่ยชุ่ยทาสีผึ้งลงไปบนริมฝีปากขอนางเล็กน้อย “เสร็จแล้วเพคะ”
นางหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นพวกขนมและผลไม้ให้นางเล็กน้อย “บ่าวได้ยินมาว่า หลังจากเข้าวังจะทรงทานอะไรได้ไม่มากเท่าใดนัก พระนางร่างกายอ่อนแอ หิวทั้งวันจะแย่เอานะเพคะ ท่านเก็บขนมบางส่วนเอาไว้ในแขนเสื้อ ฉวยโอกาสตอนที่ผู้คนไม่สังเกตหยิบออกมาทานรองท้องก่อนก็ได้เพคะ”
“ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ซ่อนขนมไว้ในแขนเสื้อทั้งสองข้าง “เฟ่ยชุ่ย เจ้าอย่าประมาทโดยเด็ดขาด ดูแลหู่พั่วให้ดี ป้อนข้าวนางตามวิธีการที่ข้าสอนเจ้า”
“อาการป่วยของเจ้ายังไม่หายดี ต้องกินยาตรงเวลา”
“บ่าวจะจดจำเอาไว้เพคะ” เฟ่ยชุ่ยกล่าว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ใบหน้าหนักใจ เมื่อคืนนี้พวกเขาสองคนทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง พบหน้ากันอีกครั้งต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
ตอนที่มาถึงตำหนักหมิงอวี้ ตงฟางหลีได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้ารูปแบบเดิม มาเป็นเครื่องแต่งกายที่ใช้เฉพาะเชื้อพระวงศ์ เครื่องแต่งกายมีสีดำ ไหล่ทั้งสองข้างปักรูปภาพมังกรด้วยด้ายคู่สีเงินและม่วง สอดรับกับรูปภาพหงส์ที่อยู่บนเครื่องแต่งกายของนาง
กว้านมีเก้าชั้น ด้านบนมีปิ่นปักผมสีทองยึดเอาไว้ ก็สอดรับกับกว้านหงส์ที่นางสวมใส่เช่นกัน
แตกต่างจากเทพเซียนในอดีต ตรงที่มีความสง่าผ่าเผยของความเป็นบุรษมากขึ้น
ตงฟางหลีเห็นนางมาถึง จึงเอ่ยเสียงเรียบ “ออกเดินทางเถิด”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึง
สีหน้าท่าทางของตงฟางหลีไม่ใส่ใจของเจา น้ำเสียงเย็นชาห่างเหิน ไม่ต่างอะไรจากอดีต
เรื่องทุกอย่างเมื่อคืนวานนี้ ราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ช่างเป็นบุรุษที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ
คำกล่าวนำมากมายที่นางเตรียมไว้สำหรับคลี่คลายสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจกลับไม่ได้ใช้งาน จึงจำต้องอยู่เงียบ ๆ
รถม้าที่เข้าวังจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากขึ้นรถม้า ต่างฝ่ายต่างไม่พูดจา นิ่งเงียบจนรู้สึกกระอักกระอ่วน
ตงฟางหลีหลับตาทำสมาธิอยู่ข้าง ๆ อย่างเย็นชา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คร้านจะหาหัวข้อสนทนา จึงเปิดผ้าม่านขึ้นเล็กน้อย แอบมองไปทางด้านนอก
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน