ตงฟางหลีพลันหลุบสายตาลง เพื่อปกปิดนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเอาไว้ ก่อนจะกดเสียงต่ำกระซิบกล่าวเตือนว่า “อีกครู่หนึ่ง เจ้าควรคิดให้รอบคอบเสียก่อนคิดจะเอ่ยสิ่งใดออกมา”
กองเพลิงในครานี้ นับว่าเผาไหม้รุนแรงยิ่งนัด หากเอ่ยปิดพลาดแม้เพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้พวกนางถูกเพลิงเผาไหม้จนเละเป็นจุลณก็ว่าได้
“ท่านอ๋องเจ็ด” ยามที่ท่านอ๋องหลูหยางเห็นพวกเขาทั้งสองมาถึงนั้น พลันยกมือขึ้นตบโต๊ะอย่างเต็มแรงด้วยใบหน้าดำทะมึนทึน“กองกำลังองครักษ์ได้ทำการสืบสวนโดยละเอียดแล้ว พบว่ามีเพียงท่านเท่านั้นที่เข้าไปใกล้เรือนแห่งนั้น อีกทั้งเข้าไปไม่นานก็รีบร้อนออกมา หลังจากท่านออกไปได้ไม่นาน ลู่เอ๋อร์ก็ถูกคนมาพบเจอว่าสิ้นใจเสียแล้ว ท่านมีสิ่งใดจักพูดอีกหรือไม่?”
ตงฟางหลีจึงโค้งกายทำความเคารพ พลางเอ่ยว่า “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องหลูหยางพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้เดินผ่านเรือนแห่งนั้นจริงพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องหลูหยางพลันส่งเสียงตวาดออกมาอย่างเย็นชาในทันที “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ อ๋องเจ็ดกลับยอมรับออกมาด้วยตนเองเช่นนี้ กระหม่อมได้ยินมาว่า นับตั้งแต่ที่เขามีอาการปวดหัวขึ้นมานั้นพลันมีนิสัยเปลี่ยนไป ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอนเลยพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าขององค์จักรพรรดิพลันเปลี่ยนไปในทันที
องค์หญิงเย่ว์ลู่ถูกคนดูหมิ่นทั้งยังถูกสังหารภายใต้พระเนตรพระกรรณของตนเองเช่นนี้ ทั้งยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นในวันมงคลเช่นนี้อีก เสมือนกับเป็นการตบหน้าพระองค์อย่างแรงยิ่งนัก
ศักดิ์ศรีและความเคารพขององค์จักรพรรดิของแว่นแคว้นนับว่าหมดสิ้นไปเสียแล้ว
หากเขามิอาจมอบความเป็นธรรมให้กับเรื่องนี้ได้แล้วไซร้ ไม่เพียงตามิอาจอธิบายเรื่องนี้ให้อ๋องหลูหยางฟังเท่านั้น แต่ยังมิอาจเป็นตัวแทนมอบความเป็นธรรมให้กับบรรพบุรุษของราชวงศ์ฟังอีกด้วย
“เจ้าเจ็ด เจ้ามีสิ่งใดจะเอ่ยออกมาหรือไม่?” องค์จักรพรรดิเอ่ยถาม
“เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกเดินผ่านเรือนแห่งนั้นจริง แต่ลูกหาได้เข้าไปในเรือนแห่งนั้นไม่ เรื่องนี้ขอเพียงแค่ท่านทำการสืบหาย่อมทราบได้ในทันที” ตงฟางหลีพลางยืนตัวตรง พร้อมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
“ในเมื่อมิได้เข้าไปด้านใน แล้วเหตุใดต้องไปเดินอยู่แถวนั้นด้วยเล่า?” อ๋องหลูหยางที่รู้สึกเศร้าและโมโหไปในคราเดียวกัน พลางเดินจ้ำอ้าวเข้ามาหาในทันที “รีบพูดมา”
ตงฟางหลีได้แต่หลุบสายตาลง พร้อมใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ต่อหน้าเสด็จพ่อนั้น เขามิอาจพูดปดได้
ทว่า หากบอกความจริงกับเสด็จพ่อและท่านอ๋องหลูหยางไป ว่าเป็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ได้กลิ่นคาวเลือดก่อนนั้น เกรงกลัวว่าเรื่องราววุ่นวายจักมาถึงตัวจึงได้รีบเดินหนีออกมาเสียก่อน ย่อมมิส่งผลดีออกมาอย่างแน่นอน รังแต่จะทำให้พวกเขาดูน่าสงสัยมากกว่าเดิมเสียอีก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเหลือบตามองไปที่ตงฟางหลีเล็กน้อย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน